Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 กันยายน 2558 กสทช. ชี้ วันที่ 30 กันยายน 2558 ซึ่งผู้ประกอบการสามารถส่งเอสเอ็มเอสเพื่อแจ้งระงับการส่งสัญญาณให้บริการได้การดำเนินการแจ้งยกเลิกไม่ใช่การขยายระยะเวลาในการลงทะเบียน แต่เป็นการดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

ประเด็นหลัก





นายฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.จะมีคำสั่งบังคับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) ให้ระงับการให้บริการหมายเลขโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน (พรีเพด) ที่ยังไม่ลงทะเบียนทั้งหมด โดยหลังจากผู้ประกอบการได้รับหนังสือจาก กสทช.ให้ผู้ให้บริการแจ้งยกเลิกการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการทุกรายที่ไม่ได้ลงทะเบียน โดยต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน แต่การยกเลิกการให้บริการจะต้องไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2558 ซึ่งผู้ประกอบการสามารถส่งเอสเอ็มเอสเพื่อแจ้งระงับการส่งสัญญาณให้บริการได้การดำเนินการแจ้งยกเลิกไม่ใช่การขยายระยะเวลาในการลงทะเบียน แต่เป็นการดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด โดยเมื่อผู้ให้บริการได้ดำเนินการแล้วให้ผู้ให้บริการรายงานผลการดำเนินการมายัง กสทช.ภายใน 5 วัน เพื่อให้ กสทช.แจ้งต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทราบต่อไป หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น เช่น การนำซิมไปก่อการร้าย หรือจุดระเบิด กสทช.จะกำหนดโทษค่าปรับตามประกาศของ กสทช.ซึ่งจะกำหนดจากรายได้ของผู้ประกอบการที่เกิดขึ้น





___________________________________







 กสทช.สั่งค่ายมือถือดับซิมเติมเงินไม่ลงทะเบียนภายใน 30 ก.ย.



กสทช.แจ้งโอเปอเรเตอร์ดับซิมผู้ไม่ลงทะเบียนกว่า 10 ล้านเบอร์ เปิดทางแจ้งผู้ใช้ผ่านเอสเอ็มเอส 30 วันล่วงหน้า แต่การยกเลิกการให้บริการจะต้องไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2558 หากพบเบอร์ไม่ลงทะเบียนกระทำความผิด โอเปอเรเตอร์ต้องถูกลงโทษ
นายฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.จะมีคำสั่งบังคับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) ให้ระงับการให้บริการหมายเลขโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน (พรีเพด) ที่ยังไม่ลงทะเบียนทั้งหมด โดยหลังจากผู้ประกอบการได้รับหนังสือจาก กสทช.ให้ผู้ให้บริการแจ้งยกเลิกการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการทุกรายที่ไม่ได้ลงทะเบียน โดยต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน แต่การยกเลิกการให้บริการจะต้องไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2558 ซึ่งผู้ประกอบการสามารถส่งเอสเอ็มเอสเพื่อแจ้งระงับการส่งสัญญาณให้บริการได้การดำเนินการแจ้งยกเลิกไม่ใช่การขยายระยะเวลาในการลงทะเบียน แต่เป็นการดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด โดยเมื่อผู้ให้บริการได้ดำเนินการแล้วให้ผู้ให้บริการรายงานผลการดำเนินการมายัง กสทช.ภายใน 5 วัน เพื่อให้ กสทช.แจ้งต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทราบต่อไป หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น เช่น การนำซิมไปก่อการร้าย หรือจุดระเบิด กสทช.จะกำหนดโทษค่าปรับตามประกาศของ กสทช.ซึ่งจะกำหนดจากรายได้ของผู้ประกอบการที่เกิดขึ้น
โดยคิดการคำนวณเป็น 3 กรณี คือ 1.กรณีขัดต่อคำสั่งของ กสทช.คิด 0.1% ของรายได้ปีที่แล้ว 2.กรณีทำให้กระทบต่อการแข่งขันทางธุรกิจ คิด 0.5% ของรายได้ปีที่แล้ว และ 3.กรณีกระทบต่อประโยชน์สาธารณะคิด 0.3% ของรายได้ปีที่แล้ว ทั้งนี้ ถือว่าการกำหนดค่าปรับดังกล่าวเป็นอัตราที่ไม่ธรรมดาเพราะคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ และหากมีการนำซิมไปทำเกิดความเสียหายด้านอื่นก็จะมีการลงโทษต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มียอดซิมที่ลงทะเบียนแล้ว 71 ล้านเลขหมาย และมียอดซิมยังไม่ลงทะเบียนประมาณ 10 กว่าล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้มีการใช้งานประจำ 3.6 ล้านเลขหมาย ใช้งานน้อย 10.8 ล้านเลขหมาย ในส่วนนี้ กสทช.จะโฟกัสผู้ใช้งานประจำ 3.6 ล้านเลขหมาย โดยหวังว่าในช่วงสุดท้ายจะมีผู้มาลงทะเบียน
สำหรับกรณีทีวีดิจิตอล 5 ช่อง ฟ้องศาลปกครองกรณี กสทช.ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศระบบดิจิตอลมีความล่าช้าว่า กสทช.ขอยืนยันว่าการดำเนินการของ กสทช.ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย เมื่อผู้ให้บริการเห็นว่า กสทช.ไม่ได้ดำเนินการตามที่ประกาศไว้ย่อมสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ กสทช.ไม่ขอตำหนิใคร โดยถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ผู้ประกอบการจะดำเนินการได้ กสทช.คงต้องชี้แจงไปตามเหตุผล และหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปว่าเหตุใดได้ดำเนินการไปเช่นนั้น โดยทั้งสองฝ่ายมีเหตุและผลของตนเอง คนกลางที่จะตัดสินคงต้องเป็นศาลที่จะพิจารณา กสทช.ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ แต่เมื่อทำเต็มที่แล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องชี้แจงต่อศาล เพราะ กสทช.ทำตามกรอบอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
“ทั้งนี้ ยังไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไรมากไปกว่านี้ ผู้ประกอบการก็มีเหตุผล กสทช.ก็มีเหตุผล สุดท้ายแล้วขึ้นกับดุลพินิจของศาล สำนักงานฯ ได้พยายามทุ่มเททำงานให้ทีวีทุกช่อง แต่บางครั้งอำนาจตามกฎหมายของเราไม่สามารถไปถึง เช่น เรื่องเยียวยา ขณะนี้ กสทช.ไม่ได้มีเงินอะไรเลย เงินที่ประมูลถูกส่งเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด ส่วนเรื่องการเลื่อนจ่ายค่าประมูลเราก็อยากช่วยแต่เมื่อตรวจสอบทางกฎหมายแล้วก็พบว่าทำไม่ได้”


http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000096410&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+26-8-58&utm_campaign=20150825_m127092407_Manager+Morning+Brief+26-8-58&utm_term=_E0_B8_81_E0_B8_AA_E0_B8_97_E0_B8_8A__E0_B8_AA_E0_B8_B1_E0_B9_88_E0_B8_87_E0_B8_84_E0_B9_88_E0_B8_B2_E0_B8_A2_E0_B8_A1_E0_B8_B7_E0_B8_AD_E0_B8_96_E0_B8_B7_E0_B8_AD_E0_B8_94_E0_B8_B1_E0_B8_9A_E0_B8_8B_E0_B8_B4_E0_B8_A1_E0_B9_80_E0_B8_95_E0_B8_B4_E0_B8_A1_E

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.