17 กรกฎาคม 2558 (บทความ) จีนทุ่มหลายล้านหยวน ดันน.ศ.ขึ้น′เถ้าแก่อีคอมเมิร์ซ′ // ผลมาจากแนวคิด "อินเตอร์เน็ต พลัส" ของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ที่ต้องการเชื่อมโยงการลงทุนบนโลกออนไลน์เข้ากับธรุกิจจริง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
ประเด็นหลัก
____________________________________
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซรูปแบบใหม่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยคนหันมาซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ เพราะช่องทางการจ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีความสะดวกสบาย และใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น บริษัทยักษ์ใหญ่ขายของทางอินเตอร์เน็ตที่ประสบความสำเร็จอย่าง "อาลีบาบา" และ "เจดีดอทคอม" ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนหันหน้าเดินเข้าสู่อุตสาหกรรมอย่างจริงจัง
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากแนวคิด "อินเตอร์เน็ต พลัส" ของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ที่ต้องการเชื่อมโยงการลงทุนบนโลกออนไลน์เข้ากับธรุกิจจริง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
แม้นโยบายการอัดฉีดให้นัก ศึกษาหันมาทำธุรกิจ โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์มากขึ้น แต่มีไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จ เพราะการเริ่มทำธุรกิจต้องมีทักษะการบริหารที่ดี และมีเงินทุนเพียงพอ ซึ่งดูแล้วรัฐบาลจีนอาจจะยังไม่เข้าใจว่านโยบายดังกล่าวยังขาดสาระสำคัญบาง ประการ คือ รัฐบาลจีนควรจะมีแนวทางการฝึกทักษะหรืออาชีพให้นักศึกษาจบใหม่ได้ฝึกฝนก่อน ที่จะเริ่มลงมือทำจริง ทำให้ที่ผ่านมามีคนล้มเหลวจำนวนมาก
สุดท้าย ความตั้งใจของรัฐบาลจีนในการเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่จะไม่ได้ผล โดยเชื่อว่านโยบายที่ครอบคลุมและรอบด้านเท่านั้น จะเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ทำให้นักศึกษาเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และบริการในโลกออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน
____________________________________
จีนทุ่มหลายล้านหยวน ดันน.ศ.ขึ้น′เถ้าแก่อีคอมเมิร์ซ′
คอลัมน์ รู้แล้วบอกต่อ
โดย สิงห์ สุนทรชญา
ที่มา นสพ.มติชนรายวัน
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน รัฐบาลจีน เพิ่งมีนโยบาย ช่วยเหลือนักศึกษาที่จบใหม่ให้หันมาทำธุรกิจของตัวเองมากขึ้น เพื่อลดอัตราการว่างงาน และกระตุ้นให้นักศึกษาคิดค้นนวัตกรรมใหม่ หลังตลาดแรงงานในประเทศแข่งขันกันสูง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว โดยปีนี้มีนักศึกษาจบใหม่ 7.5 ล้านคน มากกว่าตัวเลขของปีที่ผ่านมา
โดยรัฐบาลจีนให้เงินช่วยเหลือหลายล้านหยวนกับผู้ที่จะเริ่มทำธุรกิจ โดยเฉพาะภาค "อีคอมเมิร์ซ"
ตัวเลขของรัฐบาลจีนระบุว่า นักศึกษาจบใหม่เริ่มหันมาทำธรุกิจเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 3 มากกว่าตัวเลขของปีก่อนหน้านี้ แต่ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำอยู่
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซรูปแบบใหม่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยคนหันมาซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ เพราะช่องทางการจ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีความสะดวกสบาย และใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น บริษัทยักษ์ใหญ่ขายของทางอินเตอร์เน็ตที่ประสบความสำเร็จอย่าง "อาลีบาบา" และ "เจดีดอทคอม" ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนหันหน้าเดินเข้าสู่อุตสาหกรรมอย่างจริงจัง
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากแนวคิด "อินเตอร์เน็ต พลัส" ของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ที่ต้องการเชื่อมโยงการลงทุนบนโลกออนไลน์เข้ากับธรุกิจจริง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
แม้นโยบายการอัดฉีดให้นัก ศึกษาหันมาทำธุรกิจ โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์มากขึ้น แต่มีไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จ เพราะการเริ่มทำธุรกิจต้องมีทักษะการบริหารที่ดี และมีเงินทุนเพียงพอ ซึ่งดูแล้วรัฐบาลจีนอาจจะยังไม่เข้าใจว่านโยบายดังกล่าวยังขาดสาระสำคัญบาง ประการ คือ รัฐบาลจีนควรจะมีแนวทางการฝึกทักษะหรืออาชีพให้นักศึกษาจบใหม่ได้ฝึกฝนก่อน ที่จะเริ่มลงมือทำจริง ทำให้ที่ผ่านมามีคนล้มเหลวจำนวนมาก
สุดท้าย ความตั้งใจของรัฐบาลจีนในการเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่จะไม่ได้ผล โดยเชื่อว่านโยบายที่ครอบคลุมและรอบด้านเท่านั้น จะเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ทำให้นักศึกษาเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และบริการในโลกออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1436159715
ไม่มีความคิดเห็น: