Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 กุมภาพันธ์ 2558 เลขาธิการ กสทช.ฐากร ชี้ เก้าอี้สุขภาพตัวละ 1.4 หมื่นวงเงิน 1,409,832.00 บาท เป็นการนำเข้าจากเกาหลี ดูตามราคาที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดนี้ สำนักงาน กสทช. พิจารณา

ประเด็นหลัก

“เราไม่ได้คิดว่าเราจะซื้ออันนี้ เราก็หาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา เราก็ดูจากบริษัทแห่งหนึ่ง แบรนด์หนึ่ง เราก็พบว่ามีราคา 39,000 , 27,000 , 26,000 ,24,000 บางรุ่นก็เป็นผ้าธรรมดา ที่เรามีความจำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษ เพราะไม่ใช่ของที่จะแข่งขันราคาได้ เพราะซื้อตามความต้องการ และตัวนี้ นำเข้าจากเกาหลี มันเทียบกันไม่ได้ ไม่ใช่ปากกากับปากกา ของพวกนี้ ต้องมีความเข้าใจในธรรมชาติ และที่เราซื้อก็ถูกตามระเบียบ เพราะซื้อตามความต้องการและมีเรื่องของเวลาเร่งด่วนเข้ามาด้วย และเราก็ดูตามราคาที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดนี้ สำนักงาน กสทช. พิจารณา ไม่ใช่ผมพิจารณาเพียงคนเดียว ผู้ใหญ่หลายคนมานั่งดู แล้วก็สรุปว่าแบบไหนตอบโจทย์เรามากที่สุด” นายฉันทพัทธ์ระบุ





_____________________________________________________










กสทช.โชว์เก้าอี้สุขภาพตัวละ1.4 หมื่น ยันซื้อตามนโยบาย ปธ.รองรับ"รมต."




กสทช. เปิดห้องประชุมให้ “อิศรา” ตรวจสอบเก้าอี้สุขภาพตัวละ 1.4 หมื่น “ฐากร” เผยที่มาจัดซื้อตามนโยบายประธานฯ รองรับการอบรมผู้บริหารระดับสูงระดับ - "รมต." ด้าน ผอ.ฝ่ายพัสดุยัน บ.ออแกไนซ์ทำหลายอย่าง ไม้จิ้มฟันยันเครื่องเสียง

1openc1002

กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับหนังสือร้องเรียนจากพนักงาน กสทช. ให้ตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประจำเดือนธันวาคม 2556 พบว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2556 สำนักงานกสทช. ลงนามสัญญาใบสั่งเลขที่ พย.(ซ)(พย) 1326/56 จ้างบริษัท เจนิเว่ จำกัด ซื้อเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ จำนวน 100 ตัว วงเงิน 1,409,832.00 บาท ด้วยวิธีพิเศษ ขณะที่บริษัท เจนิเว่ จำกัด แจ้งข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าทำธุรกิบจัดออแกไนซ์

(อ่านประกอบ :'กสทช.'ซื้อเก้าอี้สุขภาพตัวละ 1.4 หมื่น จาก บ.ออแกไนซ์ ใช้งบ 1.4 ล้าน)

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปที่สำนักงาน กสทช. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และนายฉันทพัทธ์ ขำโคกกรวด ผู้อำนวยการสำนักพัสดุและบริหารทรัพย์สิน การจัดซื้อเก้าอี้ดังกล่าว

เผย เป็นบัญชา "ประธาน กสทช." ให้หาเก้าอี้รองรับผู้บริหารระดับสูง

นายฐากรกล่าวว่า "เรื่องเก้าอี้สุขภาพนี้ เมื่อผมได้อ่านข้อมูลการจัดซื้อแล้ว พบว่า ที่มาเป็นเรื่องที่ประธาน กสทช. ( พล.อ. ธเรศ ปุณศรี ) มีบัญชามา เนื่องจากว่าจะมีการฝึกอบรมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน กสทช. เป็นโครงการในปี 2556  โดยจะมีการอบรมที่หอประชุม กสทช. จะมีการเชิญประธานรัฐสภา รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงต่างๆ ที่ตอบรับเข้าอบรมหลักสูตรนี้ ซึ่งคาดว่าผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมดจะมีประมาณ 100 คน

"ท่านประธานก็เห็นว่าเมื่อเป็นการอบรมผู้บริหารระดับสูง เราอยากได้ เก้าอี้ที่ดี”

นายฐากรกล่าวว่า เดิมทีโครงการอบรมดังกล่าวจะมีขึ้นในเดือน ธันวาคม 2556 แต่มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น  จึงเลื่อนมาเรื่อยๆ เมื่อมีการชุมนุมประท้วงก็เลื่อนต่อมาอีก

“ในช่วงที่ไม่มีรัฐมนตรี มีแต่รักษาการรัฐมนตรี จนถึงกระทั่งต้นเดือนมีนา 2557 เราก็คุยกันว่า งั้นไว้เมื่อเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย ก็ค่อยจัดอบรมนี้ใหม่ แต่ต่อมามีรัฐประหาร พ.ค. 57 จนปัจจุบันนี้ เราก็ยังฝึกอบรมไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเราอยากให้เป็นโครงการที่มีผู้บริหารระดับสูงจริงๆ ท่านปะธานก็คิดอย่างนั้น เก้าอี้นี้ก็เลยนำไปไว้ ในห้องประชุมนั้นไปก่อน เนื่องจากเราก็ยังมีการเปิดหลักสูตรอบรมอื่นๆ”

นายฐากรกล่าวว่า ได้สอบถามถึงกระบวนการจัดซื้อจากนายฉันทพัทธ์ ขำโคกกรวด ผอ.สำนักพัสดุฯ ได้รับคำตอบว่ามีการสอบถามจากหลายบริษัทแล้ว

"เขาบอกว่าบริษัทที่นำเสนอมาราคาสูงทั้งนั้น แต่บริษัทเจนิเว่ ที่นำเสนอมาเขาได้รับใบอนุญาต และมีการออกแบบเป็นพิเศษ"

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใด สำนักงาน กสทช.ไม่ซื้อเก้าอี้กับบริษัทหรือร้านเก้าอี้ โดยตรงหากซื้อแล้วจะถูกกว่าซื้อผ่านเจนิเว่หรือไม่ นายฐากรกล่าวย้ำว่าเนื่องจากในหลักการ เป็นโครงการฝึกอบรมผู้บริหารระดับสูง และเก้าอี้ตัวนี้ทั้งหมดจะใช้ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ระดับสูง แม้ระหว่างนี้ จะนำมาใช้ในงานในห้องประชุมก่อน แต่เมื่อเปิดหลักสูตรดังกล่าว ก็จะนำเก้าอี้นี้มาใช้

ผู้สื่อข่าวสอบถามย้ำว่า เก้าอี้แบบที่ซื้อจากบ.เจนิเว่ ดีกว่าการซื้อจากร้านเก้าอี้โดยตรงอย่างไร และทราบกรณีที่สำนักข่าวอิศรา เดินทางไปตรวจสอบบริษัท แล้วพบว่า บริษัทร้างหรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า "ผมตอบไม่ได้ รายละเอียดให้ ผอ.ฉันทพัทธ์ตอบ จากนั้น นายฐากรขอตัวเนื่องจากมีนัดหมาย และมอบให้นายฉันทพัทธ์ เป็นผู้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว"

@เปิดห้องประชุม ชมเก้าอี้สุขภาพ 1.4 หมื่น

จากนั้น นายฉันทพัทธ์ พาผู้สื่อข่าวไปชมเก้าอี้ในห้องประชุมและกล่าวว่ารูปที่ผู้สื่อข่าวมีอยู่ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อาจไม่เหมือนกับเก้าอี้ในห้องประชุมเสียทีเดียว แต่มีฐานมากจากรูปแบบดังกล่าวจริง แต่เก้าอี้ในห้องประชุมนี้มีการโมดิฟาย เพิ่มขึ้น

“ในภาพคือต้นแบบแต่ต่อมาให้ทางโรงงานทำเพิ่มในส่วนสีดำที่รองหลัง แล้วราคาที่ทำเพิ่มก็จะแตกต่างจากตัวที่ผู้สื่อข่าวมี” นายฉันทพัทธ์ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดต้องซื้อจาก บ.เจนิเว่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับจัดออแกไนซ์ ทำไม ไม่ซื้อเก้าอี้จากร้านหรือบริษัทที่ขายหรือผลิตเก้าอี้โดยตรง นายฉันทพันทธ์กล่าวว่าเพราะบริษัทเจนิเว่ เป็นตัวแทนจำหน่าย และให้ผู้สื่อข่าวดูเอกสารที่ระบุข้อความว่า บ.เจนิเว่ เป็นตัวแทนบริษัทแห่งหนึ่งที่จำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน

“บริษัทเจนิเว่ เขาค้าขายหลายประเภทมากนะ ต้องไปดู เขาไม่ได้ทำแค่ออไกไนซ์เซอร์อย่างเดียว เขาทำทุกอย่าง เขาทำหลายอย่างด้วย เขาก็เอาเก้าอี้ตัวนี้มาให้ดู เอาตัวอย่าง ตอนที่ยังไม่ต่อเติมมาให้ดู ผู้ใหญ่เราก็บอกว่า ลองดูว่าตรงไหนจะรองรับหลังได้ เขาก็ดีไซน์ตรงนี้เพิ่มเพื่อรองรับสะบักพอดี เมื่อเราเอาแบบนี้มาให้ดู ผู้บริหารเราก็บอกว่า ลองปรับดู เขาก็ดีไซน์ ตรงนี้ ให้ เพราะผู้บริหารเราเล็งเห็นว่า เมื่อมีโครงการอบรมนี้ผู้ใหญ่ที่อยู่ในกระทรวงจะได้นั่งสบายกว่าที่ไม่มีการต่อเติมในส่วนนี้”นายฉันทพัทธ์ระบุ

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษและถามว่ามีทีโออาร์หรือไม่และอ้างอิงราคากลางอย่างไร นายฉันทพัทธ์กล่าวว่า ทีโออาร์ในกรณีนี้คือใช้ราคาตามรูปแบบใบที่บริษัทเจนิเว่เสนอราคา เนื่องจากไม่ใช่ของที่เป็นโครงการ แต่คือการซื้อตามความต้องการ ซื้อตามแบบ ซื้อตามแคตตาล็อค และสาเหตุที่ใช้วิธีพิเศษเพราะมีรายเดียว และเร่งด่วน เนื่องจากกำหนดเดิมของโครงการอบอรมผู้บริหารระดับสูง กำหนดไว้ช่วงปลายปี 56 และมีกำหนดการอบรมต่อเนื่องอยู่ต้นเดือน ม.ค.-มี.ค. 57

“เมื่อต้องใช้เร่งด่วน คือเราจะแข่งขันได้ไหม เมื่อมีการผลิตในตลาด เราก็ต้องซื้อโดยตรงจากคนที่ขายของชิ้นนั้น ส่วนการเทียบไม่ได้ อันนี้ สั่งทำใหม่ บล็อคใหม่ ทำใหม่ ราคาก็เป็นไปตามกลไกที่เขาเสนอมา ไปเทียบไม่ได้ เพราะไม่มีของแบบเดียวกันในขณะนั้น ถ้าไปดูตอนนี้ เขาอาจจะมีการผลิตกันขึ้นมาใหม่ แต่ขณะนั้นไม่มี”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บ.เจนิเว่ เป็น บริษัทรับจัดออแกไนซ์ นายฉันทพัทธ์กล่าวย้ำว่า

“ออแกไนซ์ ทำทุกอย่าง เขาทำยิ่งกว่านี้อีก ไม่ใช่แค่ออแกไนซ์"

@ ยัน เจนิเว่ ไม่ใช่แค่จัดออแกไนซ์ หาทุกอย่าง ไม้จิ้มฟันยันเครื่องเสียง

ผู้สื่อข่าวถามว่า บ. เจนิเว่ จำกัด เคยได้งาน จาก กสทช.หลายครั้ง การใช้วิธีพิเศษ และบริษัทแห่งนี้ได้งาน เป็นการกีดกันเอกชน รายอื่นๆ หรือไม่ นายฉันทพัทธ์กล่าวว่า "ต้องถามว่านี่เป็นการแข่งขันราคาหรือไม่ คือ ไม่ใช่การแข่งขัน นี่เป็นการซื้อด้วยวิธีพิเศษ ถ้าผมไปเปิดแข่งขัน เราจะระบุเอาแบบนี้ มันก็ดูเหมือนล็อคสเปกไหม เราจึงเปิดแข่งขันไม่ได้ ถ้าจะใช้วิธีประกวดราคาก็จะเป็นการล็อคสเปกไป เราจึงต้องเลือกเอาตามความต้องการ ส่วนราคาอ้างอิงจากตลาด โดยเช็คราคาเก้าอี้หลายแบบ ของจากบริษัทอื่นด้วย แต่พบว่ามีราคาสูงเกินไป"

“เราไม่ได้คิดว่าเราจะซื้ออันนี้ เราก็หาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา เราก็ดูจากบริษัทแห่งหนึ่ง แบรนด์หนึ่ง เราก็พบว่ามีราคา 39,000 , 27,000 , 26,000 ,24,000 บางรุ่นก็เป็นผ้าธรรมดา ที่เรามีความจำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษ เพราะไม่ใช่ของที่จะแข่งขันราคาได้ เพราะซื้อตามความต้องการ และตัวนี้ นำเข้าจากเกาหลี มันเทียบกันไม่ได้ ไม่ใช่ปากกากับปากกา ของพวกนี้ ต้องมีความเข้าใจในธรรมชาติ และที่เราซื้อก็ถูกตามระเบียบ เพราะซื้อตามความต้องการและมีเรื่องของเวลาเร่งด่วนเข้ามาด้วย และเราก็ดูตามราคาที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดนี้ สำนักงาน กสทช. พิจารณา ไม่ใช่ผมพิจารณาเพียงคนเดียว ผู้ใหญ่หลายคนมานั่งดู แล้วก็สรุปว่าแบบไหนตอบโจทย์เรามากที่สุด” นายฉันทพัทธ์ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจสอบไปยังบริษัทที่บริษัทเจนิเว่เป็นตัวแทนจำหน่ายหรือไม่ ว่าราคาต้นทุนแท้จริงเท่าไหร่

นายฉันทพัทธ์กล่าวว่า “มันเป็นรายละเอียด เราไม่ได้ตรวจสอบลึกขนาดนั้น แล้วเขาก็ไม่บอกเราหรอก ที่เจนิเว่เขาเสนอมา มีดับเบิ้ลแบ็คและเพิ่มส่วนของการซัพพอร์ต ช่วยให้แผ่นหลังแนบกับเก้าอี้ เขาส่งภายใน 5 วัน และรับประกัน 1 ปี

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเอกสารยืนยันรับรองจากบ.ที่เจนิเว่ระบุว่าเป็นตัวแทนหรือไม่
นายฉันทพัทธ์กล่าวว่า “แค่นี้เราก็รับได้แล้ว เพราะเราดูว่า เขาสามารถส่งงานให้เราได้ แค่นี้ก็เพียงพอ”

เมื่อสอบถามถึงการได้งานของ บริษัทเจนิเว่ นางสุวรรณี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ ที่ประสานงานและร่วมรับฟังการสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า การทำออแกไนซ์ก็ต้องจัดหาทุกอย่างมาอยู่ในอีเวนท์ มีประสบการณ์ แล้วเมื่อจัดอีเวนท์ ก็รู้จักกัน ด้วยประสบการณ์ก็รู้จักกับหน่วยงานรัฐต่างๆ

"เมื่อเขารู้ว่าเราต้องการอะไร เขาก็ไปหามา คนทำออแกไนซ์เซอร์ เวลาเขาจดแจ้ง เขาจดรวม เมื่อออแกไนซ์เซอร์มาทำอย่างอื่น คือ เขามีความสามารถในการต่อรองราคา” นางสุวรรณีระบุ

ด้านนายฉันทพัทธ์กล่าวว่า “เพราะอาชีพทำออแกไนซ์ เขาทำกระทั่งจัดซื้อไม้จิ้มฟัน เครื่องเสียง เขาต้องทำหมดเลย เพราะถ้าเขาไม่จดไม่มีวัตถุประสงค์ เขาทำไม่ได้ เขาต้องไปจัดการต่อเพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้จ้าง ฉะนั้นเป็นเรื่องปกติ”


http://www.isranews.org/investigative/investigate-procure/item/36438-nbtc_36438.html

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.