13 กันยายน 2558 อุตตม สาวนายน ระบุ การนำแนวความคิดเหล่านั้น และที่จะช่วยกันคิดใหม่ออกมาเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้เป็นที่ประจักษ์ของสาธารณชน ของเอกชน นักลงทุนต่างประเทศว่ามีของจริง
ประเด็นหลัก
นโยบายคือเดินหน้า แต่ประเด็นคือจะเดินอย่างไร วิธีการขับเคลื่อน เป้าหมาย
ปีที่แล้วเป็นห้วงของการวางรากฐาน มีการยกร่างกฎหมายที่จำเป็นออกมาราว 8 ฉบับ บางฉบับอยู่ในขั้นตอน สนช.แล้ว บางฉบับอยู่ในขั้นตอนของ ครม.
ปีนี้ที่ต้องทำคือ การนำแนวความคิดเหล่านั้น และที่จะช่วยกันคิดใหม่ออกมาเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้เป็นที่ประจักษ์ของสาธารณชน ของเอกชน นักลงทุนต่างประเทศว่ามีของจริงเริ่มเกิดแล้วนะ เป็นสิ่งบ่งชี้ทิศทางให้ว่า ถ้าภาครัฐเดินอย่างนี้เขาจะลงทุนอย่างไร
______________________________________________
รมว.ป้ายแดง กดปุ่ม "ไอซีที" ครีเอตโปรเจ็กต์ "จับต้องได้-สร้างอิมแพ็กต์"
สัมภาษณ์
ที่สุดแล้วกระทรวงไอซีทีก็เปลี่ยนตัวเจ้ากระทรวง มีรัฐมนตรีใหม่คนที่ 12 "อุตตม สาวนายน" หลังก่อตั้งมาจะครบ 13 ปี เดือน ต.ค.นี้ ทั้งเป็นรอยต่อสำคัญก่อนเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็น "กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" อันเป็นฟันเฟืองสำคัญของนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีภารกิจเร่งพลิกฟื้นหน่วยงานใต้สังกัด"ทีโอที"และ"กสท โทรคมนาคม" รวมถึงสะสางสารพัดปัญหาทั้งปมสัมปทาน และอื่น ๆ กรณีล่าสุดยื้อคืนคลื่น ซึ่งอาจกระทบกับการเปิดประมูลที่กำลังจะมาถึงด้วย
รัฐมนตรีไอซีทีคนที่ 12 จะมีนโยบายอย่างไรต่อเรื่องต่าง ๆ มีคำตอบอยู่ในบรรทัดถัดจากนี้
- จะยังคงเดินหน้านโยบายดิจิทัลอีโคโนมี
นโยบายคือเดินหน้า แต่ประเด็นคือจะเดินอย่างไร วิธีการขับเคลื่อน เป้าหมาย
ปีที่แล้วเป็นห้วงของการวางรากฐาน มีการยกร่างกฎหมายที่จำเป็นออกมาราว 8 ฉบับ บางฉบับอยู่ในขั้นตอน สนช.แล้ว บางฉบับอยู่ในขั้นตอนของ ครม.
ปีนี้ที่ต้องทำคือ การนำแนวความคิดเหล่านั้น และที่จะช่วยกันคิดใหม่ออกมาเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้เป็นที่ประจักษ์ของสาธารณชน ของเอกชน นักลงทุนต่างประเทศว่ามีของจริงเริ่มเกิดแล้วนะ เป็นสิ่งบ่งชี้ทิศทางให้ว่า ถ้าภาครัฐเดินอย่างนี้เขาจะลงทุนอย่างไร
เพราะสุดท้ายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือ การลงทุน การขยายงานของภาคเอกชน
จึงได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานทำโครงการที่จับต้องได้ ไม่ได้เน้นที่ปริมาณ เน้นที่คุณภาพ มีอิมแพ็กต์กับคนในหมู่มาก
- เดิมหม่อมอุ๋ยเป็นคนผลักดัน DE
ก็ยังเดินหน้าต่อ เพราะ DE ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศไว้แล้ว เชื่อว่าท่านรองนายกฯ (ดร.สมคิด) ก็คิดแบบนั้น
ส่วนแผนใหญ่ยังมีอยู่ ก็จะทบทวนในส่วนที่จำเป็นก่อนจะเดินหน้าต่อ เวลาเปลี่ยนก็ต้องปรับสาระสำคัญบางอย่างเพื่อความเหมาะสม เพราะเป้าปีนี้ต้องเห็นผลงานเป็นรูปธรรม ส่วนกรอบเวลาจะอย่างไรต้องลองดูอีกที แต่ไม่ช้าอยู่แล้ว การจัดทำร่างแผนเพื่อเป็นโรดแมปของเศรษฐกิจดิจิทัลที่ได้เริ่มแล้ว จะผลักดันให้เสร็จในปีนี้ ให้มีทิศทางและของจริงให้เห็น
- กรรมการเดิมที่เป็นทีมหม่อมอุ๋ย
ขอทบทวนก่อน คือยังไม่ทราบว่าใครอยู่ในตำแหน่งไหน แต่การทบทวนคือเพื่อจัดสรรกำลังคนให้เหมาะสมกับเป้าหมายและพันธกิจ ไม่ใช่ตัดออก ซึ่งเป็นการทบทวนในระดับคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ใต้ ครม. DE
- ทำงานร่วมกันได้ ?
ผมไม่มีปัญหา ผมชัดเจนว่ามาเพื่อขับเคลื่อนงานของกระทรวง ไม่ได้มาเรื่องคนและผมก็ไม่ทราบว่าจะมีใครลาออกหรือไม่
- จะชัดเจนได้เมื่อไหร่
เมื่อต้องการให้มีผลงานเป็นรูปธรรมในปีนี้ จะต้องเริ่มเลยในเดือนนี้
ส่วนโครงการของกระทรวง 1 เดือนต้องได้ที่เริ่มเดินได้เลย และหารือกับเอกชนด้วยว่าเห็นด้วยหรือไม่ ไม่ใช่มานั่งเทียนเขียนเอง ก็ให้มีโครงการที่สร้างอิมแพ็กต์แรง ๆอย่างน้อยหน่วยงานละ 1-2 โครงการ ให้ประชาชนสัมผัสได้ว่าเริ่มแล้วนะ
- ปัญหาทีโอที-แคท การพลิกฟื้น
ย้ำกับผู้บริหารแล้วว่า แผนฟื้นฟูต้องชัดตอนนี้ก็ชัดในระดับหนึ่ง ขอให้ชัดขึ้นอีก รวมถึงประเด็นกับเอกชนให้คนได้เห็นว่าปัญหาที่ค้างคามันจบด้วยดี เพราะจะโยงไปที่แผนพื้นฟูจะคืบได้เมื่อข้อพิพาทยุติ และกระทบไปถึงภาพกว้างของสังคมด้วย
- หลายปัญหายืดเยื้อมานาน
1 เดือนไม่ใช่ได้ข้อยุติ แต่หมายถึงมีแนวทางชัดเจนว่าจะแก้ไปในทางไหน ถือเป็นความท้าทาย ซึ่งตั้งใจจะทำให้ได้
- ทีโอที-แคทควรเข้าประมูล 4G
ยังไม่ได้พูดกันในเรื่องนี้ ต้องขอดูให้ชัดเจนและรอบคอบก่อน ต้องเร่งให้ทันก่อนเปิดยื่นซองประมูล (30 ก.ย.)
- รัฐวิสาหกิจขอใช้คลื่นต่อกระทบประมูล 4G
ให้ทีโอที-แคทไปทำการบ้านมาแล้ว ก็คงจะมีข้อยุติเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องคิดในหลายมุม ทั้งเรื่องคลื่น เรื่อง กสทช. เรื่องเชิงนโยบาย ต้องดูในรายละเอียดที่มีความต่อเนื่อง ประมาณเดือนหนึ่งน่าจะได้คำตอบ
- จะรื้อแก้สัมปทานตามคำพิพากษาศาลฎีกาปี′49
ยังต้องดูรายละเอียดก่อน ตรงนี้จะให้ชัดเจนเร็วที่สุด
- นโยบายไอซีที ประมูล 4G จะชะลอ จะเลื่อน ?
การจัดประมูล 4G ยังเป็นหน้าที่ของ กสทช.
- มติตั้งบริษัทร่วมทุนหรือการหาพาร์ตเนอร์ของทีโอที-แคทต้องทบทวน ?
ทั้งสองแห่งแจ้งว่าคืบหน้าในระดับหนึ่งแล้วโดยเฉพาะของแคท ก็ต้องคุยในรายละเอียดกับเขาอีกทีก่อน ถ้าอะไรที่สมควรเดินได้ก็เดินหน้าต่อ คือต้องดูว่าเรื่องไหนเป็นอำนาจฝ่ายจัดการของเขา เรื่องไหนที่ขึ้นมาถึงบอร์ด เขาก็มีสิทธิ์จะพิจารณาได้
- ปกติเปลี่ยน รมต. บอร์ดต้องลาออก
ยังไม่ได้คิดจะปรับบอร์ดอะไร คิดว่ามาช่วยเข็นงานให้ออกมาก่อนดีกว่า ยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
- เปลี่ยนชื่อกระทรวง ?
อยู่ในขั้นตอนไปแล้ว ต้องเดินหน้าต่อไปนายกฯไปคุยกับนักธุรกิจที่ญี่ปุ่นแล้วว่าจะเปลี่ยนชื่อกระทรวง กฎหมาย 8 ฉบับก็ยังอยู่ในขั้นตอน เดี๋ยวจะเข้าไปดูในเนื้อหาสาระ ถ้าส่วนไหนต้องปรับเปลี่ยน เพราะกระทรวงมีหน้าที่ต้องสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้นการจัดโครงสร้างต้องให้สอดคล้องกับภารกิจนี้
- การจัดการเว็บหมิ่น เว็บกระทบความมั่นคง
จะดำเนินการด้วยความรอบคอบและรัดกุมตามกฎหมาย จะประสานกับหน่วยงานความมั่นคงทุกแห่ง ทางนายกฯและรัฐบาลให้ความสำคัญมาก ไอซีทีได้โจทย์มาว่า ให้ดูแลการกระทำที่ขัดกับกฎหมายของไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตามในเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง
ส่วน พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ต้องขอเวลาทบทวน ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา
- การส่งเสริมการใช้ไอซีที
จะเน้นกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs คือระดับกลางถึงเล็ก ที่จะใช้ประโยชน์ด้านดิจิทัลได้อย่างมหาศาล และส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ สตาร์ตอัพ อย่าง SMEs ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้ตั้งแต่หน้าร้านขายของ จนถึงระบบออฟฟิศที่จะบริหารจัดการต้นทุนธุรกิจ เช่น อีเพย์เมนต์ ถ้ามีระบบระดับชาติที่เชื่อมโยงกับธนาคารได้ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จะน่าจะลดต้นทุนให้ SMEs ได้ หรือการทำบัญชี ถ้าเรามีแพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่ SMEs แชร์ใช้ระหว่างกันได้ ก็ลดต้นทุนได้ ไอซีทีจะช่วยริเริ่ม ช่วยประสานให้เกิดขึ้นได้
การขยายเน็ตเวิร์กของประเทศเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้พื้นที่รอบนอกเข้าถึงไอซีทีได้อย่างการให้โรงเรียนรอบนอกเข้าถึงโครงข่ายออนไลน์ได้ ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มทำไปแล้ว แต่จะดูว่าจะทำในรูปแบบไหนต่อเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้านงบประมาณ และระบบมีเสถียรภาพ
- หนักใจกับตำแหน่ง ???
ไม่หนักใจ เพราะตั้งใจแล้วที่จะมาทำงาน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1441004642
นโยบายคือเดินหน้า แต่ประเด็นคือจะเดินอย่างไร วิธีการขับเคลื่อน เป้าหมาย
ปีที่แล้วเป็นห้วงของการวางรากฐาน มีการยกร่างกฎหมายที่จำเป็นออกมาราว 8 ฉบับ บางฉบับอยู่ในขั้นตอน สนช.แล้ว บางฉบับอยู่ในขั้นตอนของ ครม.
ปีนี้ที่ต้องทำคือ การนำแนวความคิดเหล่านั้น และที่จะช่วยกันคิดใหม่ออกมาเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้เป็นที่ประจักษ์ของสาธารณชน ของเอกชน นักลงทุนต่างประเทศว่ามีของจริงเริ่มเกิดแล้วนะ เป็นสิ่งบ่งชี้ทิศทางให้ว่า ถ้าภาครัฐเดินอย่างนี้เขาจะลงทุนอย่างไร
______________________________________________
รมว.ป้ายแดง กดปุ่ม "ไอซีที" ครีเอตโปรเจ็กต์ "จับต้องได้-สร้างอิมแพ็กต์"
สัมภาษณ์
ที่สุดแล้วกระทรวงไอซีทีก็เปลี่ยนตัวเจ้ากระทรวง มีรัฐมนตรีใหม่คนที่ 12 "อุตตม สาวนายน" หลังก่อตั้งมาจะครบ 13 ปี เดือน ต.ค.นี้ ทั้งเป็นรอยต่อสำคัญก่อนเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็น "กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" อันเป็นฟันเฟืองสำคัญของนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีภารกิจเร่งพลิกฟื้นหน่วยงานใต้สังกัด"ทีโอที"และ"กสท โทรคมนาคม" รวมถึงสะสางสารพัดปัญหาทั้งปมสัมปทาน และอื่น ๆ กรณีล่าสุดยื้อคืนคลื่น ซึ่งอาจกระทบกับการเปิดประมูลที่กำลังจะมาถึงด้วย
รัฐมนตรีไอซีทีคนที่ 12 จะมีนโยบายอย่างไรต่อเรื่องต่าง ๆ มีคำตอบอยู่ในบรรทัดถัดจากนี้
- จะยังคงเดินหน้านโยบายดิจิทัลอีโคโนมี
นโยบายคือเดินหน้า แต่ประเด็นคือจะเดินอย่างไร วิธีการขับเคลื่อน เป้าหมาย
ปีที่แล้วเป็นห้วงของการวางรากฐาน มีการยกร่างกฎหมายที่จำเป็นออกมาราว 8 ฉบับ บางฉบับอยู่ในขั้นตอน สนช.แล้ว บางฉบับอยู่ในขั้นตอนของ ครม.
ปีนี้ที่ต้องทำคือ การนำแนวความคิดเหล่านั้น และที่จะช่วยกันคิดใหม่ออกมาเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้เป็นที่ประจักษ์ของสาธารณชน ของเอกชน นักลงทุนต่างประเทศว่ามีของจริงเริ่มเกิดแล้วนะ เป็นสิ่งบ่งชี้ทิศทางให้ว่า ถ้าภาครัฐเดินอย่างนี้เขาจะลงทุนอย่างไร
เพราะสุดท้ายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือ การลงทุน การขยายงานของภาคเอกชน
จึงได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานทำโครงการที่จับต้องได้ ไม่ได้เน้นที่ปริมาณ เน้นที่คุณภาพ มีอิมแพ็กต์กับคนในหมู่มาก
- เดิมหม่อมอุ๋ยเป็นคนผลักดัน DE
ก็ยังเดินหน้าต่อ เพราะ DE ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศไว้แล้ว เชื่อว่าท่านรองนายกฯ (ดร.สมคิด) ก็คิดแบบนั้น
ส่วนแผนใหญ่ยังมีอยู่ ก็จะทบทวนในส่วนที่จำเป็นก่อนจะเดินหน้าต่อ เวลาเปลี่ยนก็ต้องปรับสาระสำคัญบางอย่างเพื่อความเหมาะสม เพราะเป้าปีนี้ต้องเห็นผลงานเป็นรูปธรรม ส่วนกรอบเวลาจะอย่างไรต้องลองดูอีกที แต่ไม่ช้าอยู่แล้ว การจัดทำร่างแผนเพื่อเป็นโรดแมปของเศรษฐกิจดิจิทัลที่ได้เริ่มแล้ว จะผลักดันให้เสร็จในปีนี้ ให้มีทิศทางและของจริงให้เห็น
- กรรมการเดิมที่เป็นทีมหม่อมอุ๋ย
ขอทบทวนก่อน คือยังไม่ทราบว่าใครอยู่ในตำแหน่งไหน แต่การทบทวนคือเพื่อจัดสรรกำลังคนให้เหมาะสมกับเป้าหมายและพันธกิจ ไม่ใช่ตัดออก ซึ่งเป็นการทบทวนในระดับคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ใต้ ครม. DE
- ทำงานร่วมกันได้ ?
ผมไม่มีปัญหา ผมชัดเจนว่ามาเพื่อขับเคลื่อนงานของกระทรวง ไม่ได้มาเรื่องคนและผมก็ไม่ทราบว่าจะมีใครลาออกหรือไม่
- จะชัดเจนได้เมื่อไหร่
เมื่อต้องการให้มีผลงานเป็นรูปธรรมในปีนี้ จะต้องเริ่มเลยในเดือนนี้
ส่วนโครงการของกระทรวง 1 เดือนต้องได้ที่เริ่มเดินได้เลย และหารือกับเอกชนด้วยว่าเห็นด้วยหรือไม่ ไม่ใช่มานั่งเทียนเขียนเอง ก็ให้มีโครงการที่สร้างอิมแพ็กต์แรง ๆอย่างน้อยหน่วยงานละ 1-2 โครงการ ให้ประชาชนสัมผัสได้ว่าเริ่มแล้วนะ
- ปัญหาทีโอที-แคท การพลิกฟื้น
ย้ำกับผู้บริหารแล้วว่า แผนฟื้นฟูต้องชัดตอนนี้ก็ชัดในระดับหนึ่ง ขอให้ชัดขึ้นอีก รวมถึงประเด็นกับเอกชนให้คนได้เห็นว่าปัญหาที่ค้างคามันจบด้วยดี เพราะจะโยงไปที่แผนพื้นฟูจะคืบได้เมื่อข้อพิพาทยุติ และกระทบไปถึงภาพกว้างของสังคมด้วย
- หลายปัญหายืดเยื้อมานาน
1 เดือนไม่ใช่ได้ข้อยุติ แต่หมายถึงมีแนวทางชัดเจนว่าจะแก้ไปในทางไหน ถือเป็นความท้าทาย ซึ่งตั้งใจจะทำให้ได้
- ทีโอที-แคทควรเข้าประมูล 4G
ยังไม่ได้พูดกันในเรื่องนี้ ต้องขอดูให้ชัดเจนและรอบคอบก่อน ต้องเร่งให้ทันก่อนเปิดยื่นซองประมูล (30 ก.ย.)
- รัฐวิสาหกิจขอใช้คลื่นต่อกระทบประมูล 4G
ให้ทีโอที-แคทไปทำการบ้านมาแล้ว ก็คงจะมีข้อยุติเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องคิดในหลายมุม ทั้งเรื่องคลื่น เรื่อง กสทช. เรื่องเชิงนโยบาย ต้องดูในรายละเอียดที่มีความต่อเนื่อง ประมาณเดือนหนึ่งน่าจะได้คำตอบ
- จะรื้อแก้สัมปทานตามคำพิพากษาศาลฎีกาปี′49
ยังต้องดูรายละเอียดก่อน ตรงนี้จะให้ชัดเจนเร็วที่สุด
- นโยบายไอซีที ประมูล 4G จะชะลอ จะเลื่อน ?
การจัดประมูล 4G ยังเป็นหน้าที่ของ กสทช.
- มติตั้งบริษัทร่วมทุนหรือการหาพาร์ตเนอร์ของทีโอที-แคทต้องทบทวน ?
ทั้งสองแห่งแจ้งว่าคืบหน้าในระดับหนึ่งแล้วโดยเฉพาะของแคท ก็ต้องคุยในรายละเอียดกับเขาอีกทีก่อน ถ้าอะไรที่สมควรเดินได้ก็เดินหน้าต่อ คือต้องดูว่าเรื่องไหนเป็นอำนาจฝ่ายจัดการของเขา เรื่องไหนที่ขึ้นมาถึงบอร์ด เขาก็มีสิทธิ์จะพิจารณาได้
- ปกติเปลี่ยน รมต. บอร์ดต้องลาออก
ยังไม่ได้คิดจะปรับบอร์ดอะไร คิดว่ามาช่วยเข็นงานให้ออกมาก่อนดีกว่า ยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
- เปลี่ยนชื่อกระทรวง ?
อยู่ในขั้นตอนไปแล้ว ต้องเดินหน้าต่อไปนายกฯไปคุยกับนักธุรกิจที่ญี่ปุ่นแล้วว่าจะเปลี่ยนชื่อกระทรวง กฎหมาย 8 ฉบับก็ยังอยู่ในขั้นตอน เดี๋ยวจะเข้าไปดูในเนื้อหาสาระ ถ้าส่วนไหนต้องปรับเปลี่ยน เพราะกระทรวงมีหน้าที่ต้องสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้นการจัดโครงสร้างต้องให้สอดคล้องกับภารกิจนี้
- การจัดการเว็บหมิ่น เว็บกระทบความมั่นคง
จะดำเนินการด้วยความรอบคอบและรัดกุมตามกฎหมาย จะประสานกับหน่วยงานความมั่นคงทุกแห่ง ทางนายกฯและรัฐบาลให้ความสำคัญมาก ไอซีทีได้โจทย์มาว่า ให้ดูแลการกระทำที่ขัดกับกฎหมายของไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตามในเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง
ส่วน พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ต้องขอเวลาทบทวน ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา
- การส่งเสริมการใช้ไอซีที
จะเน้นกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs คือระดับกลางถึงเล็ก ที่จะใช้ประโยชน์ด้านดิจิทัลได้อย่างมหาศาล และส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ สตาร์ตอัพ อย่าง SMEs ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้ตั้งแต่หน้าร้านขายของ จนถึงระบบออฟฟิศที่จะบริหารจัดการต้นทุนธุรกิจ เช่น อีเพย์เมนต์ ถ้ามีระบบระดับชาติที่เชื่อมโยงกับธนาคารได้ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จะน่าจะลดต้นทุนให้ SMEs ได้ หรือการทำบัญชี ถ้าเรามีแพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่ SMEs แชร์ใช้ระหว่างกันได้ ก็ลดต้นทุนได้ ไอซีทีจะช่วยริเริ่ม ช่วยประสานให้เกิดขึ้นได้
การขยายเน็ตเวิร์กของประเทศเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้พื้นที่รอบนอกเข้าถึงไอซีทีได้อย่างการให้โรงเรียนรอบนอกเข้าถึงโครงข่ายออนไลน์ได้ ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มทำไปแล้ว แต่จะดูว่าจะทำในรูปแบบไหนต่อเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้านงบประมาณ และระบบมีเสถียรภาพ
- หนักใจกับตำแหน่ง ???
ไม่หนักใจ เพราะตั้งใจแล้วที่จะมาทำงาน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1441004642
ไม่มีความคิดเห็น: