06 มีนาคม 2558 ศิวัตร เชาวรียวงษ์ ระบุ ภาพรวมของ Digital Outlook 2015 เฟื่องฟูมากที่สุด อุปกรณ์สื่อสารราคาถูกลง ทำให้มีคนกลุ่มใหม่ที่ได้โอกาสใช้สมาร์ทโฟน จำนวนผู้ใช้งาน mobile จะแซง online ประมาณ 58-70% ส่งผลให้เข้าถึง content ได้ง่ายขึ้น
ประเด็นหลัก
ด้านนายศิวัตร กล่าวถึงภาพรวมของ Digital Outlook 2015 ว่า จะเป็นปีที่ดิจิทัลในเมืองไทยเฟื่องฟูมากที่สุด อุปกรณ์สื่อสารราคาถูกลง ทำให้มีคนกลุ่มใหม่ที่ได้โอกาสใช้สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดจะมีเพิ่มขึ้น (new internet user) สิ่งที่ตามมาคือจำนวนผู้ใช้งาน mobile จะแซง online ประมาณ 58-70% ส่งผลให้เข้าถึง content ได้ง่ายขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่ต้องหาวิธีทำให้ content มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันจะมีการใช้สื่อดิจิทัล เป็นช่องทางการขายมากขึ้น และจะมี category ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น บริการดูดส้วม, ศูนย์รับจองรถยนต์, บริการกำจัดปลวก เป็นต้น รวมทั้งสินค้าประเภท classified จะถูกยกขึ้นไปอยู่บน search marketing มากขึ้น
_____________________________________________________
สัมมนาธุรกิจดิจิทัลแห่งปี'58 เจาะลึก Age of Expertise ก้าวสู่ยุคแห่ง Content Marketing เต็มตัว ชู 9 content สำคัญ เผยเป็นยุคมีคอนเทนต์ฟรีล้นหลาม คนดูผ่าน Mobile จะแซง Online ประมาณ 58-70% เพราะเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย คาดจะมีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่สยามภวาลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน กองบรรณาธิการ Thumbsup ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวและบทความด้านธุรกิจดิจิทัล จัดงานสัมมนาการตลาดดิจิทัลแห่งปี 2558 ในชื่อ Spark Conference ครั้งที่ 2 ตอน Age of Expertise หรือยุคของ Content โดยมีวิทยากรที่คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจดิจิทัล อาทิ Mr.Dave Kerpen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Likeable Local บริษัทซอฟต์แวร์ทางด้าน Social Media ระดับรางวัลของสมาคม Word of Mouth และผู้แต่งหนังสือขายดีระดับโลก “Likeable Social Media”, นายศิวัตร เชาวรียวงษ์ CEO ของบริษัท mInteraction และนายกสมาคม Digital Advertising Association (Thailand), น.ส.พรทิพย์ กองชุน อดีตหัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย, นายณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง Vice President Head of Online Marketing บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน), นางสุรางคณา วายุภาพ CEO แห่ง สพธอ. และ Mr.Wolfgang Jaegel นักการตลาดดิจิทัลที่มีประสบการณ์มานานกว่า 20 ปี เป็นต้น โดยนายจักรพงษ์ คงมาลัย กองบรรณาธิการ Thumbsup กล่าวถึง Age of Expertise ว่า ยุคนี้เป็นยุคคอนเทนต์ฟรีล้นหลาม ที่การบอกต่อของเพื่อน ของผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญ มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
สำหรับไฮไลท์ของงานคือ Content Marketing Challenge in 2015 นายณัฐพัชญ์ ให้รายละเอียดว่า 9 content marketing challenge มีดังนี้ 1)รู้จัก content marketing ให้ถ่องแท้ 2)ต้องอธิบายเจ้านายให้เข้าใจ 3)เปลี่ยนผ่านวิธีคิดจากยุค traditional publishing สู่ยุค content marketing หรือยุคการคิดหัวกลับให้ผู้บริโภคเห็นคุณค่าของแบรนด์สินค้าจาก content ที่มีประโยชน์แบยไม่ยัดเยียด 4)การวางกลยุทธ์ โดยสนใจ Out put และ Out come เป็นสำคัญ 5)หาคนที่ใช่ มาทำ content เพื่อสร้างงานที่มีคุณค่า 6)content management รู้จักและเข้าใจการบริหาร content ให้เหมาะสมกับจำนวนบุคลากร 7)การวัดผล ควรตั้ง KPI ให้สอดรับกับวัตถุประสงค์ 8)การ optimization คือการแก้ไขปัญหาทีละจุด เพื่อความสมบูรณ์แบบ และ 9)จัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมกับ content เพราะไม่ใช่แค่การผลิต content แต่รวมถึงการโปรโมทด้วย
ด้านนายศิวัตร กล่าวถึงภาพรวมของ Digital Outlook 2015 ว่า จะเป็นปีที่ดิจิทัลในเมืองไทยเฟื่องฟูมากที่สุด อุปกรณ์สื่อสารราคาถูกลง ทำให้มีคนกลุ่มใหม่ที่ได้โอกาสใช้สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดจะมีเพิ่มขึ้น (new internet user) สิ่งที่ตามมาคือจำนวนผู้ใช้งาน mobile จะแซง online ประมาณ 58-70% ส่งผลให้เข้าถึง content ได้ง่ายขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่ต้องหาวิธีทำให้ content มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันจะมีการใช้สื่อดิจิทัล เป็นช่องทางการขายมากขึ้น และจะมี category ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น บริการดูดส้วม, ศูนย์รับจองรถยนต์, บริการกำจัดปลวก เป็นต้น รวมทั้งสินค้าประเภท classified จะถูกยกขึ้นไปอยู่บน search marketing มากขึ้น
นายศิวัตร กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน มีการค้นหาและซื้อสินค้าบนออนไลน์มากขึ้น เพราะค้นหาอะไรก็เจอ และชำระเงินง่าย สะดวก ในมุมของผู้ค้าก็ส่งผลดี เพราะปิดการขายได้เร็วและต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตาม new internet user ไม่ชอบการค้นหาข้อมูลที่เป็น fact เพราะขี้เกียจอ่าน มักอ้างอิงจากกลุ่มผู้เคยใช้และผู้เชี่ยวชาญมากกว่า แล้วจึงตัดสินใจซื้อ
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/305614/ดิจิทัลปี_58+Mobile+แซง+Online
ด้านนายศิวัตร กล่าวถึงภาพรวมของ Digital Outlook 2015 ว่า จะเป็นปีที่ดิจิทัลในเมืองไทยเฟื่องฟูมากที่สุด อุปกรณ์สื่อสารราคาถูกลง ทำให้มีคนกลุ่มใหม่ที่ได้โอกาสใช้สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดจะมีเพิ่มขึ้น (new internet user) สิ่งที่ตามมาคือจำนวนผู้ใช้งาน mobile จะแซง online ประมาณ 58-70% ส่งผลให้เข้าถึง content ได้ง่ายขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่ต้องหาวิธีทำให้ content มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันจะมีการใช้สื่อดิจิทัล เป็นช่องทางการขายมากขึ้น และจะมี category ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น บริการดูดส้วม, ศูนย์รับจองรถยนต์, บริการกำจัดปลวก เป็นต้น รวมทั้งสินค้าประเภท classified จะถูกยกขึ้นไปอยู่บน search marketing มากขึ้น
_____________________________________________________
สัมมนาธุรกิจดิจิทัลแห่งปี'58 เจาะลึก Age of Expertise ก้าวสู่ยุคแห่ง Content Marketing เต็มตัว ชู 9 content สำคัญ เผยเป็นยุคมีคอนเทนต์ฟรีล้นหลาม คนดูผ่าน Mobile จะแซง Online ประมาณ 58-70% เพราะเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย คาดจะมีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่สยามภวาลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน กองบรรณาธิการ Thumbsup ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวและบทความด้านธุรกิจดิจิทัล จัดงานสัมมนาการตลาดดิจิทัลแห่งปี 2558 ในชื่อ Spark Conference ครั้งที่ 2 ตอน Age of Expertise หรือยุคของ Content โดยมีวิทยากรที่คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจดิจิทัล อาทิ Mr.Dave Kerpen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Likeable Local บริษัทซอฟต์แวร์ทางด้าน Social Media ระดับรางวัลของสมาคม Word of Mouth และผู้แต่งหนังสือขายดีระดับโลก “Likeable Social Media”, นายศิวัตร เชาวรียวงษ์ CEO ของบริษัท mInteraction และนายกสมาคม Digital Advertising Association (Thailand), น.ส.พรทิพย์ กองชุน อดีตหัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย, นายณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง Vice President Head of Online Marketing บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน), นางสุรางคณา วายุภาพ CEO แห่ง สพธอ. และ Mr.Wolfgang Jaegel นักการตลาดดิจิทัลที่มีประสบการณ์มานานกว่า 20 ปี เป็นต้น โดยนายจักรพงษ์ คงมาลัย กองบรรณาธิการ Thumbsup กล่าวถึง Age of Expertise ว่า ยุคนี้เป็นยุคคอนเทนต์ฟรีล้นหลาม ที่การบอกต่อของเพื่อน ของผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญ มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
สำหรับไฮไลท์ของงานคือ Content Marketing Challenge in 2015 นายณัฐพัชญ์ ให้รายละเอียดว่า 9 content marketing challenge มีดังนี้ 1)รู้จัก content marketing ให้ถ่องแท้ 2)ต้องอธิบายเจ้านายให้เข้าใจ 3)เปลี่ยนผ่านวิธีคิดจากยุค traditional publishing สู่ยุค content marketing หรือยุคการคิดหัวกลับให้ผู้บริโภคเห็นคุณค่าของแบรนด์สินค้าจาก content ที่มีประโยชน์แบยไม่ยัดเยียด 4)การวางกลยุทธ์ โดยสนใจ Out put และ Out come เป็นสำคัญ 5)หาคนที่ใช่ มาทำ content เพื่อสร้างงานที่มีคุณค่า 6)content management รู้จักและเข้าใจการบริหาร content ให้เหมาะสมกับจำนวนบุคลากร 7)การวัดผล ควรตั้ง KPI ให้สอดรับกับวัตถุประสงค์ 8)การ optimization คือการแก้ไขปัญหาทีละจุด เพื่อความสมบูรณ์แบบ และ 9)จัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมกับ content เพราะไม่ใช่แค่การผลิต content แต่รวมถึงการโปรโมทด้วย
ด้านนายศิวัตร กล่าวถึงภาพรวมของ Digital Outlook 2015 ว่า จะเป็นปีที่ดิจิทัลในเมืองไทยเฟื่องฟูมากที่สุด อุปกรณ์สื่อสารราคาถูกลง ทำให้มีคนกลุ่มใหม่ที่ได้โอกาสใช้สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดจะมีเพิ่มขึ้น (new internet user) สิ่งที่ตามมาคือจำนวนผู้ใช้งาน mobile จะแซง online ประมาณ 58-70% ส่งผลให้เข้าถึง content ได้ง่ายขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่ต้องหาวิธีทำให้ content มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันจะมีการใช้สื่อดิจิทัล เป็นช่องทางการขายมากขึ้น และจะมี category ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น บริการดูดส้วม, ศูนย์รับจองรถยนต์, บริการกำจัดปลวก เป็นต้น รวมทั้งสินค้าประเภท classified จะถูกยกขึ้นไปอยู่บน search marketing มากขึ้น
นายศิวัตร กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน มีการค้นหาและซื้อสินค้าบนออนไลน์มากขึ้น เพราะค้นหาอะไรก็เจอ และชำระเงินง่าย สะดวก ในมุมของผู้ค้าก็ส่งผลดี เพราะปิดการขายได้เร็วและต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตาม new internet user ไม่ชอบการค้นหาข้อมูลที่เป็น fact เพราะขี้เกียจอ่าน มักอ้างอิงจากกลุ่มผู้เคยใช้และผู้เชี่ยวชาญมากกว่า แล้วจึงตัดสินใจซื้อ
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/305614/ดิจิทัลปี_58+Mobile+แซง+Online
ไม่มีความคิดเห็น: