07 เมษายน 2558 (เกาะติดการประมูล4G) SUPRE กสทช.ประเสริฐ ระบุ แนะควรเลื่อนประมูล4G โดยเฉพาะคลื่น 1800 ปริมาณของคลื่นในการให้บริการ 4จี จำนวน 12.5 เมกะเฮิรตซ์ ไม่เพียงพอต่อการให้บริการแต่อย่างใด
ประเด็นหลัก
นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับการเพิ่มปริมาณคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีอยู่ในขณะนี้ เห็นว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บอร์ดดีอี) ในการเรียกคืนคลื่นจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ก็ยังแสดงความจำนงขอคืนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ในสัญญาสัมปทานระหว่างดีแทคและบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ยังไม่ได้มีการใช้งานจำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ ก่อนกำหนดสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2561 ดังนั้น กสทช.จึงควรจะนำคลื่นความถี่ของดีแทคที่พร้อมจะคืนมาจัดสรรด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ กตป.จะส่งผลการดำเนินงานประจำปีที่ได้ติดตามและตรวจสอบจาก กสทช. พร้อมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแผนการประมูลคลื่น 4จี ดังกล่าวเพื่อส่งให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในเดือนเมษายนนี้
"หากกระบวนการเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่จะเรียกคืนมาจากดีแทคจะทำให้กรอบเวลาการประมูลต้องเลื่อนออกไปจากที่ กสทช.กำหนดไว้ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ อีกสักประมาณ 2-3 เดือน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค้าและควรดำเนินการ หากการดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า" นายประเสริฐกล่าว
_____________________________________________________
แนะเลื่อนประมูล4จีต้นปีหน้า ซุปเปอร์บอร์ดกสทช.หวั่นคลื่นไม่พอ รอเรียกคืนดีแทค
ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.แนะเลื่อนประมูล 4จี จากกำหนด 11 พ.ย. ออกไปอีก 2-3 เดือน รอเรียกคืนคลื่นเพิ่มจากดีแทคก่อน หวั่นความถี่เดิมไม่เพียงพอบริการอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสนอ สนช.พิจารณา เม.ย. มั่นใจเลื่อนแล้วเกิดประโยชน์ถือว่าคุ้ม
นายประเสริฐ อภิปุญญา กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือซุปเปอร์บอร์ด กสทช. เปิดเผยว่า จากกรณีที่ กสทช.ได้ประกาศเดินหน้าการจัดประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในปี 2558 โดย กตป.ได้มีการศึกษารายละเอียดการจัดประมูลของ กสทช.แล้ว จึงขอแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับแผนการจัดประมูลดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่ กสทช.จะแบ่งการประมูลเป็น 2 ใบอนุญาต ปริมาณใบอนุญาตละ 12.5 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากข้อมูลทางเทคนิคในการให้บริการ 4จี พบว่าปริมาณของคลื่นในการให้บริการ 4จี จำนวน 12.5 เมกะเฮิรตซ์ ไม่เพียงพอต่อการให้บริการแต่อย่างใด
นายประเสริฐกล่าวว่า ในทางเทคนิคยังเห็นว่าการใช้งานคลื่นความถี่สำหรับ 4จี จะต้องลงท้ายทีละ 5 หรือ 10 เมกะเฮิรตซ์ เช่น 5, 10, 15 หรือ 20 เมกะเฮิรตซ์ ดังนั้นแผนการประมูลที่ กสทช.วางไว้ จะทำให้ประเทศสูญเสียคลื่นความถี่จำนวน 2.5 เมกะเฮิรตซ์ โดยใช่เหตุ กสทช.ควรจะจัดสรรคลื่นความถี่ในย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ อย่างน้อย 20 เมกะเฮิรตซ์ ต่อ 1 ใบอนุญาต เพื่อจะได้ให้บริการ 4จี จึงจะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับการเพิ่มปริมาณคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีอยู่ในขณะนี้ เห็นว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บอร์ดดีอี) ในการเรียกคืนคลื่นจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ก็ยังแสดงความจำนงขอคืนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ในสัญญาสัมปทานระหว่างดีแทคและบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ยังไม่ได้มีการใช้งานจำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ ก่อนกำหนดสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2561 ดังนั้น กสทช.จึงควรจะนำคลื่นความถี่ของดีแทคที่พร้อมจะคืนมาจัดสรรด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ กตป.จะส่งผลการดำเนินงานประจำปีที่ได้ติดตามและตรวจสอบจาก กสทช. พร้อมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแผนการประมูลคลื่น 4จี ดังกล่าวเพื่อส่งให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในเดือนเมษายนนี้
"หากกระบวนการเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่จะเรียกคืนมาจากดีแทคจะทำให้กรอบเวลาการประมูลต้องเลื่อนออกไปจากที่ กสทช.กำหนดไว้ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ อีกสักประมาณ 2-3 เดือน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค้าและควรดำเนินการ หากการดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า" นายประเสริฐกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กสทช.มีแผนจะจัดประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ในเดือนสิงหาคม แต่ภายหลังได้เลื่อนระยะเวลาดำเนินการออกไปเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน และคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ เป็นวันที่ 15 ธันวาคม เนื่องจากต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1428375444
นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับการเพิ่มปริมาณคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีอยู่ในขณะนี้ เห็นว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บอร์ดดีอี) ในการเรียกคืนคลื่นจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ก็ยังแสดงความจำนงขอคืนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ในสัญญาสัมปทานระหว่างดีแทคและบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ยังไม่ได้มีการใช้งานจำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ ก่อนกำหนดสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2561 ดังนั้น กสทช.จึงควรจะนำคลื่นความถี่ของดีแทคที่พร้อมจะคืนมาจัดสรรด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ กตป.จะส่งผลการดำเนินงานประจำปีที่ได้ติดตามและตรวจสอบจาก กสทช. พร้อมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแผนการประมูลคลื่น 4จี ดังกล่าวเพื่อส่งให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในเดือนเมษายนนี้
"หากกระบวนการเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่จะเรียกคืนมาจากดีแทคจะทำให้กรอบเวลาการประมูลต้องเลื่อนออกไปจากที่ กสทช.กำหนดไว้ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ อีกสักประมาณ 2-3 เดือน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค้าและควรดำเนินการ หากการดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า" นายประเสริฐกล่าว
_____________________________________________________
แนะเลื่อนประมูล4จีต้นปีหน้า ซุปเปอร์บอร์ดกสทช.หวั่นคลื่นไม่พอ รอเรียกคืนดีแทค
ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.แนะเลื่อนประมูล 4จี จากกำหนด 11 พ.ย. ออกไปอีก 2-3 เดือน รอเรียกคืนคลื่นเพิ่มจากดีแทคก่อน หวั่นความถี่เดิมไม่เพียงพอบริการอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสนอ สนช.พิจารณา เม.ย. มั่นใจเลื่อนแล้วเกิดประโยชน์ถือว่าคุ้ม
นายประเสริฐ อภิปุญญา กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือซุปเปอร์บอร์ด กสทช. เปิดเผยว่า จากกรณีที่ กสทช.ได้ประกาศเดินหน้าการจัดประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในปี 2558 โดย กตป.ได้มีการศึกษารายละเอียดการจัดประมูลของ กสทช.แล้ว จึงขอแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับแผนการจัดประมูลดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่ กสทช.จะแบ่งการประมูลเป็น 2 ใบอนุญาต ปริมาณใบอนุญาตละ 12.5 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากข้อมูลทางเทคนิคในการให้บริการ 4จี พบว่าปริมาณของคลื่นในการให้บริการ 4จี จำนวน 12.5 เมกะเฮิรตซ์ ไม่เพียงพอต่อการให้บริการแต่อย่างใด
นายประเสริฐกล่าวว่า ในทางเทคนิคยังเห็นว่าการใช้งานคลื่นความถี่สำหรับ 4จี จะต้องลงท้ายทีละ 5 หรือ 10 เมกะเฮิรตซ์ เช่น 5, 10, 15 หรือ 20 เมกะเฮิรตซ์ ดังนั้นแผนการประมูลที่ กสทช.วางไว้ จะทำให้ประเทศสูญเสียคลื่นความถี่จำนวน 2.5 เมกะเฮิรตซ์ โดยใช่เหตุ กสทช.ควรจะจัดสรรคลื่นความถี่ในย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ อย่างน้อย 20 เมกะเฮิรตซ์ ต่อ 1 ใบอนุญาต เพื่อจะได้ให้บริการ 4จี จึงจะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับการเพิ่มปริมาณคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีอยู่ในขณะนี้ เห็นว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บอร์ดดีอี) ในการเรียกคืนคลื่นจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ก็ยังแสดงความจำนงขอคืนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ในสัญญาสัมปทานระหว่างดีแทคและบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ยังไม่ได้มีการใช้งานจำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ ก่อนกำหนดสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2561 ดังนั้น กสทช.จึงควรจะนำคลื่นความถี่ของดีแทคที่พร้อมจะคืนมาจัดสรรด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ กตป.จะส่งผลการดำเนินงานประจำปีที่ได้ติดตามและตรวจสอบจาก กสทช. พร้อมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแผนการประมูลคลื่น 4จี ดังกล่าวเพื่อส่งให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในเดือนเมษายนนี้
"หากกระบวนการเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่จะเรียกคืนมาจากดีแทคจะทำให้กรอบเวลาการประมูลต้องเลื่อนออกไปจากที่ กสทช.กำหนดไว้ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ อีกสักประมาณ 2-3 เดือน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค้าและควรดำเนินการ หากการดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า" นายประเสริฐกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กสทช.มีแผนจะจัดประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ในเดือนสิงหาคม แต่ภายหลังได้เลื่อนระยะเวลาดำเนินการออกไปเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน และคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ เป็นวันที่ 15 ธันวาคม เนื่องจากต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1428375444
ไม่มีความคิดเห็น: