11 ตุลาคม 2558 จ้าพ่อซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังเปิดตัวอุปกรณ์แสดงภาพโฮโลแกรมแบบสวมใส่ได้ตระกูล “โฮโลเลนส์ (HoloLens)” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปีหน้า สนนราคา 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 96,000 บาท
ประเด็นหลัก
มาแล้วกองทัพสินค้าระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows 10 จากไมโครซอฟท์ แม่ทัพใหญ่ คือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่สามารถพับตลบหลังเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตอย่าง Surface Book ร่วมด้วยแท็บเล็ตรุ่นใหม่จอใหญ่ขึ้นแต่ตัวเครื่องเล็กกว่าเดิม Surface Pro 4 ยังมีนาฬิกาไฮเทค Band 2 ที่ถูกปรับโฉมด้วยหน้าจอโค้ง พร้อมด้วย Surface Pen ปากกาอัจฉริยะเพื่อคนทำงาน แถมด้วยสมาร์ทโฟน Lumia 950, Lumia 950XL และ Lumia 550
นอกจากนี้ เจ้าพ่อซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังเปิดตัวอุปกรณ์แสดงภาพโฮโลแกรมแบบสวมใส่ได้ตระกูล “โฮโลเลนส์ (HoloLens)” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปีหน้า สนนราคา 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 96,000 บาท
_____________________________________________
รวมฮิตทุกอุปกรณ์ Windows 10 ที่ Microsoft เปิดตัวในอีเวนต์ล่าสุด
มาแล้วกองทัพสินค้าระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows 10 จากไมโครซอฟท์ แม่ทัพใหญ่ คือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่สามารถพับตลบหลังเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตอย่าง Surface Book ร่วมด้วยแท็บเล็ตรุ่นใหม่จอใหญ่ขึ้นแต่ตัวเครื่องเล็กกว่าเดิม Surface Pro 4 ยังมีนาฬิกาไฮเทค Band 2 ที่ถูกปรับโฉมด้วยหน้าจอโค้ง พร้อมด้วย Surface Pen ปากกาอัจฉริยะเพื่อคนทำงาน แถมด้วยสมาร์ทโฟน Lumia 950, Lumia 950XL และ Lumia 550
นอกจากนี้ เจ้าพ่อซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังเปิดตัวอุปกรณ์แสดงภาพโฮโลแกรมแบบสวมใส่ได้ตระกูล “โฮโลเลนส์ (HoloLens)” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปีหน้า สนนราคา 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 96,000 บาท
คลอด Surface Pro 4 ควบ Surface Book
แท็บเล็ตใหม่ตระกูลเซอร์เฟซโปร Surface Pro 4 มีหน้าจอใหญ่กว่า แต่ตัวเครื่องเล็กลงกว่ารุ่นเดิม ดีเดย์สั่งจอง คือ 26 ตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับ Surface Book คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กซึ่งสามารถพับเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตที่จะวางขายในราคา 1,499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 48,000 บาท
Surface Pro 4 ถูกออกแบบให้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 12.3 นิ้ว แต่เป็นการเพิ่มขนาดที่เกิดขึ้นบนการลดเนื้อที่ขอบเครื่อง ทำให้รุ่น 4 มีขนาดเครื่องที่บางกว่า Surface Pro 3 ซึ่งมีหน้าจอขนาด 12 นิ้ว ข้อมูลความละเอียดหน้าจอคือ 2,736x1,824 พิกเซล ความหนาแน่นในการแสดงผล 267 พิกเซลต่อนิ้ว
Surface Pro 4 มาพร้อมชิปของอินเทล (Intel) ชิปนี้ มีชื่อรหัสว่า “สกายเลก (Skylake)” เทคโนโลยีที่ใช้มีความเหนือกว่า “บรอดแวล์ (Broadwell)” ใน Surface Pro 3 ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ และการประหยัดพลังงาน
สำหรับ Surface Pro 4 ไมโครซอฟท์จัดเต็มให้ผู้ใช้อัปเกรดพื้นที่หน่วยความจำสูงสุดถึง 1 เทราไบต์ บนหน่วยความจำ RAM ขนาด 16GB ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์การันตีราคาเริ่มต้นที่ 899 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 29,000 บาท
ขณะที่ “เซอร์เฟซ บุ๊ก (Surface Book)” ถูกแจ้งเกิดในรูปคอมพิวเตอร์วางตักขนาดหน้าจอ 13.5 นิ้ว ความละเอียด 267 พิกเซลต่อนิ้ว ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีความสามารถเหนือกว่า Surface รุ่นปกติ สนนราคาเริ่มที่ 1,499 เหรียญสหรัฐ กำหนดการเปิดสั่งจองคือ 7 ตุลาคมนี้ ก่อนจะเริ่มจัดส่งจริง 26 ตุลาคม
Surface Book ถูกออกแบบมาให้สามารถพับหน้าจอโดยหักคีย์บอร์ดไปด้านหลัง เมื่อพับแล้ว Surface Book จะสามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสที่สามารถใช้งานได้ดีกับปากกาใหม่ล่าสุด “เซอร์เฟซ เพน (Surface Pen)”
ปากกาอัจฉริยะ Surface Pen
ไมโครซอฟท์ตั้งชื่อปากกาสไตลัสรุ่นใหม่ของตัวเองว่า Surface Pen จนถูกมองว่าเป็นการท้าชนกับสินค้าใหม่ของแอปเปิลอย่าง Apple Pencil เบื้องต้น Surface Pen ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ดีกับสินค้าตระกูล Surface โดยเฉพาะรุ่นใหม่ทั้ง Surface Book และ Surface Pro 4 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานครีเอทีฟ หรือใช้แอปพลิเคชันพิเศษได้ดีกว่านิ้วมือ
ความไวของ Surface Pen ถูกการันตีว่า สามารถตรวจจับความแรงในการกดได้มากกว่า 1,024 ระดับ ด้านบนของปากกามี “ยางลบ” ที่สามารถใช้ลบเส้นสายที่เพิ่งเขียนได้เหมือนดินสอ ตัวปากกามีแถบแม่เหล็กทำให้สามารถติดยึดกับเครื่อง Surface เพื่อการพกพาที่ง่ายขึ้น
ปากกาไฮเทคของไมโครซอฟท์มีให้เลือกใช้งาน 5 สี ได้แก่ สีเงิน ทอง แดง ฟ้า และดำ
สมาร์ทโฟนสุดประหยัด Lumia 550
ลูเมียรุ่นใหม่ Lumia 550 ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile ที่มีราคาสบายกระเป๋ามากที่สุดในขณะนี้ สนนราคาเบื้องต้นคือ 139 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,500 บาท กำหนดวางจำหน่ายคือเดือนธันวาคมนี้
ในขณะที่ Lumia 550 ยึดตำแหน่งแชมป์ราคาสุดประหยัด แต่เรือธงอย่าง Lumia 950 และ 950XL ขอจองตำแหน่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวเพื่อ Windows 10 Mobile อย่างเป็นทางการ โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้วและ 5.7 นิ้วตามลำดับ สนนราคาถูกแพงต่างกันตามขนาดเริ่มต้นที่ 549 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 18,000 บาท) และ 649 เหรียญสหรัฐ (ราว 21,000 บาท)
สมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 2 รุ่นจะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน บนรูปลักษณ์ที่มองคล้าย Lumia รุ่นพี่ แต่มีความสามารถมากกว่า
Lumia 950 มาพร้อมชิป Snapdragon 808 ความเร็ว 1.8 GHz ขณะที่ 950XL ใช้ชิป Snapdragon 810 ความเร็ว 2.0 GHz ทั้งคู่จะวางจำหน่ายพร้อมแอปพลิเคชันในเครือไมโครซอฟท์ ทั้งสไกป์ (Skype) สำหรับการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต, บริการผู้ช่วยส่วนตัวเอ่ยปากสั่งได้ “คอร์ทานา (Cortana), แอปพลิเคชันสร้างงานเอกสาร “ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ (Microsoft Office)” รวมถึงระบบคอนตินัม (Continuum) ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ด เมาส์ และหน้าจอได้แบบไร้สาย
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์ใช้กล้องดิจิตอล 20 ล้านพิกเซลเป็นกล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K ยังคงมาพร้อมเลนส์ “ไซส์ (Zeiss)” บนแฟลช LED จำนวน 3 ตัว ขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเพื่อชาวเซลฟี่
ความจุข้อมูลในสมาร์ทโฟนคือ 32GB สามารถเพิ่มได้เป็น 256GB ด้วยเมมโมรี่การ์ดเสริม หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB
Display Dock อุปกรณ์เสริมใหม่ Lumia
ดิสเพลย์ ด็อก (Display Dock) คือ อุปกรณ์เสริมที่จะทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Lumia สามารถใช้โทรศัพท์ในสไตล์คอมพิวเตอร์พีซี น่าเสียดายที่ไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผยราคา และกำหนดการจำหน่ายในขณะนี้
ตัว Display Dock มาพร้อมพอร์ต USB Type-C ทำให้ผู้ใช้สามารถนำไปเชื่อมต่อกับหน้าจอใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็จัดเต็มพอร์ต USB ดั้งเดิม 3 พอร์ต เพื่อให้ผู้ใช้ต่อพ่วงอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างเมาส์ หรือคีย์บอร์ด จุดนี้ทำให้แอปพลิเคชันที่รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile สามารถถูกเปิดใช้งานบนหน้าจอใหญ่ได้อย่างสะดวก
นาฬิกา Microsoft Band 2 จอโค้ง
“แบน ทู (Band 2)” คือ อุปกรณ์สวมใส่ได้รุ่นล่าสุด ที่ไมโครซอฟท์พัฒนามาเพื่อชาวฟิตเนส สนนราคาเริ่มที่ 249 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,000 บาท เริ่มจำหน่าย 30 ตุลาคมนี้ในหลายประเทศ
หน้าจอโค้งของ Band 2 ถูกจัดมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลรอบตัวมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงข้อมูลสุขภาพในร่างกาย แต่ยังมีระบบตรวจจับระดับรังสียูวีในแสงเดด ซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาให้ Band 2 มีความสามารถที่ต่างจากนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไปที่สามารถติดตามการนอนหลับ หรือการผลาญพลังงาน เช่นเดียวกับการแจ้งเตือนสายโทร.เข้า อีเมล และข้อความใหม่
สินค้าทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์เชื่อว่าจะทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 มีอิทธิพลมากขึ้นในตลาดโลก โดยปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ระบุว่า วินโดวส์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ถูกติดตั้งในอุปกรณ์มากกว่า 110 ล้านชิ้นแล้ว ถือเป็นสถิติใหม่สำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกเปิดตัวในเวลา 10 สัปดาห์
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000112449
มาแล้วกองทัพสินค้าระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows 10 จากไมโครซอฟท์ แม่ทัพใหญ่ คือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่สามารถพับตลบหลังเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตอย่าง Surface Book ร่วมด้วยแท็บเล็ตรุ่นใหม่จอใหญ่ขึ้นแต่ตัวเครื่องเล็กกว่าเดิม Surface Pro 4 ยังมีนาฬิกาไฮเทค Band 2 ที่ถูกปรับโฉมด้วยหน้าจอโค้ง พร้อมด้วย Surface Pen ปากกาอัจฉริยะเพื่อคนทำงาน แถมด้วยสมาร์ทโฟน Lumia 950, Lumia 950XL และ Lumia 550
นอกจากนี้ เจ้าพ่อซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังเปิดตัวอุปกรณ์แสดงภาพโฮโลแกรมแบบสวมใส่ได้ตระกูล “โฮโลเลนส์ (HoloLens)” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปีหน้า สนนราคา 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 96,000 บาท
_____________________________________________
รวมฮิตทุกอุปกรณ์ Windows 10 ที่ Microsoft เปิดตัวในอีเวนต์ล่าสุด
มาแล้วกองทัพสินค้าระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows 10 จากไมโครซอฟท์ แม่ทัพใหญ่ คือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่สามารถพับตลบหลังเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตอย่าง Surface Book ร่วมด้วยแท็บเล็ตรุ่นใหม่จอใหญ่ขึ้นแต่ตัวเครื่องเล็กกว่าเดิม Surface Pro 4 ยังมีนาฬิกาไฮเทค Band 2 ที่ถูกปรับโฉมด้วยหน้าจอโค้ง พร้อมด้วย Surface Pen ปากกาอัจฉริยะเพื่อคนทำงาน แถมด้วยสมาร์ทโฟน Lumia 950, Lumia 950XL และ Lumia 550
นอกจากนี้ เจ้าพ่อซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังเปิดตัวอุปกรณ์แสดงภาพโฮโลแกรมแบบสวมใส่ได้ตระกูล “โฮโลเลนส์ (HoloLens)” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปีหน้า สนนราคา 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 96,000 บาท
คลอด Surface Pro 4 ควบ Surface Book
แท็บเล็ตใหม่ตระกูลเซอร์เฟซโปร Surface Pro 4 มีหน้าจอใหญ่กว่า แต่ตัวเครื่องเล็กลงกว่ารุ่นเดิม ดีเดย์สั่งจอง คือ 26 ตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับ Surface Book คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กซึ่งสามารถพับเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตที่จะวางขายในราคา 1,499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 48,000 บาท
Surface Pro 4 ถูกออกแบบให้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 12.3 นิ้ว แต่เป็นการเพิ่มขนาดที่เกิดขึ้นบนการลดเนื้อที่ขอบเครื่อง ทำให้รุ่น 4 มีขนาดเครื่องที่บางกว่า Surface Pro 3 ซึ่งมีหน้าจอขนาด 12 นิ้ว ข้อมูลความละเอียดหน้าจอคือ 2,736x1,824 พิกเซล ความหนาแน่นในการแสดงผล 267 พิกเซลต่อนิ้ว
Surface Pro 4 มาพร้อมชิปของอินเทล (Intel) ชิปนี้ มีชื่อรหัสว่า “สกายเลก (Skylake)” เทคโนโลยีที่ใช้มีความเหนือกว่า “บรอดแวล์ (Broadwell)” ใน Surface Pro 3 ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ และการประหยัดพลังงาน
สำหรับ Surface Pro 4 ไมโครซอฟท์จัดเต็มให้ผู้ใช้อัปเกรดพื้นที่หน่วยความจำสูงสุดถึง 1 เทราไบต์ บนหน่วยความจำ RAM ขนาด 16GB ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์การันตีราคาเริ่มต้นที่ 899 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 29,000 บาท
ขณะที่ “เซอร์เฟซ บุ๊ก (Surface Book)” ถูกแจ้งเกิดในรูปคอมพิวเตอร์วางตักขนาดหน้าจอ 13.5 นิ้ว ความละเอียด 267 พิกเซลต่อนิ้ว ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีความสามารถเหนือกว่า Surface รุ่นปกติ สนนราคาเริ่มที่ 1,499 เหรียญสหรัฐ กำหนดการเปิดสั่งจองคือ 7 ตุลาคมนี้ ก่อนจะเริ่มจัดส่งจริง 26 ตุลาคม
Surface Book ถูกออกแบบมาให้สามารถพับหน้าจอโดยหักคีย์บอร์ดไปด้านหลัง เมื่อพับแล้ว Surface Book จะสามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสที่สามารถใช้งานได้ดีกับปากกาใหม่ล่าสุด “เซอร์เฟซ เพน (Surface Pen)”
ปากกาอัจฉริยะ Surface Pen
ไมโครซอฟท์ตั้งชื่อปากกาสไตลัสรุ่นใหม่ของตัวเองว่า Surface Pen จนถูกมองว่าเป็นการท้าชนกับสินค้าใหม่ของแอปเปิลอย่าง Apple Pencil เบื้องต้น Surface Pen ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ดีกับสินค้าตระกูล Surface โดยเฉพาะรุ่นใหม่ทั้ง Surface Book และ Surface Pro 4 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานครีเอทีฟ หรือใช้แอปพลิเคชันพิเศษได้ดีกว่านิ้วมือ
ความไวของ Surface Pen ถูกการันตีว่า สามารถตรวจจับความแรงในการกดได้มากกว่า 1,024 ระดับ ด้านบนของปากกามี “ยางลบ” ที่สามารถใช้ลบเส้นสายที่เพิ่งเขียนได้เหมือนดินสอ ตัวปากกามีแถบแม่เหล็กทำให้สามารถติดยึดกับเครื่อง Surface เพื่อการพกพาที่ง่ายขึ้น
ปากกาไฮเทคของไมโครซอฟท์มีให้เลือกใช้งาน 5 สี ได้แก่ สีเงิน ทอง แดง ฟ้า และดำ
สมาร์ทโฟนสุดประหยัด Lumia 550
ลูเมียรุ่นใหม่ Lumia 550 ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile ที่มีราคาสบายกระเป๋ามากที่สุดในขณะนี้ สนนราคาเบื้องต้นคือ 139 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,500 บาท กำหนดวางจำหน่ายคือเดือนธันวาคมนี้
ในขณะที่ Lumia 550 ยึดตำแหน่งแชมป์ราคาสุดประหยัด แต่เรือธงอย่าง Lumia 950 และ 950XL ขอจองตำแหน่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวเพื่อ Windows 10 Mobile อย่างเป็นทางการ โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้วและ 5.7 นิ้วตามลำดับ สนนราคาถูกแพงต่างกันตามขนาดเริ่มต้นที่ 549 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 18,000 บาท) และ 649 เหรียญสหรัฐ (ราว 21,000 บาท)
สมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 2 รุ่นจะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน บนรูปลักษณ์ที่มองคล้าย Lumia รุ่นพี่ แต่มีความสามารถมากกว่า
Lumia 950 มาพร้อมชิป Snapdragon 808 ความเร็ว 1.8 GHz ขณะที่ 950XL ใช้ชิป Snapdragon 810 ความเร็ว 2.0 GHz ทั้งคู่จะวางจำหน่ายพร้อมแอปพลิเคชันในเครือไมโครซอฟท์ ทั้งสไกป์ (Skype) สำหรับการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต, บริการผู้ช่วยส่วนตัวเอ่ยปากสั่งได้ “คอร์ทานา (Cortana), แอปพลิเคชันสร้างงานเอกสาร “ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ (Microsoft Office)” รวมถึงระบบคอนตินัม (Continuum) ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ด เมาส์ และหน้าจอได้แบบไร้สาย
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์ใช้กล้องดิจิตอล 20 ล้านพิกเซลเป็นกล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K ยังคงมาพร้อมเลนส์ “ไซส์ (Zeiss)” บนแฟลช LED จำนวน 3 ตัว ขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเพื่อชาวเซลฟี่
ความจุข้อมูลในสมาร์ทโฟนคือ 32GB สามารถเพิ่มได้เป็น 256GB ด้วยเมมโมรี่การ์ดเสริม หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB
Display Dock อุปกรณ์เสริมใหม่ Lumia
ดิสเพลย์ ด็อก (Display Dock) คือ อุปกรณ์เสริมที่จะทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Lumia สามารถใช้โทรศัพท์ในสไตล์คอมพิวเตอร์พีซี น่าเสียดายที่ไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผยราคา และกำหนดการจำหน่ายในขณะนี้
ตัว Display Dock มาพร้อมพอร์ต USB Type-C ทำให้ผู้ใช้สามารถนำไปเชื่อมต่อกับหน้าจอใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็จัดเต็มพอร์ต USB ดั้งเดิม 3 พอร์ต เพื่อให้ผู้ใช้ต่อพ่วงอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างเมาส์ หรือคีย์บอร์ด จุดนี้ทำให้แอปพลิเคชันที่รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile สามารถถูกเปิดใช้งานบนหน้าจอใหญ่ได้อย่างสะดวก
นาฬิกา Microsoft Band 2 จอโค้ง
“แบน ทู (Band 2)” คือ อุปกรณ์สวมใส่ได้รุ่นล่าสุด ที่ไมโครซอฟท์พัฒนามาเพื่อชาวฟิตเนส สนนราคาเริ่มที่ 249 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,000 บาท เริ่มจำหน่าย 30 ตุลาคมนี้ในหลายประเทศ
หน้าจอโค้งของ Band 2 ถูกจัดมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลรอบตัวมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงข้อมูลสุขภาพในร่างกาย แต่ยังมีระบบตรวจจับระดับรังสียูวีในแสงเดด ซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาให้ Band 2 มีความสามารถที่ต่างจากนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไปที่สามารถติดตามการนอนหลับ หรือการผลาญพลังงาน เช่นเดียวกับการแจ้งเตือนสายโทร.เข้า อีเมล และข้อความใหม่
สินค้าทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์เชื่อว่าจะทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 มีอิทธิพลมากขึ้นในตลาดโลก โดยปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ระบุว่า วินโดวส์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ถูกติดตั้งในอุปกรณ์มากกว่า 110 ล้านชิ้นแล้ว ถือเป็นสถิติใหม่สำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกเปิดตัวในเวลา 10 สัปดาห์
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000112449
ไม่มีความคิดเห็น: