17 กรกฎาคม 2558 Lenovo THAILAND ตั้งเป้าหมายจึงใช้งบประมาณการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายอีก 200 แห่ง จากปัจจุบัน 500 แห่ง คาดว่า คอมพิวเตอร์พีซีจะอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง, เซิร์ฟเวอร์ 70,000-80,000 เครื่อง
ประเด็นหลัก
ด้านนายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายจึงใช้งบประมาณการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายอีก 200 แห่ง จากปัจจุบัน 500 แห่ง
และปรับปรุงจุดขายเดิมเพื่อรับการรีแบรนด์ รวมถึงเพิ่มศูนย์บริการหลังการขายของตนเอง จากเดิมเน้นให้คู่ค้าบริหาร เพื่ออุดช่องว่างเรื่องงานบริการ เพราะบริหารจัดการราคา และเทคโนโลยีที่ใส่ไปในสินค้าแต่ละตัวให้แข่งขันได้ดีขึ้น ทำให้ในไตรมาสแรกมีส่วนแบ่งในตลาดคอนซูเมอร์และคอร์ปอเรตกว่า 13%
"ถ้ารวมคอนซูเมอร์ และคอร์ปอเรต ในไตรมาสแรก เลอโนโวเป็นอันดับ 2 ของตลาด เท่ากับเป้าที่ต้องการ แต่ถ้ามองแค่คอนซูเมอร์พีซี เรายังเป็นเบอร์ 3 มีส่วนแบ่ง12.4% ส่วนฝั่งคอร์ปอเรตพีซีเป็นเบอร์ 3 ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 12.4% เซิร์ฟเวอร์ X86 ที่ 21.4% เป็นอันดับ 3 เช่นกัน แต่คู่แข่งไม่มีสินค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเหมือนเรา เชื่อว่าครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะดีขึ้น"
สำหรับตลาดรวมปีนี้คาดว่า คอมพิวเตอร์พีซีจะอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง, เซิร์ฟเวอร์ 70,000-80,000 เครื่อง
หากคิดเป็นการใช้เงินไปกับด้านไอทีจะมีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.6% เป็นการขยายตัวในตลาดองค์กรขนาดใหญ่ เช่น โทรคมนาคม, ธนาคาร และค้าปลีก ปัจจุบันจำนวนองค์กรในประเทศไทยมีเพียง 10% ใช้สินค้าของบริษัท จึงช่วยให้รายได้ในประเทศไทยเติบโต 30% ทุกไตรมาส
____________________________________
มังกรจีน "เลอโนโว" รุกเต็มสูบปักธงตลาด "เอเชีย" เพิ่มน้ำหนักลงทุน "รีแบรนด์" ใหม่ สลัดภาพบริษัทพีซี มุ่ง "End-to-End" ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งเป้าใหญ่ขึ้นเบอร์หนึ่งทุกกลุ่มสินค้าภายใน 2 ปี หลังคว้าแชมป์พีซีในตลาดโลก 2 ปีติดต่อกัน ทั้งเร่งเครื่องขยายช่องทางขายในไทยอีก 200 แห่ง-เปิดศูนย์บริการเพิ่ม
นายแฮรี่ หยาง รองประธานและผู้จัดการทั่วไป เลอโนโว ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า บริษัทแม่ได้ตัดสินใจรีแบรนด์ตราสัญลักษณ์ในรอบ 12 ปี เพื่อสร้างแบรนด์ให้มีสีสันมากขึ้น โดยมีการใช้สีต่าง ๆ ในการแสดงถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งคอมพิวเตอร์พีซี, แท็บเลต, อุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ เป็นต้น และทำให้ในปีงบประมาณนี้ (เม.ย. 2558-มี.ค. 2559) บริษัทจะใช้เงินลงทุนด้านการตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมา และถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่มีเป้าหมายเพื่อผลักดันส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในทุกผลิตภัณฑ์ หลังจากครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ที่ 19.5% ในตลาดพีซีโลกติดต่อมากันมาเป็นปีที่ 2
สำหรับพื้นที่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย, กัมพูชา, เมียนมา, ลาว และเวียดนาม จะเป็นพื้นที่ที่ใช้งบประมาณด้านการตลาดเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบหลายปี เพราะต้องการให้ส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอมพิวเตอร์ และโซลูชั่น ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ให้ได้ภายในปีงบประมาณนี้ และเป็นอันดับ 1 ในปีงบประมาณถัดไป (เม.ย. 2559-มี.ค. 2560) จากปัจจุบันเป็นที่ 3 ในบางผลิตภัณฑ์ และช่วยเพิ่มยอดขายในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก จากที่มีส่วนแบ่งรายได้รวม 12.2%
"เราไม่ใช่บริษัทพีซีอีกต่อไป แต่เป็น End-to-End ที่มีสินค้าตอบโจทย์ตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไป เช่น โน้ตบุ๊ก ไปจนไปถึงเซิร์ฟเวอร์ประมวลผลในองค์กรขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า X86 ที่เพิ่งซื้อกิจการมาเพิ่มศักยภาพในการรุกตลาดองค์กร เลอโนโวจึงแตกต่างไปจากบริษัทพีซีรายอื่น และเราจะใช้จุดแข็งนี้บุกตลาดทั่วโลก ซึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมาเลเซียทำรายได้อันดับ 1 รองลงมาเป็นไทย ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มคอนซูเมอร์เป็นหลัก ขณะที่สิงคโปร์มาจากฝั่งคอร์ปอเรตถึง 40%"
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ และกำลังจะเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่ประเทศเมียนมาภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำตลาดเกิดใหม่ และในทางกลับกันได้หยุดขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ทดลองในสิงคโปร์แล้ว หลังเปิดช่องทางขายด้วยตนเองแล้วไม่คุ้ม ดังนั้นในประเทศอื่นจะเน้นไปร่วมมือกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซท้องถิ่น
ด้านนายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายจึงใช้งบประมาณการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายอีก 200 แห่ง จากปัจจุบัน 500 แห่ง
และปรับปรุงจุดขายเดิมเพื่อรับการรีแบรนด์ รวมถึงเพิ่มศูนย์บริการหลังการขายของตนเอง จากเดิมเน้นให้คู่ค้าบริหาร เพื่ออุดช่องว่างเรื่องงานบริการ เพราะบริหารจัดการราคา และเทคโนโลยีที่ใส่ไปในสินค้าแต่ละตัวให้แข่งขันได้ดีขึ้น ทำให้ในไตรมาสแรกมีส่วนแบ่งในตลาดคอนซูเมอร์และคอร์ปอเรตกว่า 13%
"ถ้ารวมคอนซูเมอร์ และคอร์ปอเรต ในไตรมาสแรก เลอโนโวเป็นอันดับ 2 ของตลาด เท่ากับเป้าที่ต้องการ แต่ถ้ามองแค่คอนซูเมอร์พีซี เรายังเป็นเบอร์ 3 มีส่วนแบ่ง12.4% ส่วนฝั่งคอร์ปอเรตพีซีเป็นเบอร์ 3 ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 12.4% เซิร์ฟเวอร์ X86 ที่ 21.4% เป็นอันดับ 3 เช่นกัน แต่คู่แข่งไม่มีสินค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเหมือนเรา เชื่อว่าครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะดีขึ้น"
สำหรับตลาดรวมปีนี้คาดว่า คอมพิวเตอร์พีซีจะอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง, เซิร์ฟเวอร์ 70,000-80,000 เครื่อง
หากคิดเป็นการใช้เงินไปกับด้านไอทีจะมีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.6% เป็นการขยายตัวในตลาดองค์กรขนาดใหญ่ เช่น โทรคมนาคม, ธนาคาร และค้าปลีก ปัจจุบันจำนวนองค์กรในประเทศไทยมีเพียง 10% ใช้สินค้าของบริษัท จึงช่วยให้รายได้ในประเทศไทยเติบโต 30% ทุกไตรมาส
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1435813228
ไม่มีความคิดเห็น: