Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

20 กุมภาพันธ์ 2558 (บทความ) รถติดหมดสิทธิแชต! ปรับกฎหมายใหม่ ห้ามใช้คอมพ์-มือถือเล่นแอปฯ บนรถ // หยุดรอไฟแดงก็ไม่ได้ครับ เพราะถือว่าใช้มือถือขณะขับขี่เหมือนกัน ยังอยู่ในการควบคุมรถอยู่ ยกเว้นจะไปจอดข้างทางหรือออกนอกเส้นทางการจราจร

ประเด็นหลัก


        “หยุดรอไฟแดงก็ไม่ได้ครับ เพราะถือว่าใช้มือถือขณะขับขี่เหมือนกัน ยังอยู่ในการควบคุมรถอยู่ ยกเว้นจะไปจอดข้างทางหรือออกนอกเส้นทางการจราจร ถึงจะใช้ได้โดยไม่ผิดข้อกฎหมาย ส่วนคนที่ใช้แอปฯ เนวิเกเตอร์หรือแผนที่นำทาง สามารถใช้ได้ถ้ามีที่วางโทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ แต่อย่าถือไปขับรถไป เพราะถ้าทำแบบนั้นจะถือว่าใช้มือถือขณะขับขี่


_____________________________________________________

















รถติดหมดสิทธิแชต! ปรับกฎหมายใหม่ ห้ามใช้คอมพ์-มือถือเล่นแอปฯ บนรถ



        ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ขณะรถติดผ่านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย... จะเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้อีกต่อไปสำหรับ “ผู้ขับขี่รถยนต์” เพราะร่างกฎกระทรวงใหม่ ระบุชัดเจน เตรียมบังคับใช้จริงเร็วๆ นี้!!
     
     

     
        “กฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2554 ที่บังคับใช้อยู่ทุกวันนี้ยังไม่เข้มงวดเท่าที่ควร” คือเหตุผลที่ทำให้กระทรวงคมนาคมเสนอให้ปรับเพิ่มรายละเอียดให้มากขึ้น โดยระบุให้ต่อไปนี้ผู้ทำหน้าที่โชเฟอร์ อยู่หลังพวงมาลัย ห้ามใช้คอมพิวเตอร์พกพา โทรศัพท์ หรือใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ในขณะขับรถ จากเดิมจะห้ามเพียงเรื่องโทร.คุยเป็นหลักเท่านั้น
     
     


        เล่นเอาผู้ใช้รถใช้ถนนหลายรายสะดุ้งไปตามๆ กันเมื่อทราบรายละเอียดคร่าวๆ เช่นนี้ โดยเฉพาะประเด็นการใช้แอปพลิเคชัน “เนวิเกเตอร์” สำหรับนำทางไปยังจุดหมายขณะขับขี่ และอีกหลากกิจกรรมที่มักจะทำกันบ่อยๆ แก้เซ็งระหว่างรถติด ทางทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live จึงติดต่อไปยัง “พ.ต.อ.วันชัย อยู่แสง” รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เพื่อให้ช่วยไขความกระจ่างในเรื่องนี้ จึงได้คำตอบว่า ไม่สามารถหยิบคอมพ์และมือถือขึ้นมาเล่นขณะรถติดหรือจอดรอไฟแดงอยู่ได้
     
     


     
(มีที่วางแบบนี้ จึงจะอนุญาต)

        “หยุดรอไฟแดงก็ไม่ได้ครับ เพราะถือว่าใช้มือถือขณะขับขี่เหมือนกัน ยังอยู่ในการควบคุมรถอยู่ ยกเว้นจะไปจอดข้างทางหรือออกนอกเส้นทางการจราจร ถึงจะใช้ได้โดยไม่ผิดข้อกฎหมาย ส่วนคนที่ใช้แอปฯ เนวิเกเตอร์หรือแผนที่นำทาง สามารถใช้ได้ถ้ามีที่วางโทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ แต่อย่าถือไปขับรถไป เพราะถ้าทำแบบนั้นจะถือว่าใช้มือถือขณะขับขี่
     
        ก็ต้องดูเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักครับ เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ออกมาต้องการให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก เจตนาของกฎหมายคือไม่อยากให้ใช้มือถือไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม เพราะมันเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ขนาดปกติ แค่พูดคุยโทรศัพท์ยังทำให้เสียสมาธิในการขับรถได้ นี่ยิ่งถ้าใช้เล่นแอปฯ ต่างๆ ยิ่งทำลายสมาธิมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
     
        แต่ถ้าวางมือถือไว้ตรงที่วาง แต่แค่กดปุ่มคำสั่งอย่างเดียว ไม่สไลด์หรือเลื่อนดูไปมาก็คงจะพอได้ ตำรวจสามารถใช้วิจารณญาณได้ครับ ถ้าพอเห็นว่าใช้ขณะขับขี่จริงๆ ก็สามารถเรียกได้ทันทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานภาพถ่าย แต่ถ้าถ่ายภาพไว้ได้ด้วยก็จะยิ่งหนักแน่นมากยิ่งขึ้น”
     
     

        ส่วนคนที่คิดจะติดฟิล์มรถยนต์ให้ดำขึ้นเพื่อปกปิดความผิดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างใช้คอมพ์และมือถือระหว่างขับขี่แล้วล่ะก็ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 บอกไว้เลยว่า
     
        “มันไม่ใช่การแก้ปัญหานะ กระจกหน้า ยังไงก็มีโอกาสมองเห็นได้ง่าย และถ้าจะติดฟิล์มให้ดำขึ้นก็เป็นผลเสียต่อการขับขี่ในช่วงเวลากลางคืนของผู้ขับขี่เอง และถ้าติดฟิล์มมืดเกินไปก็ผิดข้อกฎหมายอีกอยู่ดี”





http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020687

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.