14 กรกฎาคม 2558 CAT ทำสัญญาทางธุรกิจกับบริษัท สุวิเทค จำกัด พัฒนาระบบ MVNO ในสัญญาอายุ 10 ปี สำหรับเอ็มวีเอ็นโอ ตอนนี้ บมจ.กสทฯ ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว 3 ราย และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ภายในสิ้นปีจะมีเอ็มวีเอ็นโอประมาณ 6 ราย
ประเด็นหลัก
นอกจากนี้บริษัทได้ทำสัญญาทางธุรกิจกับบริษัท สุวิเทค จำกัด ผู้ออกแบบระบบซอฟต์แวร์ธุรกิจ ซึ่งร่วมมือกับบริษัท อีลิทคอร์ เทคโนโลยี พัฒนาระบบเอ็มวีเอ็นอี ซึ่งเป็นงานไอทีหลังบ้านที่สนับสนุนการดำเนินงานของผู้ให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเอ็มวีเอ็นโอ ในสัญญาอายุ 10 ปี โดยสุวิเทคมีระบบปฏิบัติการที่ครบถ้วนและสอดรับกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการช่วยลดต้นทุนให้แก่เอ็มวีเอ็นโอได้เป็นอย่างดี ส่วนการแบ่งสัดส่วนรายได้ระหว่างบริษัทและสุวิเทคนั้น ใช้วิธีคำนวณจากการใช้งานจริงของลูกค้าเอ็มวีเอ็นโอ
สำหรับเอ็มวีเอ็นโอ ตอนนี้ บมจ.กสทฯ ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว 3 ราย และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ภายในสิ้นปีจะมีเอ็มวีเอ็นโอประมาณ 6 ราย ซึ่งเชื่อว่าในปีแรกจะมีรายได้กว่า 200 ล้านบาท จากยอดลูกค้าที่ใช้บริการของเอ็มวีเอ็นโอ 200,000 ราย หลังจากที่มีการเซ็นสัญญาแล้ว 1 ปี หรือประมาณ ต.ค.59 พร้อมทั้งตั้งเป้าภายใน 5 ปี สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท และมีลูกค้าประมาณ 1.3 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาย ซึ่งเป็นการทำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ กสทฯ เองนั้น ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากมาย 2,286 ล้านบาท.
____________________________________
กสทฯใจดีคืนคลื่น 5เมกให้กสทช.ทำ4จี ลุยเพิ่มเอ็มวีเอ็นโอ
บมจ.กสทฯ เล็งถก กสทช.สัปดาห์หน้า คืนคลื่น 5 เมกะเฮิรตซ์ของดีแทค นำมาประมูล 4จี เลือกสุวิเทคทำระบบหลังบ้าน คาดมีเอ็มวีเอ็นโอเพิ่มอีก 3 ราย มั่นใจรายได้ปีแรก 200 ล้าน
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันท์ กรรมการบริษัทและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเข้าไปเจรจากับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อแสดงความต้องการที่จะคืนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ที่เป็นคลื่นของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ในส่วนของคลื่นความถี่ 25 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานและยังไม่ได้ใช้งาน เพื่อนำไปรวมกับคลื่นที่จะใช้ประมูลทำ 4จี
ทั้งนี้ ดีแทคได้ทำหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า พร้อมคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อนำมาประมูล จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ และหากนำคลื่นความถี่ดังกล่าวมาประมูล พร้อมกับคลื่นความถี่ที่ กสทช.จะประมูลจำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 2 ใบอนุญาต ใบละ 12.5 เมกะเฮิรตซ์ ก็จะทำให้มีคลื่นความถี่ที่จะประมูลเพิ่มเป็น 30 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้มีคลื่นความถี่จะประมูลเพิ่มมากขึ้น แต่อาจจะทำให้แผนการจัดประมูลที่วางไว้ของ กสทช.อาจจะต้องช้าไปประมาณ 2 เดือน เพราะจะต้องทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีคลื่นเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ประเทศชาติต้องได้ประโยชน์อย่างสูงสุด
นอกจากนี้บริษัทได้ทำสัญญาทางธุรกิจกับบริษัท สุวิเทค จำกัด ผู้ออกแบบระบบซอฟต์แวร์ธุรกิจ ซึ่งร่วมมือกับบริษัท อีลิทคอร์ เทคโนโลยี พัฒนาระบบเอ็มวีเอ็นอี ซึ่งเป็นงานไอทีหลังบ้านที่สนับสนุนการดำเนินงานของผู้ให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเอ็มวีเอ็นโอ ในสัญญาอายุ 10 ปี โดยสุวิเทคมีระบบปฏิบัติการที่ครบถ้วนและสอดรับกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการช่วยลดต้นทุนให้แก่เอ็มวีเอ็นโอได้เป็นอย่างดี ส่วนการแบ่งสัดส่วนรายได้ระหว่างบริษัทและสุวิเทคนั้น ใช้วิธีคำนวณจากการใช้งานจริงของลูกค้าเอ็มวีเอ็นโอ
สำหรับเอ็มวีเอ็นโอ ตอนนี้ บมจ.กสทฯ ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว 3 ราย และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ภายในสิ้นปีจะมีเอ็มวีเอ็นโอประมาณ 6 ราย ซึ่งเชื่อว่าในปีแรกจะมีรายได้กว่า 200 ล้านบาท จากยอดลูกค้าที่ใช้บริการของเอ็มวีเอ็นโอ 200,000 ราย หลังจากที่มีการเซ็นสัญญาแล้ว 1 ปี หรือประมาณ ต.ค.59 พร้อมทั้งตั้งเป้าภายใน 5 ปี สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท และมีลูกค้าประมาณ 1.3 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาย ซึ่งเป็นการทำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ กสทฯ เองนั้น ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากมาย 2,286 ล้านบาท.
http://www.thaipost.net/?q=กสทฯใจดีคืนคลื่น-5เมกให้กสทชทำ4จี-ลุยเพิ่มเอ็มวีเอ็นโอ
นอกจากนี้บริษัทได้ทำสัญญาทางธุรกิจกับบริษัท สุวิเทค จำกัด ผู้ออกแบบระบบซอฟต์แวร์ธุรกิจ ซึ่งร่วมมือกับบริษัท อีลิทคอร์ เทคโนโลยี พัฒนาระบบเอ็มวีเอ็นอี ซึ่งเป็นงานไอทีหลังบ้านที่สนับสนุนการดำเนินงานของผู้ให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเอ็มวีเอ็นโอ ในสัญญาอายุ 10 ปี โดยสุวิเทคมีระบบปฏิบัติการที่ครบถ้วนและสอดรับกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการช่วยลดต้นทุนให้แก่เอ็มวีเอ็นโอได้เป็นอย่างดี ส่วนการแบ่งสัดส่วนรายได้ระหว่างบริษัทและสุวิเทคนั้น ใช้วิธีคำนวณจากการใช้งานจริงของลูกค้าเอ็มวีเอ็นโอ
สำหรับเอ็มวีเอ็นโอ ตอนนี้ บมจ.กสทฯ ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว 3 ราย และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ภายในสิ้นปีจะมีเอ็มวีเอ็นโอประมาณ 6 ราย ซึ่งเชื่อว่าในปีแรกจะมีรายได้กว่า 200 ล้านบาท จากยอดลูกค้าที่ใช้บริการของเอ็มวีเอ็นโอ 200,000 ราย หลังจากที่มีการเซ็นสัญญาแล้ว 1 ปี หรือประมาณ ต.ค.59 พร้อมทั้งตั้งเป้าภายใน 5 ปี สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท และมีลูกค้าประมาณ 1.3 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาย ซึ่งเป็นการทำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ กสทฯ เองนั้น ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากมาย 2,286 ล้านบาท.
____________________________________
กสทฯใจดีคืนคลื่น 5เมกให้กสทช.ทำ4จี ลุยเพิ่มเอ็มวีเอ็นโอ
บมจ.กสทฯ เล็งถก กสทช.สัปดาห์หน้า คืนคลื่น 5 เมกะเฮิรตซ์ของดีแทค นำมาประมูล 4จี เลือกสุวิเทคทำระบบหลังบ้าน คาดมีเอ็มวีเอ็นโอเพิ่มอีก 3 ราย มั่นใจรายได้ปีแรก 200 ล้าน
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันท์ กรรมการบริษัทและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเข้าไปเจรจากับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อแสดงความต้องการที่จะคืนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ที่เป็นคลื่นของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ในส่วนของคลื่นความถี่ 25 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานและยังไม่ได้ใช้งาน เพื่อนำไปรวมกับคลื่นที่จะใช้ประมูลทำ 4จี
ทั้งนี้ ดีแทคได้ทำหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า พร้อมคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อนำมาประมูล จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ และหากนำคลื่นความถี่ดังกล่าวมาประมูล พร้อมกับคลื่นความถี่ที่ กสทช.จะประมูลจำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 2 ใบอนุญาต ใบละ 12.5 เมกะเฮิรตซ์ ก็จะทำให้มีคลื่นความถี่ที่จะประมูลเพิ่มเป็น 30 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้มีคลื่นความถี่จะประมูลเพิ่มมากขึ้น แต่อาจจะทำให้แผนการจัดประมูลที่วางไว้ของ กสทช.อาจจะต้องช้าไปประมาณ 2 เดือน เพราะจะต้องทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีคลื่นเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ประเทศชาติต้องได้ประโยชน์อย่างสูงสุด
นอกจากนี้บริษัทได้ทำสัญญาทางธุรกิจกับบริษัท สุวิเทค จำกัด ผู้ออกแบบระบบซอฟต์แวร์ธุรกิจ ซึ่งร่วมมือกับบริษัท อีลิทคอร์ เทคโนโลยี พัฒนาระบบเอ็มวีเอ็นอี ซึ่งเป็นงานไอทีหลังบ้านที่สนับสนุนการดำเนินงานของผู้ให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเอ็มวีเอ็นโอ ในสัญญาอายุ 10 ปี โดยสุวิเทคมีระบบปฏิบัติการที่ครบถ้วนและสอดรับกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการช่วยลดต้นทุนให้แก่เอ็มวีเอ็นโอได้เป็นอย่างดี ส่วนการแบ่งสัดส่วนรายได้ระหว่างบริษัทและสุวิเทคนั้น ใช้วิธีคำนวณจากการใช้งานจริงของลูกค้าเอ็มวีเอ็นโอ
สำหรับเอ็มวีเอ็นโอ ตอนนี้ บมจ.กสทฯ ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว 3 ราย และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ภายในสิ้นปีจะมีเอ็มวีเอ็นโอประมาณ 6 ราย ซึ่งเชื่อว่าในปีแรกจะมีรายได้กว่า 200 ล้านบาท จากยอดลูกค้าที่ใช้บริการของเอ็มวีเอ็นโอ 200,000 ราย หลังจากที่มีการเซ็นสัญญาแล้ว 1 ปี หรือประมาณ ต.ค.59 พร้อมทั้งตั้งเป้าภายใน 5 ปี สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท และมีลูกค้าประมาณ 1.3 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาย ซึ่งเป็นการทำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ กสทฯ เองนั้น ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากมาย 2,286 ล้านบาท.
http://www.thaipost.net/?q=กสทฯใจดีคืนคลื่น-5เมกให้กสทชทำ4จี-ลุยเพิ่มเอ็มวีเอ็นโอ
ไม่มีความคิดเห็น: