Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 ตุลาคม 2558 รัฐบาล ระบุ เราอาจจะมีโครงการนำร่องเป็น ซิงเกิล เกตเวย์ เพื่อการพาณิชย์ เพื่อให้การรวมสินทรัพย์กับขีดความสามารถในการให้บริการโครงข่ายระหว่าง กสท กับ ทีโอที เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ให้บริการ แต่ย้ำว่ายังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังไม่ได้ถึงขั้นตอนนำไปปฏิบัติ


ประเด็นหลัก





ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2558 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นเจ้าภาพหลักไปเร่งรัดดำเนินโครงการ “เนชั่นแนล ซิงเกิ้ล เกตเวย์” เพื่อดูแลข้อมูลในด้านความมั่นคงปลอดภัยทางอินเตอร์เนต ว่า ตอนนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดที่จะให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ดำเนินการร่วมกันโดยนำโครงข่ายของสองบริษัทมาร่วมกันให้บริการดังกล่าว

“เราอาจจะมีโครงการนำร่องเป็น ซิงเกิล เกตเวย์ เพื่อการพาณิชย์ เพื่อให้การรวมสินทรัพย์กับขีดความสามารถในการให้บริการโครงข่ายระหว่าง กสท กับ ทีโอที เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ให้บริการ แต่ย้ำว่ายังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังไม่ได้ถึงขั้นตอนนำไปปฏิบัติ” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

ส่วนเรื่องของการนำเข้าและส่งออกข้อมูลอินเตอร์เนตภายในประเทศ ในปัจจุบันยังเป็นการดำเนินการในลักษณะปกติ ยังไม่ได้มีข้อกำหนด หรือยุบรวมแต่อย่างใด

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีกับหน่วยงานของ กสท รายงานการลงทุนของบริษัทใหญ่ที่มีศักยภาพในเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ บิ๊ก ดาต้า พบว่า บริษัทที่มีศักยภาพ มักจะไปลงทุนในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ดังนั้นไทยอยากเปิดโอกาสให้บริษัทที่มีศักยภาพ เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

ในส่วนของ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เรากำลังเร่งรัดให้ พื้นที่เชียงใหม่และภูเก็ตให้สิทธิประโยชน์พิเศษด้านการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นภาษีเงินได้ หรือการใช้ที่ดินต่างๆ และเราจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของเรามีความพร้อมในการให้บริการแทนที่ทุกบริษัทจะมาลงทุน เราก็จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงข่ายให้เป็นทางเลือกให้เขาดูว่าการลงทุนจะได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด











_____________________________________________



ดัน‘ซิงเกิ้ล
เกตเวย์’
ให้‘กสท-ทีโอที’จัดการโครงข่าย

“ประจิน” แจง “ซิงเกิ้ล เกตเวย์” เป็นเพียงแนวคิด แต่ยอมรับอาจจะให้ “กสท-ทีโอที” เป็นผู้ทำโครงการนำร่องก่อน ย้ำเน้นให้บริการ ไม่ใช่การเข้าไปควบคุมการใช้อินเตอร์เนต

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2558 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นเจ้าภาพหลักไปเร่งรัดดำเนินโครงการ “เนชั่นแนล ซิงเกิ้ล เกตเวย์” เพื่อดูแลข้อมูลในด้านความมั่นคงปลอดภัยทางอินเตอร์เนต ว่า ตอนนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดที่จะให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ดำเนินการร่วมกันโดยนำโครงข่ายของสองบริษัทมาร่วมกันให้บริการดังกล่าว

“เราอาจจะมีโครงการนำร่องเป็น ซิงเกิล เกตเวย์ เพื่อการพาณิชย์ เพื่อให้การรวมสินทรัพย์กับขีดความสามารถในการให้บริการโครงข่ายระหว่าง กสท กับ ทีโอที เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ให้บริการ แต่ย้ำว่ายังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังไม่ได้ถึงขั้นตอนนำไปปฏิบัติ” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

ส่วนเรื่องของการนำเข้าและส่งออกข้อมูลอินเตอร์เนตภายในประเทศ ในปัจจุบันยังเป็นการดำเนินการในลักษณะปกติ ยังไม่ได้มีข้อกำหนด หรือยุบรวมแต่อย่างใด

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีกับหน่วยงานของ กสท รายงานการลงทุนของบริษัทใหญ่ที่มีศักยภาพในเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ บิ๊ก ดาต้า พบว่า บริษัทที่มีศักยภาพ มักจะไปลงทุนในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ดังนั้นไทยอยากเปิดโอกาสให้บริษัทที่มีศักยภาพ เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

ในส่วนของ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เรากำลังเร่งรัดให้ พื้นที่เชียงใหม่และภูเก็ตให้สิทธิประโยชน์พิเศษด้านการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นภาษีเงินได้ หรือการใช้ที่ดินต่างๆ และเราจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของเรามีความพร้อมในการให้บริการแทนที่ทุกบริษัทจะมาลงทุน เราก็จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงข่ายให้เป็นทางเลือกให้เขาดูว่าการลงทุนจะได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด

“แนวคิดซิงเกิล เกตเวย์นั้นอยู่ระหว่างการปรึกษา เพราะขั้นตอนเยอะ และเรากำลังมีการปรับแผนของแคท และกสท ในการทำงานดาต้าร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและผู้ลงทุนรายใหม่ๆ และจะรีบดำเนินการ” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

ก่อนหน้านี้ มีกระแสคัดค้านเนชั่นแนล ซิงเกิ้ล เกตเวย์ ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร(ไอซีที) ออกมาชี้แจงแล้วว่า โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นของการพิจารณายังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของทางเศรษฐกิจไม่ได้ต้องการที่จะคุกคามสิทธิพื้นฐาน และไม่ใช่เหตุผลด้านความมั่นคง


http://www.naewna.com/business/180837

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.