Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

19 มีนาคม 2558 จีเอเบิล จะเน้นในปีนี้จะอยู่ในส่วนของ บิ๊กดาต้า ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 100 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจคลาวด์ กับบริการที่เกี่ยวเนื่อง จะสร้างรายได้ราว 120 ล้านบาท โดยจะเป็นผลมาจากการลงทุนทางด้านบุคลากร

ประเด็นหลัก


       นายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท จีเอเบิล กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ทางจีเอเบิลมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจ หันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีโอกาสโตเร็วขึ้น กับธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูง เนื่องจากต้นทุนของบุคลากรสูง ไม่สามารถเข้าไปเล่นในกลุ่มตลาดที่มีมูลค่าต่ำได้ อย่างการวิเคราะห์ข้อมูลบนบิ๊กดาต้า ก็จะมีองค์กรขนาดใหญ่ไม่กี่องค์กรที่พร้อมจะนำไปใช้งาน แต่ถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง
     
       “ภาพรวมการลงทุนไอทีในปีนี้เชื่อว่าจะขึ้นอยู่กับองค์กรขนาดกลางและใหญ่ว่าพร้อมที่จะเสี่ยงลงทุนทางด้านไอที เพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขัน และเหนือกว่าคู่แข่งอื่นในตลาดหรือไม่ แต่เชื่อว่ายังมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องอย่างการเงิน ธนาคาร โทรคมนาคม พลังงาน และอุตสาหกรรมการผลิต ที่กลุ่มธุรกิจเหล่านี้สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มจีเอเบิลกว่า 70%”
     
       โดยทางจีเอเบิลได้มีการประเมินทิศทางของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปีนี้คือ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Science Analytics) คือการนำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์ให้ผลิตภัณฑ์ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด และถือเป็นการตอบรับ บิ๊กดาต้า, การประมวลผลทุกที่ทุกเวลา (Computing Everywhere), การนำซอฟต์แวร์มาควบคุม (Software Defined Everything), ระบบความปลอดภัย (Security) และการนำอุปกรณ์อัจฉริยะมาเป็นกลไกสำคัญในการเติบโต (Smart Machine & Smart Devices)
     
       “การมาของเทรนด์เหล่านี้ ถ้าองค์กรมีการลงทุนเพิ่ม ก็จะช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะทำให้มีผู้เล่นรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาในตลาดด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายของเศรษฐกิจดิจิตอลก็จะยิ่งส่งเสริมการนำไอทีมาช่วยสร้างรายได้แก่ลูกค้าด้วย”
     
       สำหรับการให้บริการแก่องค์กรของจีเอเบิลจะอยู่ในรูปแบบ End-to-End Solution Provider หรือการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ ภายใต้แนวคิด “The Empowerment of Lifestyle” แบ่งรูปแบบการให้บริการออกเป็น 6 กลุ่ม คือ 1. End-to-End Solution 2. Enterprise Application Solutions 3. Infrastructure Solutions 4. IT Service Management Solutions 5. Security Solutions และ 6. Outsourcing Services

จีเอเบิล จัดทัพรุก บิ๊กดาต้า-คลาวด์ หวังสร้างรายได้กว่า 220 ล้านบาท

        “2 ธุรกิจหลักที่จีเอเบิลจะเน้นในปีนี้จะอยู่ในส่วนของ บิ๊กดาต้า ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 100 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจคลาวด์ กับบริการที่เกี่ยวเนื่อง จะสร้างรายได้ราว 120 ล้านบาท โดยจะเป็นผลมาจากการลงทุนทางด้านบุคลากร และระบบในปีที่ผ่านมารวมๆ กันกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมของจีเอเบิลคาดว่าจะเติบโตราว 10% เป็น 5,500 ล้านบาทในปีนี้”
   


_____________________________________________________













จีเอเบิล จัดทัพรุก บิ๊กดาต้า-คลาวด์ หวังสร้างรายได้กว่า 220 ล้านบาท



        “จีเอเบิล” ปรับแนวทางรุกตลาดบิ๊กดาต้า กับคลาวด์ เป็นหลักหลังเห็นแนวโน้มการเติบโตสูง คาดสร้างรายได้ให้แก่บริษัทรวมกันกว่า 220 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10% เป็น 5,500 ล้านบาท
     
       นายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท จีเอเบิล กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ทางจีเอเบิลมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจ หันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีโอกาสโตเร็วขึ้น กับธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูง เนื่องจากต้นทุนของบุคลากรสูง ไม่สามารถเข้าไปเล่นในกลุ่มตลาดที่มีมูลค่าต่ำได้ อย่างการวิเคราะห์ข้อมูลบนบิ๊กดาต้า ก็จะมีองค์กรขนาดใหญ่ไม่กี่องค์กรที่พร้อมจะนำไปใช้งาน แต่ถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง
     
       “ภาพรวมการลงทุนไอทีในปีนี้เชื่อว่าจะขึ้นอยู่กับองค์กรขนาดกลางและใหญ่ว่าพร้อมที่จะเสี่ยงลงทุนทางด้านไอที เพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขัน และเหนือกว่าคู่แข่งอื่นในตลาดหรือไม่ แต่เชื่อว่ายังมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องอย่างการเงิน ธนาคาร โทรคมนาคม พลังงาน และอุตสาหกรรมการผลิต ที่กลุ่มธุรกิจเหล่านี้สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มจีเอเบิลกว่า 70%”
     
       โดยทางจีเอเบิลได้มีการประเมินทิศทางของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปีนี้คือ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Science Analytics) คือการนำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์ให้ผลิตภัณฑ์ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด และถือเป็นการตอบรับ บิ๊กดาต้า, การประมวลผลทุกที่ทุกเวลา (Computing Everywhere), การนำซอฟต์แวร์มาควบคุม (Software Defined Everything), ระบบความปลอดภัย (Security) และการนำอุปกรณ์อัจฉริยะมาเป็นกลไกสำคัญในการเติบโต (Smart Machine & Smart Devices)
     
       “การมาของเทรนด์เหล่านี้ ถ้าองค์กรมีการลงทุนเพิ่ม ก็จะช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะทำให้มีผู้เล่นรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาในตลาดด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายของเศรษฐกิจดิจิตอลก็จะยิ่งส่งเสริมการนำไอทีมาช่วยสร้างรายได้แก่ลูกค้าด้วย”
     
       สำหรับการให้บริการแก่องค์กรของจีเอเบิลจะอยู่ในรูปแบบ End-to-End Solution Provider หรือการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ ภายใต้แนวคิด “The Empowerment of Lifestyle” แบ่งรูปแบบการให้บริการออกเป็น 6 กลุ่ม คือ 1. End-to-End Solution 2. Enterprise Application Solutions 3. Infrastructure Solutions 4. IT Service Management Solutions 5. Security Solutions และ 6. Outsourcing Services

จีเอเบิล จัดทัพรุก บิ๊กดาต้า-คลาวด์ หวังสร้างรายได้กว่า 220 ล้านบาท

        “2 ธุรกิจหลักที่จีเอเบิลจะเน้นในปีนี้จะอยู่ในส่วนของ บิ๊กดาต้า ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 100 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจคลาวด์ กับบริการที่เกี่ยวเนื่อง จะสร้างรายได้ราว 120 ล้านบาท โดยจะเป็นผลมาจากการลงทุนทางด้านบุคลากร และระบบในปีที่ผ่านมารวมๆ กันกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมของจีเอเบิลคาดว่าจะเติบโตราว 10% เป็น 5,500 ล้านบาทในปีนี้”
     
       นางสาวปาจรีย์ แสงคำ รองประธานส่วนงานโซลูชัน บริษัท จีบิสซิเนส จำกัด กล่าวถึงบริการในกลุ่มของบิ๊กดาต้าว่า บริษัทมีบริการล่าสุดภายใต้ชื่อ Ask DOM ที่เป็นบริการรวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย และนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์กับข้อมูลภายในองค์กรที่หลายองค์กรให้ความสนใจ
     
       “หลายๆ องค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับข้อมูลจำนวนมากที่อยู่ภายนอกองค์กร เพื่อนำมาวิเคราะห์ในเชิงลึก อย่างการวิเคราะห์พฤติกรรม หาจุดตัดสินใจซื้อ การประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กร เพื่อให้มีโอกาสในการตอบสนอง และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันที”
     
       ทั้งนี้ การบริหารจัดการข้อมูลของจีเอเบิล จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 1. การออกแบบ ในการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรวมศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ไปจนถึงการเตรียมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ 2. บริการให้คำแนะนำ ในการจัดทำกลยุทธ์วิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจ และ 3. การวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย จากโปรแกรมสำเร็จรูปพร้อมใช้งานได้ทันที
     
       โดยจุดแข็งในการรุกตลาดคือ บุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้หลากหลาย และมีความโดดเด่นเฉพาะด้าน เป็นแบรนด์เดียวที่มีบริการสำเร็จรูปทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลภายในองค์กร และโซเชียลมีเดียที่รองรับภาษาไทย พร้อมกับการจัดตั้ง บิ๊ก ดาต้า เอ็กซ์พีเรียนซ์ เพื่อให้คำปรึกษา และแบ่งปันองค์ความรู้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และพันธมิตรทางธุรกิจ
     
       นายอนุกูล ปิยะธนานุกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มเวิร์จ จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทจีเอเบิลกล่าวเพิมเติมว่า ตอนนี้ถือว่าคลาวด์เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจ เพราะช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัว เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมไปกับการเชื่อมโยงระบบเข้าหากันในการทำงานรวมถึงช่วยลดต้นทุน
     
       “เชื่อว่าท้ายที่สุดองค์กรส่วนใหญ่จะลงทุนคลาวด์ในระบบไฮบริดเป็นหลัก เพราะยังมีข้อมูลบางส่วนที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูล แต่ก็จะมีบางส่วนที่ต้องการความรวดเร็วในการใช้งานบนพลับบลิกคลาวด์”
     
       โดยกลุ่มบริษัทจีเอเบิลได้นำเสนอบริการในทุกมิติของคลาวด์แก่ธุรกิจทุกประเภท เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยในส่วนของ Enterprise Cloud (คลาวด์สำหรับองค์กรธุรกิจ) จีเอเบิลจะเน้นให้คำปรึกษาในการสร้างระบบ คลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และ Ready-to-Use Cloud Solution (โซลูชันคลาวด์แบบพร้อมใช้งาน) โซลูชันสำหรับทดสอบแอปพลิเคชันใน ระบบเสมือน ระบบศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองขององค์กรบนคลาวด์ และโซลูชันสำหรับบริหารจัดการป้ายดิจิตอล (Digital Signage)
     
       จุดแข็งที่สำคัญในการให้บริการคลาวด์ของจีเอเบิลคือ มีความเชี่ยวชาญในการเลือกผลิตภัณฑ์ และโซลูชัน จากพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสม มีความพร้อมด้านบุคลากรในการให้บริการแบบครบวงจร ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก โดยปัจจุบัน จีเอเบิลมีลูกค้าที่ให้บริการคลาวด์แล้วราว 20 องค์กร และตั้งเป้าจะเพิ่มฐานลูกค้าปีนี้ให้ได้กว่า 50%


http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031262

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.