04 มีนาคม 2558 กสทช.สั่ง ช่อง 3 แจงการนำเสนอข่าวในลักษณะขานพระนามและพระราชอิสริยยศผิด ระหว่างที่มีการเสนอข่าวพระราชสำนัก เมื่อช่วงเช้ามืด ของวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา
ประเด็นหลัก
2 มี.ค.58 พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านเนื้อหาและผังรายการ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะอนุกรรมการด้านเนื้อหาและผังรายการ ได้ทำการตรวจพบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อช่วงเช้ามืด ของวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอข่าวในลักษณะขานพระนามและพระราชอิสริยยศผิด ระหว่างที่มีการเสนอข่าวพระราชสำนัก โดยภายหลังคณะอนุกรรมการฯ พิจารณากรณีดังกล่าวแล้ว พบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง3 เข้าข่ายความผิดจริง ตามมาตราที่ 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ว่าด้วยการนำเสนอเนื้อหา ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน
_____________________________________________________
กสทช.สั่งวิก3แจงด่วนก่อนเชือด หลังรายงานข่าวพระราชสำนักผิด
2 มี.ค.58 พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านเนื้อหาและผังรายการ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะอนุกรรมการด้านเนื้อหาและผังรายการ ได้ทำการตรวจพบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อช่วงเช้ามืด ของวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอข่าวในลักษณะขานพระนามและพระราชอิสริยยศผิด ระหว่างที่มีการเสนอข่าวพระราชสำนัก โดยภายหลังคณะอนุกรรมการฯ พิจารณากรณีดังกล่าวแล้ว พบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง3 เข้าข่ายความผิดจริง ตามมาตราที่ 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ว่าด้วยการนำเสนอเนื้อหา ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความผิด ของสถานีโทรทัศน์ช่อง3 จะมีตั้งแต่มีคำสั่งปรับทางปกครอง หรือมากกว่าการปรับ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมการ ซึ่งล่าสุด สำนักงาน กสทช. ได้ทำหนังสือด่วน เพื่อเชิญสถานีโทรทัศน์ช่อง3 มาชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อ กสทช. โดยด่วน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมพร้อมเปิดโอกาสให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ก่อนจะนำมาประกอบการพิจารณาในการกำหนดบทลงโทษต่อไป
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวด้วย กรณีการกระทำผิดของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อยากวอนขอสื่อมวลชนในด้านต่างๆ อย่านำเสนอเนื้อหาการกระทำความผิดของช่อง 3 ว่า มีรายละเอียดการกระทำความผิดอย่างไร มิเช่นนั้นแล้วการเสนอเนื้อหาซ้ำ อาจเข้าข่ายมีความผิดได้เช่นเดียวกัน
http://www.naewna.com/business/147246
2 มี.ค.58 พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านเนื้อหาและผังรายการ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะอนุกรรมการด้านเนื้อหาและผังรายการ ได้ทำการตรวจพบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อช่วงเช้ามืด ของวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอข่าวในลักษณะขานพระนามและพระราชอิสริยยศผิด ระหว่างที่มีการเสนอข่าวพระราชสำนัก โดยภายหลังคณะอนุกรรมการฯ พิจารณากรณีดังกล่าวแล้ว พบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง3 เข้าข่ายความผิดจริง ตามมาตราที่ 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ว่าด้วยการนำเสนอเนื้อหา ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน
_____________________________________________________
กสทช.สั่งวิก3แจงด่วนก่อนเชือด หลังรายงานข่าวพระราชสำนักผิด
2 มี.ค.58 พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านเนื้อหาและผังรายการ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะอนุกรรมการด้านเนื้อหาและผังรายการ ได้ทำการตรวจพบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อช่วงเช้ามืด ของวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอข่าวในลักษณะขานพระนามและพระราชอิสริยยศผิด ระหว่างที่มีการเสนอข่าวพระราชสำนัก โดยภายหลังคณะอนุกรรมการฯ พิจารณากรณีดังกล่าวแล้ว พบว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง3 เข้าข่ายความผิดจริง ตามมาตราที่ 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ว่าด้วยการนำเสนอเนื้อหา ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความผิด ของสถานีโทรทัศน์ช่อง3 จะมีตั้งแต่มีคำสั่งปรับทางปกครอง หรือมากกว่าการปรับ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมการ ซึ่งล่าสุด สำนักงาน กสทช. ได้ทำหนังสือด่วน เพื่อเชิญสถานีโทรทัศน์ช่อง3 มาชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อ กสทช. โดยด่วน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมพร้อมเปิดโอกาสให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ก่อนจะนำมาประกอบการพิจารณาในการกำหนดบทลงโทษต่อไป
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวด้วย กรณีการกระทำผิดของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อยากวอนขอสื่อมวลชนในด้านต่างๆ อย่านำเสนอเนื้อหาการกระทำความผิดของช่อง 3 ว่า มีรายละเอียดการกระทำความผิดอย่างไร มิเช่นนั้นแล้วการเสนอเนื้อหาซ้ำ อาจเข้าข่ายมีความผิดได้เช่นเดียวกัน
http://www.naewna.com/business/147246
ไม่มีความคิดเห็น: