Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 มีนาคม 2558 CAT เ่ร่งประเมินเสา DTAC 12,000 แห่งนั้น และให้บริษัทเอกชนที่จะมาให้บริการ MVNE (Mobile Virtual Network Enabler) ในการทำระบบไอทีหลังบ้าน อาทิ บริการด้านระบบบิลลิ่ง การจัดหาอุปกรณ์โครงข่ายบางส่วน

ประเด็นหลัก


     ส่วนความคืบหน้าในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเสาโทรคมนาคมของดีแทคที่มีอยู่ประมาณ 12,000 แห่งนั้น ขณะนี้ทั้ง 2 บริษัทยังไม่ได้นำตัวเลขการประเมินราคามาเจรจาเพื่อหาราคาที่เหมาะสมร่วมกัน เนื่องจากเสามีจำนวนมากจึงต้องใช้เวลาในการประเมิน แต่ในเบื้องต้น คนร.ได้เห็นชอบที่จะให้ทั้งดีแทคและ กสท โทรคมนาคม ทำธุรกิจในรูปแบบการร่วมลงทุน (Joint Venture) คาดว่าจะมีข้อสรุปจากมติที่ประชุมภายในเดือนพ.ค.นี้เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับดูแลตามมาตรา 43 เช่นกัน
     
       ‘ความยากของเรื่องนี้อยู่ที่การตีมูลค่าทรัพย์สินของเสาโทรคมนาคมที่มีอยู่ จึงทำให้เรื่องนี้ดำเนินการล่าช้า แต่ก็คาดหวังว่าภายในปีนี้น่าจะหาข้อสรุปได้ หลังจากที่เราเสนอคณะกรรมการมาตรา 43 แล้ว เรื่องจะถูกส่งต่อไปยังกระทรวงไอซีที กระทรวงการคลังและเข้าคณะรัฐมนตรีจนท้ายที่สุดอาจจะเข้าไปให้คณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิตอลพิจารณาต่อไป เพราะรัฐบาลต้องการให้เสาโทรคมนาคมที่มีอยู่ทั้งหมดเป็นโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามนโยบาย Digital Economy เพื่อลดการลงทุนที่ซับซ้อน ไม่ต้องลงทุนสร้างเสาเพิ่มแต่เปลี่ยนมาเป็นการเช่าเสาที่มีอยู่แทน’
     
       ***เดินหน้าขยายMVMO หลังได้ MVNE แล้ว
     
       พ.อ.สรรพชัย กล่าวว่า ขณะนี้ กสท โทรคมนาคม ได้บริษัทเอกชนที่จะมาให้บริการ MVNE (Mobile Virtual Network Enabler) ในการทำระบบไอทีหลังบ้าน อาทิ บริการด้านระบบบิลลิ่ง การจัดหาอุปกรณ์โครงข่ายบางส่วน การบริหารจัดการ การดำเนินงานให้บริการ การสนับสนุนด้านระบบย่อยสถานีฐาน (base station subsystem) และระบบสนับสนุนการปฏิบัติงาน (operations support systems) รวมทั้งส่วนประกอบโครงข่ายสนับสนุน (back end network) ให้กับ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) หรือตัวแทนจำหน่ายซิมการ์ด my แล้ว นั่นคือ บริษัท บริษัท สุวิเทค จำกัด โดยทำสัญญาร่วมกันเป็นเวลา 10 ปี และต้องวางระบบไอทีให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน ให้สามารถรองรับลูกค้าโทรศัพท์มือถือ my ได้ 5 ล้านเลขหมาย
     
       ‘ที่ผ่านมาเราไม่สามารถขยาย MVNO ได้ เนื่องจากเรายังไม่มีบริษัททำระบบไอทีหลังบ้าน เช่น ระบบบิลลิ่งให้กับตัวแทนจำหน่ายดังกล่าว ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากการเจรจากับโลตัสที่คั่งค้างมานาน เพราะเราไม่มีบริษัทที่ทำระบบไอทีให้เขา แต่นับจากนี้การขยายตัวแทนจำหน่ายจะรวดเร็วขึ้น โดยสุวิเทคจะมีรายได้จากส่วนแบ่งในการให้บริการกับ MVNO จากนี้ไป กสท โทรคมนาคม จะสามารถเดินหน้าขยาย MVNO ได้ตามเป้าหมาย 10 รายภายใน 5 ปี อย่างแน่นอน ’
     
       สำหรับผลดำเนินงาน ของกสท โทรคมนาคม เดือนม.ค.ปี 58 พบว่ามีรายได้รวม 5,460 ล้านบาท กำไรสุทธิ 432 ล้านบาท สูงกว่าในแผนธุรกิจงวดเดียวกันที่ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 21 ล้านบาท เป็นจำนวน 411 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากมีรายได้เกินกว่าแผน 313 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความพยายามในการบริหารจัดการต้นทุนช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายจริงได้ต่ำกว่าแผนเป็นเงิน 132 ล้านบาท เช่น ต้นทุนทางตรงของกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ต้นทุนด้านสนับสนุน ต้นทุนกลุ่มโทรศัพท์ประจำที่ (IDD Broadband Internet) ต้นทุนค่าใช้จ่ายขายและการตลาดและรายได้กลุ่มสัมปทาน ดีแทค รายได้กลุ่มโทรศัพท์มือถือและวิทยุคมนาคม


_____________________________________________________













กสท โทรคมนาคม มั่นใจสางปัญหาข้อพิพาททรู-ดีแทค จบปีนี้


พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริษัท และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)

        กสท โทรคมนาคม เดินเครื่องเต็มสูบเจรจาเคลียร์ปัญหาข้อพิพาทกับทรูและดีแทคให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ ตามคำสั่ง คนร. หวังนำเสาโทรคมนาคมรวมเป็นโครงสร้างโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามนโยบาย Digital Economy ส่วนความคืบหน้าในการขยายพันธมิตรผู้ค้าซิมการ์ด my ขณะนี้ได้บริษัทเอกชนในการวางระบบไอทีแล้ว ชี้จะทำให้หาพันธมิตรได้ง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องลงทุนวางระบบไอทีเอง
     
       พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริษัท และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า กสท โทรคมนาคม จะเจรจากับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อีกครั้งหนึ่งเพื่อหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาที่ทรูไม่ส่งมอบเสาโทรคมนาคมที่มีอยู่ 8,000 แห่งให้กับบริษัททั้งที่หมดสัญญาสัมปทานไปแล้วในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องและมีข้อพิพาทซึ่งกันและกันตามที่คณะกรรมการนโยบายกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีคำสั่ง จึงต้องเดินหน้าเจรจาร่วมกันในรูปแบบที่บริษัทเคยได้เจรจากับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค จนได้บันทึกข้อตกลงร่วมกันมาแล้ว
     
       การเจรจาครั้งนี้จะเป็นการตกลงหาบริษัทกลางบริษัทหนึ่งในการตีมูลค่าของเสาโทรคมนาคมเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อไปว่าจะเดินหน้าทำธุรกิจร่วมกันในรูปแบบไหนได้บ้าง ซึ่งต่างจากการทำกับดีแทค ซึ่งต่างคนต่างมีบริษัทในการประเมินมูลค่าของทรัพย์สินดังกล่าวและมาหารือราคาร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้คาดว่าการเจรจาร่วมกับทรูจะสามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนและมีข้อสรุปจากมติที่ประชุมได้ภายในเดือนก.ค.นี้เพื่อนำเข้าเสนอต่อคณะกรรมการกำกับดูแลตามมาตรา 43 ต่อไป
     
       ส่วนความคืบหน้าในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเสาโทรคมนาคมของดีแทคที่มีอยู่ประมาณ 12,000 แห่งนั้น ขณะนี้ทั้ง 2 บริษัทยังไม่ได้นำตัวเลขการประเมินราคามาเจรจาเพื่อหาราคาที่เหมาะสมร่วมกัน เนื่องจากเสามีจำนวนมากจึงต้องใช้เวลาในการประเมิน แต่ในเบื้องต้น คนร.ได้เห็นชอบที่จะให้ทั้งดีแทคและ กสท โทรคมนาคม ทำธุรกิจในรูปแบบการร่วมลงทุน (Joint Venture) คาดว่าจะมีข้อสรุปจากมติที่ประชุมภายในเดือนพ.ค.นี้เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับดูแลตามมาตรา 43 เช่นกัน
     
       ‘ความยากของเรื่องนี้อยู่ที่การตีมูลค่าทรัพย์สินของเสาโทรคมนาคมที่มีอยู่ จึงทำให้เรื่องนี้ดำเนินการล่าช้า แต่ก็คาดหวังว่าภายในปีนี้น่าจะหาข้อสรุปได้ หลังจากที่เราเสนอคณะกรรมการมาตรา 43 แล้ว เรื่องจะถูกส่งต่อไปยังกระทรวงไอซีที กระทรวงการคลังและเข้าคณะรัฐมนตรีจนท้ายที่สุดอาจจะเข้าไปให้คณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิตอลพิจารณาต่อไป เพราะรัฐบาลต้องการให้เสาโทรคมนาคมที่มีอยู่ทั้งหมดเป็นโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามนโยบาย Digital Economy เพื่อลดการลงทุนที่ซับซ้อน ไม่ต้องลงทุนสร้างเสาเพิ่มแต่เปลี่ยนมาเป็นการเช่าเสาที่มีอยู่แทน’
     
       ***เดินหน้าขยายMVMO หลังได้ MVNE แล้ว
     
       พ.อ.สรรพชัย กล่าวว่า ขณะนี้ กสท โทรคมนาคม ได้บริษัทเอกชนที่จะมาให้บริการ MVNE (Mobile Virtual Network Enabler) ในการทำระบบไอทีหลังบ้าน อาทิ บริการด้านระบบบิลลิ่ง การจัดหาอุปกรณ์โครงข่ายบางส่วน การบริหารจัดการ การดำเนินงานให้บริการ การสนับสนุนด้านระบบย่อยสถานีฐาน (base station subsystem) และระบบสนับสนุนการปฏิบัติงาน (operations support systems) รวมทั้งส่วนประกอบโครงข่ายสนับสนุน (back end network) ให้กับ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) หรือตัวแทนจำหน่ายซิมการ์ด my แล้ว นั่นคือ บริษัท บริษัท สุวิเทค จำกัด โดยทำสัญญาร่วมกันเป็นเวลา 10 ปี และต้องวางระบบไอทีให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน ให้สามารถรองรับลูกค้าโทรศัพท์มือถือ my ได้ 5 ล้านเลขหมาย
     
       ‘ที่ผ่านมาเราไม่สามารถขยาย MVNO ได้ เนื่องจากเรายังไม่มีบริษัททำระบบไอทีหลังบ้าน เช่น ระบบบิลลิ่งให้กับตัวแทนจำหน่ายดังกล่าว ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากการเจรจากับโลตัสที่คั่งค้างมานาน เพราะเราไม่มีบริษัทที่ทำระบบไอทีให้เขา แต่นับจากนี้การขยายตัวแทนจำหน่ายจะรวดเร็วขึ้น โดยสุวิเทคจะมีรายได้จากส่วนแบ่งในการให้บริการกับ MVNO จากนี้ไป กสท โทรคมนาคม จะสามารถเดินหน้าขยาย MVNO ได้ตามเป้าหมาย 10 รายภายใน 5 ปี อย่างแน่นอน ’
     
       สำหรับผลดำเนินงาน ของกสท โทรคมนาคม เดือนม.ค.ปี 58 พบว่ามีรายได้รวม 5,460 ล้านบาท กำไรสุทธิ 432 ล้านบาท สูงกว่าในแผนธุรกิจงวดเดียวกันที่ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 21 ล้านบาท เป็นจำนวน 411 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากมีรายได้เกินกว่าแผน 313 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความพยายามในการบริหารจัดการต้นทุนช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายจริงได้ต่ำกว่าแผนเป็นเงิน 132 ล้านบาท เช่น ต้นทุนทางตรงของกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ต้นทุนด้านสนับสนุน ต้นทุนกลุ่มโทรศัพท์ประจำที่ (IDD Broadband Internet) ต้นทุนค่าใช้จ่ายขายและการตลาดและรายได้กลุ่มสัมปทาน ดีแทค รายได้กลุ่มโทรศัพท์มือถือและวิทยุคมนาคม
     


http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000028454

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.