29 กรกฎาคม 2558 TRUE และ CTH ทั้งสองค่ายกำลังโฟกัสฐานลูกค้าระดับพรีเมียมเช่นเดียวกัน จากสถานการณ์ในปีนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี กลุ่มลูกค้าระดับล่างชะลอการใช้จ่าย แต่ระดับบนยังดีอยู่
ประเด็นหลัก
กลยุทธ์ที่ทั้งสองค่ายเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน และนำเสนอในทิศทางเดียวกันครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพการแข่งขันของเพย์ทีวีในครึ่งปีหลังนี้ว่า ทั้งสองค่ายกำลังโฟกัสฐานลูกค้าระดับพรีเมียมเช่นเดียวกัน จากสถานการณ์ในปีนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี กลุ่มลูกค้าระดับล่างชะลอการใช้จ่าย แต่ระดับบนยังดีอยู่ ทำให้ลูกค้าระดับพรีเมียมถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนรายได้ในปีนี้ เพียงแต่วัตถุประสงค์ต่างกันเท่านั้น โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน
โดยเฉพาะซีทีเอช การหันกลับมาเน้นฐานลูกค้าพรีเมียมครั้งนี้ เนื่องจากต้องการสร้างมูลค่าจาก พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลสุดท้ายให้มีรายได้มากที่สุด ขณะที่ทางทรูวิชั่นส์ คงจะมองเกมฝ่ายตรงข้ามออกมาตั้งแต่ต้น ว่า สุดท้ายแล้วจะต้องหันกลับมายึดฐานพรีเมียม จึงยอมที่จะจัดโปรโมชันปล่อยราคาจุดเสริมในระดับ 159 บาทที่ถูกเหลือเชื่อออกมา ทั้งนี้ ก็เพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าระดับพรีเมียมให้ดีที่สุด
ส่วนราคาโปรโมชันการติดตั้งแพกเกจใหม่ที่มาพร้อมจุดเสริมครั้งนี้ของทั้ง สองค่าย ต้องยอมรับว่าดึงดูดใจผู้ชมอย่างมากมาก ส่วนใครจะดีกว่าถูกกว่าต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละคน เพราะสุดท้ายแล้ว คอนเทนต์จะเป็นคำตอบว่าของใครดี คุ้ม และถูกกว่ากัน
___________________________________________
“ทรูฯ-CTH” ดัมป์ราคาแพกเกจสู้ ชิงกลุ่มพรีเมียมดันเพย์ทีวีระอุ
ศึกเพย์ทีวีกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง “ทรูวิชั่นส์-ซีทีเอช” วางหมากเจาะลูกค้าพรีเมียมเหมือนกัน สู้ด้วยโปรโมชันติดตั้งจุดเสริมเหมือนกัน เพียงแต่ฝ่ายแดงคือ ทรูวิชั่นส์ คิกออฟไปก่อน ส่วนฝ่ายน้ำเงิน ซีทีเอชมาเงียบๆ ตามหลัง จัดทัพ 6 แพกเกจใหม่พร้อมจุดเสริม แต่ราคายังห่างชั้นกัน มาก ศึกนี้ซีทีเอชมีพรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพัน ฝั่งทรูวิชั่นส์ ปักธงรักษาฐานที่มั่นกลุ่มลูกพรีเมียมไม่ให้หลุดมือ
คิกออฟรับศึกเพย์ทีวีครึ่งปีหลังกันไปแล้ว และเกมนี้เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการเข้าสู่ปีที่ 3 ที่ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ได้พรีเมียร์ลีกมาครอบครอง ซึ่งพยายามลุ้นขาดทุนให้น้อยที่สุดกันแบบเหงื่อตก คงหวังถึงคุ้มทุนจากที่ประมูลมากกว่า 10,000 ล้านบาทได้ยาก แน่นอนว่ากลยุทธ์ในช่วง 2 ปีหลังมานี้ ซีทีเอช ทำตัวเองเป็นคอนเทนต์ โพไวเดอร์ มุ่งขายคอนเทนต์ พรีเมียร์ลีกในทุกช่องทางให้มากที่สุดเป็นหลัก ส่วนในแง่แพลตฟอร์มกล่อง ซีทีเอชขอเก็บไว้เป็น แผนรอง
***CTH เดินเกมเพิ่มจุดเสริมราคาถูกลง 30%
นายอมฤต ศุขะวณิช รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2558/2559 ซึ่งเป็นฤดุกาลสุดท้ายที่บริษัทได้รับลิขสิทธิ์มา ทางซีทีเอชได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นประมาณ 20 รายทั่วประเทศ ที่เดิมก่อนหน้านี้มีปัญหากัน แต่หลังจากนี้จะกลับมาร่วมมือกันในลักษณะของการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2558/2559 ไปทำการตลาด และการขายเอง เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เข้าถึงฐานผู้ชมเคเบิลทีวีได้อีก 80% ของจำนวนเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ ล่าสุด ยังได้ทางช่อง PPTV ร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญไปอีก 26 แมตช์ จากปกติช่อง 3 จะได้ลิขสิทธิ์นี้ไป
***CTH เดินเกมเพิ่มจุดเสริมราคาถูกลง 30%
ส่วนในแง่แพลตฟอร์มของซีทีเอชนั้น ก่อนหน้านี้ นายอมฤต ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า ครึ่งปีหลังนี้ทางซีทีเอช มีแผนที่จะเปิดตัวแพกเกจใหม่ออกมาด้วย โดยรายละเอียดคร่าวๆ นั้นจะเป็นแพกเกจสำหรับผู้หญิง และเด็กที่เสริมเข้ามา ราคา 299 บาทต่อเดือน เพื่อช่วยเพิ่มฐานสมาชิกให้กว้างขึ้น จากฐานผู้ชมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบกีฬา ทั้งนี้ ปัจจุบันซีทีเอชมีการให้บริการอยู่ 3 แพกเกจหลัก คือ 1.สแตนดาร์ดแพกเกจ 299 บาทต่อเดือน 2.พรีเมียมแพกเกจ 499 บาทต่อเดือน และ 3.พรีเมียม+EPL แพกเกจ 799 บาทต่อเดือน
ล่าสุด ทางซีทีเอชพร้อมนำเสนอแพกเกจการรับชมสำหรับครึ่งปีหลังในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาออกมาใหม่ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 6 แพกเกจ ประกอบด้วย 1.Beyond CTHZ ราคา 999 บาทต่อเดือน 2.Ultra Platinum ราคา 699 บาทต่อเดือน 3.Premier League plus HD ราคา 699 บาทต่อเดือน 4.Premier League plus SD ราคา 599 บาทต่อเดือน 5.Pink Gold package ราคา 399 บาทต่อเดือน และ 6.Gold package ราคา 299 บาทต่อเดือน
ที่สำคัญแพกเกจใหม่ครั้งนี้มาพร้อมกลยุทธ์ติดตั้งจุดเสริมโดยเฉพาะ ใน 2 แพกเกจหลัก คือ 1.Beyond CTHZ ราคาติดตั้งจุดเสริมอยู่ที่ 699 บาทต่อเดือน และ 2.Ultra Platinum ราคาติดตั้งจุดเสริม 489 บาทต่อเดือน หรือเฉลี่ยมีราคาถูกลง 30% เมื่อเทียบกับราคาแพกเกจหลัก
***ทรูวิชั่นส์หั่นราคาจุดเสริม 159 บาทต่อจุด
การเปิดตัวแพกเกจใหม่ครั้งนี้ของซีทีเอชไม่ได้ทำแบบยิ่งใหญ่มากนัก เพียงแค่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในมือให้รับรู้ตามปกติเท่านั้น ขณะที่ทางทรูวิชั่นส์ได้เปิดตัวแพกเกจใหม่ชูจุดเด่นในเรื่องการติดตั้งจุดเสริมมาก่อนหน้าเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าสายงาน การพาณิชย์ และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดโปรโมชัน “ติดจุดเดียวคุ้ม แยกติดหลายจุดคุ้มกว่า” เริ่มตั้งแต่ 1-31 ก.ค.นี้ สำหรับลูกค้าระดับพรีเมียม ที่รับชมใน 2 แพกเกจ คือ แพลทินัม แพกเกจ ราคา 2,155 บาทต่อเดือน และโกลด์แพกเกจ ราคา 1,568 บาทต่อเดือนเป็นหลัก ในการได้รับสิทธิเพิ่มจุดติดตั้งฟรีทุกจุด พร้อมจ่ายจุดเสริมในราคาเพียง 159 บาท โดยแพลทินัม แพกเกจ ได้รับชมรวม 4 จุด โกลด์แพกเกจ ได้รับชม 3 จุด เฉลี่ยคิดค่าบริการเพียง 579 บาทต่อจุด จากปกติการเพิ่มจุดติดตั้งจะมีราคาอยู่ที่ 400-730 บาทต่อจุด
“ถือเป็นโปรโมชันที่มองในภาพรวมแล้วจะทำให้แต่ละแพกเกจ โดยเฉพาะแพลทินัมแพกเกจ มีการปรับราคาให้ถูกลงประมาณ 500 กว่าบาท เมื่อคิดในอัตรา 4 จุด จุดละ 730 บาท ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ส่วนสำคัญเพื่อต้องการรักษาฐานสมาชิกกลุ่มพรีเมียม และเพิ่มสมาชิกใหม่ในกลุ่มนี้ขึ้นมาอีก หรือภายในสิ้นปีนี้คาดว่าฐานสมาชิกกลุ่มพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นอีก 5% หรือมีสัดส่วนที่ 17% เมื่อเทียบกับตัวเลขรวมของเป้าหมายสมาชิกทั้งหมดในสิ้นปีนี้ที่ตั้งไว้ 3 ล้านราย” นายพีรธน กล่าว
***ผ่าเกมแพกเกจใหม่ชิงฐานพรีเมียม
กลยุทธ์ที่ทั้งสองค่ายเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน และนำเสนอในทิศทางเดียวกันครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพการแข่งขันของเพย์ทีวีในครึ่งปีหลังนี้ว่า ทั้งสองค่ายกำลังโฟกัสฐานลูกค้าระดับพรีเมียมเช่นเดียวกัน จากสถานการณ์ในปีนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี กลุ่มลูกค้าระดับล่างชะลอการใช้จ่าย แต่ระดับบนยังดีอยู่ ทำให้ลูกค้าระดับพรีเมียมถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนรายได้ในปีนี้ เพียงแต่วัตถุประสงค์ต่างกันเท่านั้น โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน
โดยเฉพาะซีทีเอช การหันกลับมาเน้นฐานลูกค้าพรีเมียมครั้งนี้ เนื่องจากต้องการสร้างมูลค่าจาก พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลสุดท้ายให้มีรายได้มากที่สุด ขณะที่ทางทรูวิชั่นส์ คงจะมองเกมฝ่ายตรงข้ามออกมาตั้งแต่ต้น ว่า สุดท้ายแล้วจะต้องหันกลับมายึดฐานพรีเมียม จึงยอมที่จะจัดโปรโมชันปล่อยราคาจุดเสริมในระดับ 159 บาทที่ถูกเหลือเชื่อออกมา ทั้งนี้ ก็เพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าระดับพรีเมียมให้ดีที่สุด
ส่วนราคาโปรโมชันการติดตั้งแพกเกจใหม่ที่มาพร้อมจุดเสริมครั้งนี้ของทั้งสองค่าย ต้องยอมรับว่าดึงดูดใจผู้ชมอย่างมากมาก ส่วนใครจะดีกว่าถูกกว่าต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละคน เพราะสุดท้ายแล้ว คอนเทนต์จะเป็นคำตอบว่าของใครดี คุ้ม และถูกกว่ากัน
http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000084823
กลยุทธ์ที่ทั้งสองค่ายเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน และนำเสนอในทิศทางเดียวกันครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพการแข่งขันของเพย์ทีวีในครึ่งปีหลังนี้ว่า ทั้งสองค่ายกำลังโฟกัสฐานลูกค้าระดับพรีเมียมเช่นเดียวกัน จากสถานการณ์ในปีนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี กลุ่มลูกค้าระดับล่างชะลอการใช้จ่าย แต่ระดับบนยังดีอยู่ ทำให้ลูกค้าระดับพรีเมียมถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนรายได้ในปีนี้ เพียงแต่วัตถุประสงค์ต่างกันเท่านั้น โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน
โดยเฉพาะซีทีเอช การหันกลับมาเน้นฐานลูกค้าพรีเมียมครั้งนี้ เนื่องจากต้องการสร้างมูลค่าจาก พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลสุดท้ายให้มีรายได้มากที่สุด ขณะที่ทางทรูวิชั่นส์ คงจะมองเกมฝ่ายตรงข้ามออกมาตั้งแต่ต้น ว่า สุดท้ายแล้วจะต้องหันกลับมายึดฐานพรีเมียม จึงยอมที่จะจัดโปรโมชันปล่อยราคาจุดเสริมในระดับ 159 บาทที่ถูกเหลือเชื่อออกมา ทั้งนี้ ก็เพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าระดับพรีเมียมให้ดีที่สุด
ส่วนราคาโปรโมชันการติดตั้งแพกเกจใหม่ที่มาพร้อมจุดเสริมครั้งนี้ของทั้ง สองค่าย ต้องยอมรับว่าดึงดูดใจผู้ชมอย่างมากมาก ส่วนใครจะดีกว่าถูกกว่าต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละคน เพราะสุดท้ายแล้ว คอนเทนต์จะเป็นคำตอบว่าของใครดี คุ้ม และถูกกว่ากัน
___________________________________________
“ทรูฯ-CTH” ดัมป์ราคาแพกเกจสู้ ชิงกลุ่มพรีเมียมดันเพย์ทีวีระอุ
ศึกเพย์ทีวีกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง “ทรูวิชั่นส์-ซีทีเอช” วางหมากเจาะลูกค้าพรีเมียมเหมือนกัน สู้ด้วยโปรโมชันติดตั้งจุดเสริมเหมือนกัน เพียงแต่ฝ่ายแดงคือ ทรูวิชั่นส์ คิกออฟไปก่อน ส่วนฝ่ายน้ำเงิน ซีทีเอชมาเงียบๆ ตามหลัง จัดทัพ 6 แพกเกจใหม่พร้อมจุดเสริม แต่ราคายังห่างชั้นกัน มาก ศึกนี้ซีทีเอชมีพรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพัน ฝั่งทรูวิชั่นส์ ปักธงรักษาฐานที่มั่นกลุ่มลูกพรีเมียมไม่ให้หลุดมือ
คิกออฟรับศึกเพย์ทีวีครึ่งปีหลังกันไปแล้ว และเกมนี้เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการเข้าสู่ปีที่ 3 ที่ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ได้พรีเมียร์ลีกมาครอบครอง ซึ่งพยายามลุ้นขาดทุนให้น้อยที่สุดกันแบบเหงื่อตก คงหวังถึงคุ้มทุนจากที่ประมูลมากกว่า 10,000 ล้านบาทได้ยาก แน่นอนว่ากลยุทธ์ในช่วง 2 ปีหลังมานี้ ซีทีเอช ทำตัวเองเป็นคอนเทนต์ โพไวเดอร์ มุ่งขายคอนเทนต์ พรีเมียร์ลีกในทุกช่องทางให้มากที่สุดเป็นหลัก ส่วนในแง่แพลตฟอร์มกล่อง ซีทีเอชขอเก็บไว้เป็น แผนรอง
***CTH เดินเกมเพิ่มจุดเสริมราคาถูกลง 30%
นายอมฤต ศุขะวณิช รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2558/2559 ซึ่งเป็นฤดุกาลสุดท้ายที่บริษัทได้รับลิขสิทธิ์มา ทางซีทีเอชได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นประมาณ 20 รายทั่วประเทศ ที่เดิมก่อนหน้านี้มีปัญหากัน แต่หลังจากนี้จะกลับมาร่วมมือกันในลักษณะของการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2558/2559 ไปทำการตลาด และการขายเอง เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เข้าถึงฐานผู้ชมเคเบิลทีวีได้อีก 80% ของจำนวนเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ ล่าสุด ยังได้ทางช่อง PPTV ร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญไปอีก 26 แมตช์ จากปกติช่อง 3 จะได้ลิขสิทธิ์นี้ไป
***CTH เดินเกมเพิ่มจุดเสริมราคาถูกลง 30%
ส่วนในแง่แพลตฟอร์มของซีทีเอชนั้น ก่อนหน้านี้ นายอมฤต ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า ครึ่งปีหลังนี้ทางซีทีเอช มีแผนที่จะเปิดตัวแพกเกจใหม่ออกมาด้วย โดยรายละเอียดคร่าวๆ นั้นจะเป็นแพกเกจสำหรับผู้หญิง และเด็กที่เสริมเข้ามา ราคา 299 บาทต่อเดือน เพื่อช่วยเพิ่มฐานสมาชิกให้กว้างขึ้น จากฐานผู้ชมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบกีฬา ทั้งนี้ ปัจจุบันซีทีเอชมีการให้บริการอยู่ 3 แพกเกจหลัก คือ 1.สแตนดาร์ดแพกเกจ 299 บาทต่อเดือน 2.พรีเมียมแพกเกจ 499 บาทต่อเดือน และ 3.พรีเมียม+EPL แพกเกจ 799 บาทต่อเดือน
ล่าสุด ทางซีทีเอชพร้อมนำเสนอแพกเกจการรับชมสำหรับครึ่งปีหลังในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาออกมาใหม่ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 6 แพกเกจ ประกอบด้วย 1.Beyond CTHZ ราคา 999 บาทต่อเดือน 2.Ultra Platinum ราคา 699 บาทต่อเดือน 3.Premier League plus HD ราคา 699 บาทต่อเดือน 4.Premier League plus SD ราคา 599 บาทต่อเดือน 5.Pink Gold package ราคา 399 บาทต่อเดือน และ 6.Gold package ราคา 299 บาทต่อเดือน
ที่สำคัญแพกเกจใหม่ครั้งนี้มาพร้อมกลยุทธ์ติดตั้งจุดเสริมโดยเฉพาะ ใน 2 แพกเกจหลัก คือ 1.Beyond CTHZ ราคาติดตั้งจุดเสริมอยู่ที่ 699 บาทต่อเดือน และ 2.Ultra Platinum ราคาติดตั้งจุดเสริม 489 บาทต่อเดือน หรือเฉลี่ยมีราคาถูกลง 30% เมื่อเทียบกับราคาแพกเกจหลัก
***ทรูวิชั่นส์หั่นราคาจุดเสริม 159 บาทต่อจุด
การเปิดตัวแพกเกจใหม่ครั้งนี้ของซีทีเอชไม่ได้ทำแบบยิ่งใหญ่มากนัก เพียงแค่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในมือให้รับรู้ตามปกติเท่านั้น ขณะที่ทางทรูวิชั่นส์ได้เปิดตัวแพกเกจใหม่ชูจุดเด่นในเรื่องการติดตั้งจุดเสริมมาก่อนหน้าเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าสายงาน การพาณิชย์ และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดโปรโมชัน “ติดจุดเดียวคุ้ม แยกติดหลายจุดคุ้มกว่า” เริ่มตั้งแต่ 1-31 ก.ค.นี้ สำหรับลูกค้าระดับพรีเมียม ที่รับชมใน 2 แพกเกจ คือ แพลทินัม แพกเกจ ราคา 2,155 บาทต่อเดือน และโกลด์แพกเกจ ราคา 1,568 บาทต่อเดือนเป็นหลัก ในการได้รับสิทธิเพิ่มจุดติดตั้งฟรีทุกจุด พร้อมจ่ายจุดเสริมในราคาเพียง 159 บาท โดยแพลทินัม แพกเกจ ได้รับชมรวม 4 จุด โกลด์แพกเกจ ได้รับชม 3 จุด เฉลี่ยคิดค่าบริการเพียง 579 บาทต่อจุด จากปกติการเพิ่มจุดติดตั้งจะมีราคาอยู่ที่ 400-730 บาทต่อจุด
“ถือเป็นโปรโมชันที่มองในภาพรวมแล้วจะทำให้แต่ละแพกเกจ โดยเฉพาะแพลทินัมแพกเกจ มีการปรับราคาให้ถูกลงประมาณ 500 กว่าบาท เมื่อคิดในอัตรา 4 จุด จุดละ 730 บาท ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ส่วนสำคัญเพื่อต้องการรักษาฐานสมาชิกกลุ่มพรีเมียม และเพิ่มสมาชิกใหม่ในกลุ่มนี้ขึ้นมาอีก หรือภายในสิ้นปีนี้คาดว่าฐานสมาชิกกลุ่มพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นอีก 5% หรือมีสัดส่วนที่ 17% เมื่อเทียบกับตัวเลขรวมของเป้าหมายสมาชิกทั้งหมดในสิ้นปีนี้ที่ตั้งไว้ 3 ล้านราย” นายพีรธน กล่าว
***ผ่าเกมแพกเกจใหม่ชิงฐานพรีเมียม
กลยุทธ์ที่ทั้งสองค่ายเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน และนำเสนอในทิศทางเดียวกันครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพการแข่งขันของเพย์ทีวีในครึ่งปีหลังนี้ว่า ทั้งสองค่ายกำลังโฟกัสฐานลูกค้าระดับพรีเมียมเช่นเดียวกัน จากสถานการณ์ในปีนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี กลุ่มลูกค้าระดับล่างชะลอการใช้จ่าย แต่ระดับบนยังดีอยู่ ทำให้ลูกค้าระดับพรีเมียมถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนรายได้ในปีนี้ เพียงแต่วัตถุประสงค์ต่างกันเท่านั้น โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน
โดยเฉพาะซีทีเอช การหันกลับมาเน้นฐานลูกค้าพรีเมียมครั้งนี้ เนื่องจากต้องการสร้างมูลค่าจาก พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลสุดท้ายให้มีรายได้มากที่สุด ขณะที่ทางทรูวิชั่นส์ คงจะมองเกมฝ่ายตรงข้ามออกมาตั้งแต่ต้น ว่า สุดท้ายแล้วจะต้องหันกลับมายึดฐานพรีเมียม จึงยอมที่จะจัดโปรโมชันปล่อยราคาจุดเสริมในระดับ 159 บาทที่ถูกเหลือเชื่อออกมา ทั้งนี้ ก็เพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าระดับพรีเมียมให้ดีที่สุด
ส่วนราคาโปรโมชันการติดตั้งแพกเกจใหม่ที่มาพร้อมจุดเสริมครั้งนี้ของทั้งสองค่าย ต้องยอมรับว่าดึงดูดใจผู้ชมอย่างมากมาก ส่วนใครจะดีกว่าถูกกว่าต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละคน เพราะสุดท้ายแล้ว คอนเทนต์จะเป็นคำตอบว่าของใครดี คุ้ม และถูกกว่ากัน
http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000084823
ไม่มีความคิดเห็น: