03 กุมภาพันธ์ 2558 AIS คาด ตลาดผู้ให้บริการมือถือหรือโมบาย จะมีการเติบโต230,000 ล้านบาท ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ จะเติบโต120,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดการสื่อสารแบบใช้สาย หรือ ฟิกซ์ ไลน์ จะเติบโต62,000 ล้านบาท
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปีนี้ เอไอเอสคาดว่าตลาดผู้ให้บริการมือถือหรือโมบาย จะมีการเติบโต 3% หรือมีมูลค่าประมาณ 230,000 ล้านบาท ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ จะเติบโตประมาณ 10% หรือ 120,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดการสื่อสารแบบใช้สาย หรือ ฟิกซ์ ไลน์ จะเติบโตประมาณ 15% หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท
_____________________________________________________
เอไอเอส บอกว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยุคอินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ (IoT) หรืออุปกรณ์ทุกอย่างเชื่อมต่อกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต กำลังเกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย
แต่การเปลี่ยนก็ไม่ได้เปลี่ยนทุกอย่าง สิ่งที่ดี ๆ จะยังคงไว้ และปรับเพิ่มในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งเอไอเอสพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรกับทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปีนี้ เอไอเอสคาดว่าตลาดผู้ให้บริการมือถือหรือโมบาย จะมีการเติบโต 3% หรือมีมูลค่าประมาณ 230,000 ล้านบาท ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ จะเติบโตประมาณ 10% หรือ 120,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดการสื่อสารแบบใช้สาย หรือ ฟิกซ์ ไลน์ จะเติบโตประมาณ 15% หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท
เอไอเอส มีการวางรากฐานเทคโนโลยีรองรับการเติบโตดังกล่าว โดยปรับเสริมเทคโนโลยีและบริการ ซึ่งหลัก ๆ คือ การขยายเครือข่าย 3 จีอย่างต่อเนื่อง เพิ่มสถานีฐานอีก 9,000 สถานีในปีนี้ และพร้อมประมูล 4 จี ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการรองรับการก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิตอล
มีบริการฟิกซ์ บรอดแบนด์ ที่ใช้ชื่อว่าเอไอเอส ไฟเบอร์(AIS Fibre)ให้บริการอินเทอร์เน็ตบนโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fibre Opti c) ที่วางไว้แล้วกว่า 120,000 กิโลเมตร รับ-ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 1Gbps รองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านกล่องเอไอเอส เพลย์ บ๊อกซ์ ที่รองรับเนื้อหาความบันเทิงได้จากทุกค่าย ด้วยความละเอียดระดับ 4 เค ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ผู้บริหารเอไอเอสบอกว่า เครือข่ายฟิกซ์ บรอดแบนด์นี้ จะเข้าถึงบ้านกว่า 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังจะพัฒนาคุณภาพเอไอเอสไวไฟ สู่การเป็นเอไอเอสซุปเปอร์ไวไฟ ที่มีความเร็วสูงสุด 600 Mbps ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการที่ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย และถนนคนเดิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ นครปฐม เชียงใหม่ นครราชสีมา ภูเก็ต
ส่วนการขยายบริการดิจิตอล จะมีทั้ง เอไอเอสคลาวด์ ที่ลูกค้าเอไอเอสสามารถจัดเก็บข้อมูล ไว้บนเอไอเอสคลาวด์ ได้ตลอดชีวิต บนพื้นที่สูงสุด 20 GB บริการเอ็มเพย์ (mPAY) หรือโมบายมันนี่ ที่เป็นรายเดียวที่ฝากเงินและได้ดอกเบี้ย โดยร่วมกับซีไอเอ็มบีไทย เปิดบีท แบงกิ้ง บริการบัญชีเงินฝากออมทรัพย์บนมือถือ รวมถึงมีบริการแบบที่ไม่มีเบอร์บัญชีก็โอนเงินและเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ นอกจากนี้ยังมีโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจอีกหลากหลายบริการ
แม้วันนี้รายได้หลักของเอไอเอสจะมาจากการให้บริการด้านเสียงและข้อมูล แต่จากวิสัยทัศน์ 5 ปีข้างหน้า บอกได้ว่า เอไอเอสพร้อมที่จะปรับตัว และเมื่อเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลอย่างเต็มตัว วันนั้น...รายได้จากบริการดิจิตอลเหล่านี้ย่อมมีมหาศาลแน่นอน!!!.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/298310/เอไอเอสเปิดวิชั่น+2015+ก้าวสู่ผู้นำบริการดิจิตอล
ทั้งนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปีนี้ เอไอเอสคาดว่าตลาดผู้ให้บริการมือถือหรือโมบาย จะมีการเติบโต 3% หรือมีมูลค่าประมาณ 230,000 ล้านบาท ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ จะเติบโตประมาณ 10% หรือ 120,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดการสื่อสารแบบใช้สาย หรือ ฟิกซ์ ไลน์ จะเติบโตประมาณ 15% หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท
_____________________________________________________
เอไอเอส บอกว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยุคอินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ (IoT) หรืออุปกรณ์ทุกอย่างเชื่อมต่อกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต กำลังเกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย
แต่การเปลี่ยนก็ไม่ได้เปลี่ยนทุกอย่าง สิ่งที่ดี ๆ จะยังคงไว้ และปรับเพิ่มในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งเอไอเอสพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรกับทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปีนี้ เอไอเอสคาดว่าตลาดผู้ให้บริการมือถือหรือโมบาย จะมีการเติบโต 3% หรือมีมูลค่าประมาณ 230,000 ล้านบาท ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ จะเติบโตประมาณ 10% หรือ 120,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดการสื่อสารแบบใช้สาย หรือ ฟิกซ์ ไลน์ จะเติบโตประมาณ 15% หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท
เอไอเอส มีการวางรากฐานเทคโนโลยีรองรับการเติบโตดังกล่าว โดยปรับเสริมเทคโนโลยีและบริการ ซึ่งหลัก ๆ คือ การขยายเครือข่าย 3 จีอย่างต่อเนื่อง เพิ่มสถานีฐานอีก 9,000 สถานีในปีนี้ และพร้อมประมูล 4 จี ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการรองรับการก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิตอล
มีบริการฟิกซ์ บรอดแบนด์ ที่ใช้ชื่อว่าเอไอเอส ไฟเบอร์(AIS Fibre)ให้บริการอินเทอร์เน็ตบนโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fibre Opti c) ที่วางไว้แล้วกว่า 120,000 กิโลเมตร รับ-ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 1Gbps รองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านกล่องเอไอเอส เพลย์ บ๊อกซ์ ที่รองรับเนื้อหาความบันเทิงได้จากทุกค่าย ด้วยความละเอียดระดับ 4 เค ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ผู้บริหารเอไอเอสบอกว่า เครือข่ายฟิกซ์ บรอดแบนด์นี้ จะเข้าถึงบ้านกว่า 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังจะพัฒนาคุณภาพเอไอเอสไวไฟ สู่การเป็นเอไอเอสซุปเปอร์ไวไฟ ที่มีความเร็วสูงสุด 600 Mbps ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการที่ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย และถนนคนเดิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ นครปฐม เชียงใหม่ นครราชสีมา ภูเก็ต
ส่วนการขยายบริการดิจิตอล จะมีทั้ง เอไอเอสคลาวด์ ที่ลูกค้าเอไอเอสสามารถจัดเก็บข้อมูล ไว้บนเอไอเอสคลาวด์ ได้ตลอดชีวิต บนพื้นที่สูงสุด 20 GB บริการเอ็มเพย์ (mPAY) หรือโมบายมันนี่ ที่เป็นรายเดียวที่ฝากเงินและได้ดอกเบี้ย โดยร่วมกับซีไอเอ็มบีไทย เปิดบีท แบงกิ้ง บริการบัญชีเงินฝากออมทรัพย์บนมือถือ รวมถึงมีบริการแบบที่ไม่มีเบอร์บัญชีก็โอนเงินและเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ นอกจากนี้ยังมีโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจอีกหลากหลายบริการ
แม้วันนี้รายได้หลักของเอไอเอสจะมาจากการให้บริการด้านเสียงและข้อมูล แต่จากวิสัยทัศน์ 5 ปีข้างหน้า บอกได้ว่า เอไอเอสพร้อมที่จะปรับตัว และเมื่อเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลอย่างเต็มตัว วันนั้น...รายได้จากบริการดิจิตอลเหล่านี้ย่อมมีมหาศาลแน่นอน!!!.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/298310/เอไอเอสเปิดวิชั่น+2015+ก้าวสู่ผู้นำบริการดิจิตอล
ไม่มีความคิดเห็น: