23 สิงหาคม 2558 Acer ช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 12-15% ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และเชื่อว่าตลาดโน้ตบุ๊กยังเติบโตได้อีก โดยเฉพาะเครื่องสเป็กสูงสำหรับเล่นเกม และประเภท "ทูอินวัน"
ประเด็นหลัก
สำหรับ "เอเซอร์" ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 12-15% ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และเชื่อว่าตลาดโน้ตบุ๊กยังเติบโตได้อีก โดยเฉพาะเครื่องสเป็กสูงสำหรับเล่นเกม และประเภท "ทูอินวัน"
"ตลาดรวมปีนี้น่าจะโตได้จากปัจจัยต่าง ๆทั้งการเข้ามาของวินโดวส์ 10 และการมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากขึ้น จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าจะได้รับความนิยมคือกลุ่มโน้ตบุ๊กระดับราคาหมื่นต้น สเป็กตั้งแต่คอร์ i3, i5กำลังเป็นที่นิยม ในแง่ช่องทางการขาย เรามีดีลเลอร์ 600 รายทั่วประเทศ มีหน้าร้านอีกกว่าพันแห่ง รวมช่องทางออนไลน์อื่น ๆ คาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้จะเป็นไตรมาสที่มีการตื่นตัวทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและทูอินวัน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าในสิ้นปีภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กของเอเซอร์จะโตไม่ต่ำกว่า 15% มีส่วนแบ่งตลาดที่ 35% ขณะที่ภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กไทยน่าจะโต 10% ต้น ๆ"
_____________________________________________________
เอเซอร์ ดัน "ทูอินวัน" เร่งเกมบุก คาดเสริมตลาดโน้ตบุ๊กปีนี้โตขึ้น
ตลาดคอมพิวเตอร์พีซีอยู่ในโหมดทรง ๆ ทรุด ๆ มาหลายปี จากสารพัดปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความนิยมของสารพัดสมาร์ทดีไวซ์ที่มาแย่งกำลังซื้อหรือสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งปัจจัยหลังโดนกันถ้วนหน้า แต่ในภาพรวมหลังเติบโตถดถอยมาหลายปี ท่ามกลางกำลังซื้อในบ้านเราที่ยังไม่ดีขึ้น ผู้สันทัดกรณีในแวดวงไอทีกลับมองว่ายอดขายในตลาดรวมปีนี้น่าจะผงกหัวขึ้น เพราะจุดต่ำสุดได้ผ่านไปแล้ว
"นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ได้หยิบยกผลสำรวจตลาดของบริษัทวิจัยเจเอฟเคมาอ้างถึงว่า ตลาดรวมโน้ตบุ๊กในครึ่งปีแรกเติบโตประมาณ 7% หรือมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 3.3 แสนเครื่อง และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นอีก ซึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การเติบโตของโน้ตบุ๊กประเภท "ทูอินวัน" หรือประเภทที่ถอดหน้าจอเป็นแท็บเลตได้ โดยในครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 46% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับ "เอเซอร์" ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 12-15% ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และเชื่อว่าตลาดโน้ตบุ๊กยังเติบโตได้อีก โดยเฉพาะเครื่องสเป็กสูงสำหรับเล่นเกม และประเภท "ทูอินวัน"
"ตลาดรวมปีนี้น่าจะโตได้จากปัจจัยต่าง ๆทั้งการเข้ามาของวินโดวส์ 10 และการมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากขึ้น จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าจะได้รับความนิยมคือกลุ่มโน้ตบุ๊กระดับราคาหมื่นต้น สเป็กตั้งแต่คอร์ i3, i5กำลังเป็นที่นิยม ในแง่ช่องทางการขาย เรามีดีลเลอร์ 600 รายทั่วประเทศ มีหน้าร้านอีกกว่าพันแห่ง รวมช่องทางออนไลน์อื่น ๆ คาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้จะเป็นไตรมาสที่มีการตื่นตัวทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและทูอินวัน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าในสิ้นปีภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กของเอเซอร์จะโตไม่ต่ำกว่า 15% มีส่วนแบ่งตลาดที่ 35% ขณะที่ภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กไทยน่าจะโต 10% ต้น ๆ"
ล่าสุดเปิดตัวโน้ตบุ๊กในตระกูล Aspire E Series และทูอินวัน Switch Series 2 in 1ที่ใช้งานได้ทั้งในโหมดของโน้ตบุ๊กและแท็บเลต มี 4 รุ่น ได้แก่ Acer Switch 11V, Switch 10 White Pearl (Limited Edition), Switch 10E และ Acer One ราคาเริ่มต้น 9,900-25,900 บาท เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นในทุกกลุ่มราคา
ฝั่ง "สนธิยา หนูจีนเส้ง" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ปัจจุบันความนิยมการใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่ได้หายไปไหน แต่อาจเปลี่ยนรูปแบบไป โดยอินเทลและเอเซอร์เห็นตรงกันว่า ผลิตภัณฑ์ประเภททูอินวันจะทำตลาดได้ดียิ่งขึ้นในปีนี้ และอินเทลจะทำหน้าที่เป็นหลังบ้านในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์
โดยส่วนตัวมองว่ากำลังซื้อในภาพรวมของคนไทยยังมีอยู่ แต่จะหาผลิตภัณฑ์ที่มาตอบสนองกำลังซื้อ รวมถึงมีรอบของการเปลี่ยนโน้ตบุ๊กใหม่ของกลุ่มผู้บริโภคที่ซื้อมาแล้ว 3-4 ปี การกระตุ้นตลาดของดีลเลอร์ เชื่อว่าจะทำให้ตลาดโน้ตบุ๊กในปีนี้โตขึ้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1439441379
สำหรับ "เอเซอร์" ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 12-15% ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และเชื่อว่าตลาดโน้ตบุ๊กยังเติบโตได้อีก โดยเฉพาะเครื่องสเป็กสูงสำหรับเล่นเกม และประเภท "ทูอินวัน"
"ตลาดรวมปีนี้น่าจะโตได้จากปัจจัยต่าง ๆทั้งการเข้ามาของวินโดวส์ 10 และการมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากขึ้น จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าจะได้รับความนิยมคือกลุ่มโน้ตบุ๊กระดับราคาหมื่นต้น สเป็กตั้งแต่คอร์ i3, i5กำลังเป็นที่นิยม ในแง่ช่องทางการขาย เรามีดีลเลอร์ 600 รายทั่วประเทศ มีหน้าร้านอีกกว่าพันแห่ง รวมช่องทางออนไลน์อื่น ๆ คาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้จะเป็นไตรมาสที่มีการตื่นตัวทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและทูอินวัน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าในสิ้นปีภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กของเอเซอร์จะโตไม่ต่ำกว่า 15% มีส่วนแบ่งตลาดที่ 35% ขณะที่ภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กไทยน่าจะโต 10% ต้น ๆ"
_____________________________________________________
เอเซอร์ ดัน "ทูอินวัน" เร่งเกมบุก คาดเสริมตลาดโน้ตบุ๊กปีนี้โตขึ้น
ตลาดคอมพิวเตอร์พีซีอยู่ในโหมดทรง ๆ ทรุด ๆ มาหลายปี จากสารพัดปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความนิยมของสารพัดสมาร์ทดีไวซ์ที่มาแย่งกำลังซื้อหรือสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งปัจจัยหลังโดนกันถ้วนหน้า แต่ในภาพรวมหลังเติบโตถดถอยมาหลายปี ท่ามกลางกำลังซื้อในบ้านเราที่ยังไม่ดีขึ้น ผู้สันทัดกรณีในแวดวงไอทีกลับมองว่ายอดขายในตลาดรวมปีนี้น่าจะผงกหัวขึ้น เพราะจุดต่ำสุดได้ผ่านไปแล้ว
"นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ได้หยิบยกผลสำรวจตลาดของบริษัทวิจัยเจเอฟเคมาอ้างถึงว่า ตลาดรวมโน้ตบุ๊กในครึ่งปีแรกเติบโตประมาณ 7% หรือมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 3.3 แสนเครื่อง และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นอีก ซึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การเติบโตของโน้ตบุ๊กประเภท "ทูอินวัน" หรือประเภทที่ถอดหน้าจอเป็นแท็บเลตได้ โดยในครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 46% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับ "เอเซอร์" ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 12-15% ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และเชื่อว่าตลาดโน้ตบุ๊กยังเติบโตได้อีก โดยเฉพาะเครื่องสเป็กสูงสำหรับเล่นเกม และประเภท "ทูอินวัน"
"ตลาดรวมปีนี้น่าจะโตได้จากปัจจัยต่าง ๆทั้งการเข้ามาของวินโดวส์ 10 และการมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากขึ้น จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าจะได้รับความนิยมคือกลุ่มโน้ตบุ๊กระดับราคาหมื่นต้น สเป็กตั้งแต่คอร์ i3, i5กำลังเป็นที่นิยม ในแง่ช่องทางการขาย เรามีดีลเลอร์ 600 รายทั่วประเทศ มีหน้าร้านอีกกว่าพันแห่ง รวมช่องทางออนไลน์อื่น ๆ คาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้จะเป็นไตรมาสที่มีการตื่นตัวทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและทูอินวัน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าในสิ้นปีภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กของเอเซอร์จะโตไม่ต่ำกว่า 15% มีส่วนแบ่งตลาดที่ 35% ขณะที่ภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กไทยน่าจะโต 10% ต้น ๆ"
ล่าสุดเปิดตัวโน้ตบุ๊กในตระกูล Aspire E Series และทูอินวัน Switch Series 2 in 1ที่ใช้งานได้ทั้งในโหมดของโน้ตบุ๊กและแท็บเลต มี 4 รุ่น ได้แก่ Acer Switch 11V, Switch 10 White Pearl (Limited Edition), Switch 10E และ Acer One ราคาเริ่มต้น 9,900-25,900 บาท เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นในทุกกลุ่มราคา
ฝั่ง "สนธิยา หนูจีนเส้ง" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ปัจจุบันความนิยมการใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่ได้หายไปไหน แต่อาจเปลี่ยนรูปแบบไป โดยอินเทลและเอเซอร์เห็นตรงกันว่า ผลิตภัณฑ์ประเภททูอินวันจะทำตลาดได้ดียิ่งขึ้นในปีนี้ และอินเทลจะทำหน้าที่เป็นหลังบ้านในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์
โดยส่วนตัวมองว่ากำลังซื้อในภาพรวมของคนไทยยังมีอยู่ แต่จะหาผลิตภัณฑ์ที่มาตอบสนองกำลังซื้อ รวมถึงมีรอบของการเปลี่ยนโน้ตบุ๊กใหม่ของกลุ่มผู้บริโภคที่ซื้อมาแล้ว 3-4 ปี การกระตุ้นตลาดของดีลเลอร์ เชื่อว่าจะทำให้ตลาดโน้ตบุ๊กในปีนี้โตขึ้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1439441379
ไม่มีความคิดเห็น: