18 พฤษภาคม 2558 RS ปรับแผนธุรกิจเพลงะเน้นการหาพันธมิตรเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันกับบริษัทให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำโฆษณาแฝง หรือไทอินในมิวสิกวิดีโอ มีอัตราเฉลี่ยเริ่มต้น 5 แสน–1 ล้านบาทต่อมิวสิกวิดีโอขึ้นอยู่กับขนาด
ประเด็นหลัก
สำหรับโมเดลดังกล่าวบริษัทมองว่าจะทำให้ค่ายเพลงไทยสากลมีช่องทางของการสร้างรายได้ที่กระจายตัวได้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่รายได้หลักจะมาจากการดาวน์โหลดเพลง แต่ตอนนี้กระแสได้ตกลงไปแล้ว จากนี้จะเน้นการหาพันธมิตรเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันกับบริษัทให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำโฆษณาแฝง หรือไทอินในมิวสิกวิดีโอ หรือการดึงศิลปินในค่ายไปเป็นพรีเซนเตอร์ มีอัตราเฉลี่ยเริ่มต้น 5 แสน–1 ล้านบาทต่อมิวสิกวิดีโอขึ้นอยู่กับขนาด
_____________________________________________________
RSปรับแผนธุรกิจเพลง
“อาร์เอส” ดิ้นสุดฤทธิ์ หาช่องทางสร้างรายได้ให้ธุรกิจเพลง ดึงโมเดล "อาร์สยาม" มาปรับใช้
นายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจค่ายเพลงจะต้องมีการปรับตัว และต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในการทำธุรกิจ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีหลายค่ายเพลงต้องมีการปิดตัวลงไป เนื่องจากได้เลือกหาวิธีการสร้างรายได้เพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น ในการนี้บริษัทจึงได้นำโมเดล “วัน สต็อป เซอร์วิส” ที่ได้มีการใช้กับค่ายเพลงลูกทุ่งอาร์สยามมากว่า 5 ปี นำมาปรับใช้ในกลุ่มค่ายเพลงไทยสากลของบริษัทที่มีอยู่ ซึ่งจะถือว่าเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญในการผลักดันให้ธุรกิจเพลงเติบโตได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเพลงจะต้องประสบกับปัญหายอดขายที่ลดลงไป
สำหรับโมเดลดังกล่าวบริษัทมองว่าจะทำให้ค่ายเพลงไทยสากลมีช่องทางของการสร้างรายได้ที่กระจายตัวได้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่รายได้หลักจะมาจากการดาวน์โหลดเพลง แต่ตอนนี้กระแสได้ตกลงไปแล้ว จากนี้จะเน้นการหาพันธมิตรเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันกับบริษัทให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำโฆษณาแฝง หรือไทอินในมิวสิกวิดีโอ หรือการดึงศิลปินในค่ายไปเป็นพรีเซนเตอร์ มีอัตราเฉลี่ยเริ่มต้น 5 แสน–1 ล้านบาทต่อมิวสิกวิดีโอขึ้นอยู่กับขนาด
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของธุรกิจเพลงมาจากค่ายอาร์สยามเป็นหลัก 70% ส่วนที่เหลือมาจากค่ายเพลงไทยสากลรวมกัน 30% บริษัทพยายามที่จะปรับสัดส่วนรายได้ของเพลงไทยสากลเพิ่มขึ้นมาเป็น 40% ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมธุรกิจเพลงในช่วงไตรมาสแรกจะมีอัตราที่ทรงตัว แต่บริษัทยังเชื่อว่าหลังจากได้เพิ่มช่องทางของการสร้างรายได้ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น จะทำให้รายได้ปีนี้เติบโต 30% หรือคิดเป็น 1,350 ล้านบาท จากปี 2557 มีรายได้ 1,035 ล้านบาท โต 15%.
http://www.thaipost.net/?q=rsปรับแผนธุรกิจเพลง
สำหรับโมเดลดังกล่าวบริษัทมองว่าจะทำให้ค่ายเพลงไทยสากลมีช่องทางของการสร้างรายได้ที่กระจายตัวได้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่รายได้หลักจะมาจากการดาวน์โหลดเพลง แต่ตอนนี้กระแสได้ตกลงไปแล้ว จากนี้จะเน้นการหาพันธมิตรเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันกับบริษัทให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำโฆษณาแฝง หรือไทอินในมิวสิกวิดีโอ หรือการดึงศิลปินในค่ายไปเป็นพรีเซนเตอร์ มีอัตราเฉลี่ยเริ่มต้น 5 แสน–1 ล้านบาทต่อมิวสิกวิดีโอขึ้นอยู่กับขนาด
_____________________________________________________
RSปรับแผนธุรกิจเพลง
“อาร์เอส” ดิ้นสุดฤทธิ์ หาช่องทางสร้างรายได้ให้ธุรกิจเพลง ดึงโมเดล "อาร์สยาม" มาปรับใช้
นายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจค่ายเพลงจะต้องมีการปรับตัว และต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในการทำธุรกิจ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีหลายค่ายเพลงต้องมีการปิดตัวลงไป เนื่องจากได้เลือกหาวิธีการสร้างรายได้เพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น ในการนี้บริษัทจึงได้นำโมเดล “วัน สต็อป เซอร์วิส” ที่ได้มีการใช้กับค่ายเพลงลูกทุ่งอาร์สยามมากว่า 5 ปี นำมาปรับใช้ในกลุ่มค่ายเพลงไทยสากลของบริษัทที่มีอยู่ ซึ่งจะถือว่าเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญในการผลักดันให้ธุรกิจเพลงเติบโตได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเพลงจะต้องประสบกับปัญหายอดขายที่ลดลงไป
สำหรับโมเดลดังกล่าวบริษัทมองว่าจะทำให้ค่ายเพลงไทยสากลมีช่องทางของการสร้างรายได้ที่กระจายตัวได้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่รายได้หลักจะมาจากการดาวน์โหลดเพลง แต่ตอนนี้กระแสได้ตกลงไปแล้ว จากนี้จะเน้นการหาพันธมิตรเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันกับบริษัทให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำโฆษณาแฝง หรือไทอินในมิวสิกวิดีโอ หรือการดึงศิลปินในค่ายไปเป็นพรีเซนเตอร์ มีอัตราเฉลี่ยเริ่มต้น 5 แสน–1 ล้านบาทต่อมิวสิกวิดีโอขึ้นอยู่กับขนาด
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของธุรกิจเพลงมาจากค่ายอาร์สยามเป็นหลัก 70% ส่วนที่เหลือมาจากค่ายเพลงไทยสากลรวมกัน 30% บริษัทพยายามที่จะปรับสัดส่วนรายได้ของเพลงไทยสากลเพิ่มขึ้นมาเป็น 40% ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมธุรกิจเพลงในช่วงไตรมาสแรกจะมีอัตราที่ทรงตัว แต่บริษัทยังเชื่อว่าหลังจากได้เพิ่มช่องทางของการสร้างรายได้ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น จะทำให้รายได้ปีนี้เติบโต 30% หรือคิดเป็น 1,350 ล้านบาท จากปี 2557 มีรายได้ 1,035 ล้านบาท โต 15%.
http://www.thaipost.net/?q=rsปรับแผนธุรกิจเพลง
ไม่มีความคิดเห็น: