26 กุมภาพันธ์ 2558 Primetime ให้บริการภาพยนตร์และซีรีส์ทางอินเทอร์เน็ตในรูปแบบออนดีมานด์ ทั้งบนเว็บไซต์ (GoPrimetime.tv) และแอพพลิเคชั่นแล้วตั้งแต่วันนี้ ตั้งเป้าผู้ใช้งานในปีแรกเอาไว้ที่ 1 แสนรายขึ้นไป
ประเด็นหลัก
โดย นายกษิดิศ กลศาสตร์เสนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพรม์ไทม์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด และบริษัท ไพรม์ไทม์ โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ไพรม์ไทม์ให้บริการภาพยนตร์และซีรีส์ทางอินเทอร์เน็ตในรูปแบบออนดีมานด์ ทั้งบนเว็บไซต์ (GoPrimetime.tv) และแอพพลิเคชั่นแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยบริษัทตั้งเป้ามีภาพยนตร์ให้บริการถึง 1,000 เรื่อง และซีรีส์กว่า 2,000 ตอน ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มีภาพยนตร์แล้วกว่า 300 เรื่อง
สำหรับจุดเด่นของไพรม์ไทม์ คือ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เนื้อหาลิขสิทธิ์ที่มีคุณภาพจาก 6 ค่ายชั้นนำของฮอลลีวูด คือ Walt Disney, Warner Bros, 20th Century Fox, Paramount , NBC Universal, Sony Pictures ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี รวมถึงระบบเสียงที่มีความโดดเด่นเพียงรายเดียวในไทยด้วยรูปแบบที่เรียกว่า DTS Surround 5.1 ซึ่งให้คุณภาพเทียบเท่าการรับชมในโรงภาพยนตร์ ในส่วนของการใช้งานก็สามารถรับชมได้ผ่านเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ แอปเปิล ทีวี เบราว์เซอร์โครมหรือไออี11 รวมถึงแอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้กับสมาร์ททีวีของแอลจีอีกด้วย
_____________________________________________________
เปิดตัวไพรม์ไทม์ (Primetime) เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นแบบออนดีมานด์ อัดคอนเทนต์จากค่ายดังของฮอลลีวูดมาไว้ในมือคุณ เลือกได้ตามสไตล์การรับชม ภายใต้คุณภาพแบบไม่ละเมิดลิขสิทธิ์…
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ ซีรีส์... แต่ยังต้องตามหาเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงผู้ให้บริการที่คุณภาพต่ำ มีปัญหาในการใช้งานนานัปการ ต้องอ่านทางนี้!!! กับการเปิดตัว “ไพรม์ไทม์” ผู้ให้บริการภาพยนตร์และซีรีส์แบบออนดีมานด์
โดย นายกษิดิศ กลศาสตร์เสนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพรม์ไทม์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด และบริษัท ไพรม์ไทม์ โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ไพรม์ไทม์ให้บริการภาพยนตร์และซีรีส์ทางอินเทอร์เน็ตในรูปแบบออนดีมานด์ ทั้งบนเว็บไซต์ (GoPrimetime.tv) และแอพพลิเคชั่นแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยบริษัทตั้งเป้ามีภาพยนตร์ให้บริการถึง 1,000 เรื่อง และซีรีส์กว่า 2,000 ตอน ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มีภาพยนตร์แล้วกว่า 300 เรื่อง
สำหรับจุดเด่นของไพรม์ไทม์ คือ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เนื้อหาลิขสิทธิ์ที่มีคุณภาพจาก 6 ค่ายชั้นนำของฮอลลีวูด คือ Walt Disney, Warner Bros, 20th Century Fox, Paramount , NBC Universal, Sony Pictures ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี รวมถึงระบบเสียงที่มีความโดดเด่นเพียงรายเดียวในไทยด้วยรูปแบบที่เรียกว่า DTS Surround 5.1 ซึ่งให้คุณภาพเทียบเท่าการรับชมในโรงภาพยนตร์ ในส่วนของการใช้งานก็สามารถรับชมได้ผ่านเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ แอปเปิล ทีวี เบราว์เซอร์โครมหรือไออี11 รวมถึงแอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้กับสมาร์ททีวีของแอลจีอีกด้วย
ส่วนงบประมาณการลงทุนนั้น บริษัทใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลิขสิทธิ์คอนเทนต์และเทคโนโลยีรวม 180 ล้านบาท เพื่อเป็นทางเลือกในการรับชมภาพยนตร์และซีรีส์แก่ผู้บริโภคชาวไทย อย่างไรก็ตาม รูปแบบธุรกิจความบันเทิงแบบออนดีมานด์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ แต่ยังถือเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะได้รับความนิยมในเร็วๆ นี้เช่นกัน
“เราตั้งเป้าผู้ใช้งานในปีแรกเอาไว้ที่ 1 แสนรายขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบการดูหนังและซีรีส์ฮอลลีวูด แม้ว่าปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทยจะยังคงมีอยู่และผู้บริโภคยังไม่เชื่อมั่นในคุณภาพของอินเทอร์เน็ต แต่เชื่อว่าการให้บริการแบบถูกลิขสิทธิ์นี้จะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยและไม่ใช่เรื่องยากในการทำตลาด ส่วนความพร้อมในการใช้จ่ายเงินกับการชมภาพยนตร์และซีรีส์ออนดีมานด์นี้ เชื่อว่าคนไทยเปิดรับเทรนด์ดังกล่าวแล้ว เช่นเดียวกับการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์”
อย่างไรก็ตาม สำหรับจุดเด่นด้านเทคโนโลยี ไพรม์ไทม์ ยังมีความรวดเร็วในการให้บริการอีกด้วย เช่น การมีบริการภาพยนตร์ใหม่หลังออกจากโรงภาพยนตร์ภายใน 2-3 เดือน ถือว่าเร็วกว่าการรอชมผ่านบริการแบบโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือแผ่นวีซีดี ดีวีดี นอกจากนี้ บริษัทยังมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ เช่น ร้านดีเอ็นเอ, บานาน่า ไอที, ไอสตูดิโอ และไอบีท บาย คอมเซเว่น ในการเป็นช่องจัดจำหน่ายอีกด้วย
นายกษิดิศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าบริการจะแบ่งตามประเภทการใช้งาน เช่น ดูได้ทุกประเภทคอนเทนต์โดยไม่จำกัด, ดูซีรีส์ได้ไม่จำกัด หรือ ดูภาพยนตร์แบบบุฟเฟต์
http://www.thairath.co.th/content/483762
http://www.thairath.co.th/content/483762
ไม่มีความคิดเห็น: