Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 ตุลาคม 2558 "แอดไวซ์" จัดเต็มทั้งขยายช่องทาง"ออนไลน์" และ "ปูพรมโรดโชว์" 4 ภาคกระตุกยอดต่างจังหวัด ขณะที่ "เจ.ไอ.บี."คุมเข้มลดค่าใช้จ่าย-โหมตลาด "ดีไอวาย"

ประเด็นหลัก




และในช่วงไตรมาสสุดท้าย นอกจากมีแคมเปญลดราคาหลากหลายรายการทุกสาขาของบานาน่าไอที ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-15 พ.ย. เช่น สมาร์ทโฟน เอซุส Zenfone 2 ลด 3,500 บาท เหลือ 11,990 บาท, โน้ตบุ๊ก เลอโนโว รุ่น Z5170 ซีพียูคอร์ไอ 7 ลด 2,000 บาท เหลือ 23,990 บาท, ไอโฟน 6 ลดสูงสุด 10,000 บาท เป็นต้น ยังมีโปรแกรมเงินผ่อน 0% เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าเมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ผ่อนได้นานสูงสุด 18 เดือน ส่วนในร้าน "ไอสตูดิโอ" บาย คอมเซเว่นจะมีลดราคาแมคบุ๊กโปร สูงสุด 2,400 บาท และให้ผ่อนชำระนานสูงสุด 20 เดือน

เมื่อแบ่งรายได้ของบริษัทตามกลุ่มสินค้าจะมาจากโน้ตบุ๊กและเดสก์ทอป ราคาเฉลี่ย 15,000 บาทที่ 40%, สมาร์ทโฟน 25%, แท็บเลต 20% ที่เหลือเป็นอุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ส่วนการขยายสาขาในปีนี้ใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท เพิ่ม 40 แห่ง เน้นที่บานาน่า โมบาย และไอสตูดิโอ ทำให้ถึงสิ้นปีมีสาขารวมกันกว่า 300 แห่ง ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้น และมีเงินลงทุนเพิ่มสาขาให้เป็น 500 แห่ง ภายในปี 2560













_______________________________________






ค้าปลีกไอทีเร่งปิดยอดขายโค้งท้าย ระดมโปรโมชั่นหั่นราคา-ผ่อน 0% ปลุกมู้ดจับจ่าย



เร่งเต็มสูบปิดยอดโค้งท้าย ค้าปลีกไอที อัดฉีด "โปรโมชั่น-ผ่อน 0%" ปลุกมู้ดจับจ่ายอุตลุด "คอมเซเว่น" เพิ่มดีกรีหั่นราคา-จัดระเบียบสต๊อกคุมต้นทุน พร้อมดึง "ไอโฟน" รุ่นใหม่เสริมทัพโกยรายได้เข้าเป้า 1.4 หมื่นล้านบาทในสิ้นปีฟาก "แอดไวซ์" จัดเต็มทั้งขยายช่องทาง"ออนไลน์" และ "ปูพรมโรดโชว์" 4 ภาคกระตุกยอดต่างจังหวัด ขณะที่ "เจ.ไอ.บี."คุมเข้มลดค่าใช้จ่าย-โหมตลาด "ดีไอวาย"

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แม้ภาพรวมตลาดไอทียังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่บริษัทยังคงเป้ารายได้ไว้ที่ 14,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-10% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้จัดระเบียบสต๊อกสินค้าใหม่ เน้นที่มีความต้องการในตลาดมาก และสั่งซื้อโดยตรงกับผู้ผลิตแบรนด์ต่าง ๆ ทำให้ควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ประกอบกับผลิตภัณฑ์แบรนด์แอปเปิลได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ยอดขายเป็นไปได้ตามเป้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก หรือสมาร์ทโฟน รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ คิดเป็นยอดขายกว่า 50% ของบริษัท และในปลายปีนี้จะมีไอโฟนรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดด้วย จึงจะช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้น



งัดผ่อน 0% 18 เดือนดันยอด

"ที่เรารอดมาจากวิกฤตตลาดไอทีชะลอตัวมาได้เพราะเราเปลี่ยนแผนหันมาจัดงานเอง แทนการเข้าร่วมงานอีเวนต์อื่น ๆโดยเราจัดงานใหญ่อย่างน้อยไตรมาสละครั้ง และทุกเดือนจะมีการนำสินค้ามาลดราคา ซึ่งทั้งปีใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายกำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมา หลังจากหดตัวมาตลอดครึ่งปีแรก"

และในช่วงไตรมาสสุดท้าย นอกจากมีแคมเปญลดราคาหลากหลายรายการทุกสาขาของบานาน่าไอที ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-15 พ.ย. เช่น สมาร์ทโฟน เอซุส Zenfone 2 ลด 3,500 บาท เหลือ 11,990 บาท, โน้ตบุ๊ก เลอโนโว รุ่น Z5170 ซีพียูคอร์ไอ 7 ลด 2,000 บาท เหลือ 23,990 บาท, ไอโฟน 6 ลดสูงสุด 10,000 บาท เป็นต้น ยังมีโปรแกรมเงินผ่อน 0% เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าเมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ผ่อนได้นานสูงสุด 18 เดือน ส่วนในร้าน "ไอสตูดิโอ" บาย คอมเซเว่นจะมีลดราคาแมคบุ๊กโปร สูงสุด 2,400 บาท และให้ผ่อนชำระนานสูงสุด 20 เดือน

เมื่อแบ่งรายได้ของบริษัทตามกลุ่มสินค้าจะมาจากโน้ตบุ๊กและเดสก์ทอป ราคาเฉลี่ย 15,000 บาทที่ 40%, สมาร์ทโฟน 25%, แท็บเลต 20% ที่เหลือเป็นอุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ส่วนการขยายสาขาในปีนี้ใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท เพิ่ม 40 แห่ง เน้นที่บานาน่า โมบาย และไอสตูดิโอ ทำให้ถึงสิ้นปีมีสาขารวมกันกว่า 300 แห่ง ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้น และมีเงินลงทุนเพิ่มสาขาให้เป็น 500 แห่ง ภายในปี 2560

"แอดไวซ์" ปูพรมโรดโชว์

ด้านนายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้าย บริษัทจะจัดงานลดราคาประจำปีทั้ง 4 ภาค ใน 4-6 จังหวัดใหญ่ เพื่อระบายสินค้ารุ่นเก่า และทำโปรโมชั่นลดราคารุ่นที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางปี เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงโค้งสุดท้าย เนื่องจากในไตรมาส 2 และ 3 ทำยอดขายได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เพราะกำลังซื้อกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง แม้ที่ผ่านมาจะยังออกงานอีเวนต์ ทั้งไอที, โทรศัพท์มือถือ รวมถึงงานลดราคา เช่น Thailand One Stop Shopping Expo 2015 (วันที่ 10-18 ต.ค.) เพื่อเพิ่มยอดขายอีกทาง ทำให้คาดว่ารายได้ปีนี้จะปิดที่ 15,000 ล้านบาทตามเป้าที่ตั้งไว้ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20% เติบโตสวนทางตลาดรวมที่ยังหดตัว

"เรามองการร่วมงานลดราคาต่าง ๆ เป็นเรื่องจำเป็น แม้จะจัดงานลดราคาด้วยตนเองอยู่แล้ว เพราะการไปร่วมงานช่วยระบายสินค้ารุ่นเก่า รวมถึงจำหน่ายสินค้ารุ่นใหม่ได้มากขึ้น เห็นได้จากไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โปที่ผ่านมา ส่วนคอมมาร์ตที่กำลังจะมี (5-8 พ.ย.) ก็จะไปร่วมงานด้วย เน้นคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์ ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์"

สัดส่วนรายได้รวม 15,000 ล้านบาท มาจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 40%, คอมพิวเตอร์ 20%, อุปกรณ์เชื่อมต่อ 20%, กล้องวงจรปิด 10% และสมาร์ทโฟน 10% มีจุดจำหน่ายรวมกัน 398 แห่ง เกือบทั้งหมดอยู่ในต่างจังหวัด บริหารโดยบริษัท 112 แห่ง ที่เหลือเป็นแฟรนไชส์ภายใต้ชื่อ "แอดไวซ์ ช้อป, แอดไวซ์ มินิ และแอสวัน"

นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ และระบบสต๊อกสินค้าเพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์แก่ผู้บริโภคทั่วไป จากเดิมเป็นช่องทางเฉพาะให้แฟรนไชส์สั่งสินค้า ทั้งมีแผนนำบริษัทเข้าระดมทุนใน ตลท.ในปลายปีหน้า

เจ.ไอ.บี.โหม "ดีไอวาย"

ขณะที่นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังคงหันมาเน้นการทำตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์สั่งประกอบ (ดีไอวาย) เพราะยังคงมีความต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายเติบโต 14% จากปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 6,500 ล้านบาท เป็นยอดขายผลิตภัณฑ์ประเภทดีไอวายกว่าครึ่ง รองลงมาเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปทั่วไป และโน้ตบุ๊ก 25% และในปลายปีนี้จะเข้าร่วมในงานคอมมาร์ตเพื่อผลักดันรายได้ก่อนสิ้นปีด้วย ตั้งเป้าไว้ที่ 60 ล้านบาท

"ช่วง 3 เดือนสุดท้ายจะคุมค่าใช้จ่าย และเน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี คาดว่าในสิ้นปีจะขายได้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ส่วนการขยายสาขาจะไม่เปิดเพิ่มอีก จากที่มีอยู่ 130 แห่งแต่ปีหน้าจะเปิดอีก 10-15 แห่ง เน้นต่างจังหวัด และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายช่องทางออนไลน์เป็น 1,000 ล้านบาท ปีหน้าคาดว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ตลาดไอทีกลับมาเติบโตอีกครั้ง"

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้ภาพรวมตลาดยังชะลอตัว แต่ไม่ได้กระทบรายได้ของบริษัทที่ยังโตกว่า 10% จากปีที่แล้ว เพราะหาสินค้าตรงความต้องการของผู้บริโภค เช่น มีสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ระดับบน รวมถึงร่วมกับผู้ผลิตสินค้าหลายราย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานกลุ่มลูกค้าองค์กรได้ตั้งแต่ต้นจนจบ คาดว่าใน 3 เดือนจะทำได้ตามเป้าที่ 21,000 ล้านบาท และจากนี้จะพัฒนาช่องทางการขายสินค้าออนไลน์เพื่อรองรับตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วมากด้วย

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444888390

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.