13 ธันวาคม 2558 ไอฟลิกซ์ เปิดเกมแย่งลูกค้าเต็มสตรีม ชู "เอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์" ไทย-เทศเป็นจุดขาย แถมคิดค่าบริการแค่ 100 บาท/เดือน ปัจจุบันมีคอนเทนต์รวม 15,000 ชม.
ประเด็นหลัก
ที่ผ่านมาเติบโตรวดเร็ว มีผู้ใช้งานในประเทศไทยคิดเป็น 1 ใน 5 ของผู้ใช้ในฟิลิปปินส์และมาเลเซียรวมกันที่ 9.5 แสนราย หลังเปิดมา 6 เดือน บริษัทแม่จึงให้ความสำคัญกับตลาดเมืองไทยเป็นพิเศษ ด้วยการเร่งดึงคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ต่างชาติ พร้อมหาพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีคอนเทนต์รวม 15,000 ชม. เป็นซีรีส์ฝั่งอเมริกา, เกาหลี และไทย 70% มีซับไตเติลแล้ว 90% ส่วนที่เหลือเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดและเอเชีย โดยคอนเทนต์ไทยคิดเป็น 10% ของทั้งหมด
และเพื่อให้การทำตลาดในประเทศไทยง่ายขึ้น "ไอฟลิกซ์" จึงคิดค่าบริการ 100 บาท/เดือน รับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ทั้งหมด รวมถึงมีโปรโมชั่นสมัครใช้งานรายปีราคา 1,000 บาท (ปกติ 1,200 บาท) พร้อมกันนี้ยังเจรจาค่ายภาพยนตร์นำบางคอนเทนต์มาเผยแพร่เฉพาะในระบบของไอฟลิกซ์ ปัจจุบันมี 5-6 เรื่อง เช่น Mr.Robot และ Fargo ซีรีส์จากสหรัฐอเมริกาที่มีคำบรรยายไทยหลังฉายในประเทศต้นทาง 1-2 วัน ทั้งร่วมกับไทยพีบีเอสนำบางรายการมาเผยแพร่เฉพาะช่องทางไอฟลิกซ์ด้วย
ล่าสุดร่วมกับดารานักแสดงสัญชาติไทย5คน เช่น เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี และอ้อม-พิยดา อัครเศรณี เป็นหุ้นส่วนธุรกิจ โดยทั้งหมดจะถือหุ้นส่วนหนึ่งพร้อมได้สิทธิ์ในการคัดเลือกคอนเทนต์เข้ามาแพร่ภาพในระบบ และเจรจาผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทยนำคอนเทนต์ของตนเองเข้ามาเผยแพร่ ซึ่งการมีพาร์ตเนอร์เป็นดารานักแสดง ทำให้ค่ายพระนครฟิล์ม และวันพิกเจอร์ที่ทำละครให้ช่องวัน นำคอนเทนต์มาแพร่ภาพในระบบด้วย หลังจากนี้จะมีค่ายจีทีเอชและอื่น ๆ อีก
____________________________________________________________
ยักษ์ชนยักษ์สมรภูมิดูหนังออนไลน์ "ไอฟลิกซ์"เปิดเกมราคาพ่วงคอนเทนต์โหมชิงเค้ก
สมรภูมิดูหนังออนไลน์สุดคึกคัก "ไอฟลิกซ์"เปิดเกมแย่งลูกค้าเต็มสตรีม ชู "เอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์" ไทย-เทศเป็นจุดขาย แถมคิดค่าบริการแค่ 100 บาท/เดือน ตั้งเป้าปั๊มฐานลูกค้าทะลุล้านไอดีภายในปีหน้า พร้อมเปิดทาง "ดารา" เป็นหุ้นส่วนธุรกิจหวังช่วยบุกเบิกตลาด และดึงดูดคอนเทนต์ภายในประเทศ
นางสาวอาทิมา สุรพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรับชมซีรีส์ และภาพยนตร์ออนไลน์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังทดลองให้บริการไอฟลิกซ์ (iflix) ในประเทศไทยมาประมาณ 3 เดือน พร้อมกับใช้ช่องทางออนไลน์ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าใช้บริการแล้ว 2 แสนราย และในปี 2559 เตรียมทำการตลาดแบบออฟไลน์ เช่น มีป้ายบิลบอร์ด, โฆษณาทางวิทยุ รวมถึงร่วมมือกับค่ายภาพยนตร์ต่างชาติและท้องถิ่น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้มีมากกว่า 1 ล้านคน
ที่ผ่านมาเติบโตรวดเร็ว มีผู้ใช้งานในประเทศไทยคิดเป็น 1 ใน 5 ของผู้ใช้ในฟิลิปปินส์และมาเลเซียรวมกันที่ 9.5 แสนราย หลังเปิดมา 6 เดือน บริษัทแม่จึงให้ความสำคัญกับตลาดเมืองไทยเป็นพิเศษ ด้วยการเร่งดึงคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ต่างชาติ พร้อมหาพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีคอนเทนต์รวม 15,000 ชม. เป็นซีรีส์ฝั่งอเมริกา, เกาหลี และไทย 70% มีซับไตเติลแล้ว 90% ส่วนที่เหลือเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดและเอเชีย โดยคอนเทนต์ไทยคิดเป็น 10% ของทั้งหมด
และเพื่อให้การทำตลาดในประเทศไทยง่ายขึ้น "ไอฟลิกซ์" จึงคิดค่าบริการ 100 บาท/เดือน รับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ทั้งหมด รวมถึงมีโปรโมชั่นสมัครใช้งานรายปีราคา 1,000 บาท (ปกติ 1,200 บาท) พร้อมกันนี้ยังเจรจาค่ายภาพยนตร์นำบางคอนเทนต์มาเผยแพร่เฉพาะในระบบของไอฟลิกซ์ ปัจจุบันมี 5-6 เรื่อง เช่น Mr.Robot และ Fargo ซีรีส์จากสหรัฐอเมริกาที่มีคำบรรยายไทยหลังฉายในประเทศต้นทาง 1-2 วัน ทั้งร่วมกับไทยพีบีเอสนำบางรายการมาเผยแพร่เฉพาะช่องทางไอฟลิกซ์ด้วย
ล่าสุดร่วมกับดารานักแสดงสัญชาติไทย5คน เช่น เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี และอ้อม-พิยดา อัครเศรณี เป็นหุ้นส่วนธุรกิจ โดยทั้งหมดจะถือหุ้นส่วนหนึ่งพร้อมได้สิทธิ์ในการคัดเลือกคอนเทนต์เข้ามาแพร่ภาพในระบบ และเจรจาผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทยนำคอนเทนต์ของตนเองเข้ามาเผยแพร่ ซึ่งการมีพาร์ตเนอร์เป็นดารานักแสดง ทำให้ค่ายพระนครฟิล์ม และวันพิกเจอร์ที่ทำละครให้ช่องวัน นำคอนเทนต์มาแพร่ภาพในระบบด้วย หลังจากนี้จะมีค่ายจีทีเอชและอื่น ๆ อีก
"การให้นักแสดงมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเป็นโมเดลที่พิสูจน์แล้วว่าสำเร็จ ในฟิลิปปินส์เราก็ใช้โมเดลนี้ มีนักแสดงเกือบ 10 คนเป็นพาร์ตเนอร์ พวกเขามีช่องทางในการประชาสัมพันธ์ และรู้เรื่องในอุตสาหกรรมนี้ว่า ผู้บริโภคต้องการรับชมอะไร ทำให้ไอฟลิกซ์ทำงานได้ง่ายขึ้น ที่ให้พวกเขามาถือหุ้นไม่ใช่แค่เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์แต่อยากให้เขาอินไปกับธุรกิจของเรา และในปีหน้าอาจเพิ่มพาร์ตเนอร์เพื่อหามุมมองใหม่ ๆ ในธุรกิจนี้"
สำหรับการแข่งขันในตลาดภาพยนตร์ออนไลน์ในประเทศไทยถือว่าค่อนข้างแข่งขันสูง เพราะประชากรเกือบ 70 ล้านคนมีสมาร์ทโฟน 35 ล้านเครื่อง และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ 30-40 ล้านคน ทำให้มีผู้เล่นในตลาดกว่า 10 ราย โดยมีการแข่งราคามากที่สุด รองลงมาเป็นเรื่องคอนเทนต์ของแต่ละราย ซึ่งวิธีทำตลาดส่วนใหญ่จะชูจุดเด่นแค่ภาพยนตร์หรือการรับชมซีรีส์ รวมถึงแพ็กเกจหลายรูปแบบ แต่คุมราคาไว้ที่ 100 บาท/เดือน เป็นรองผู้เล่นรายหนึ่งที่คิด 99 บาท/เดือน
ขณะที่การรับชม "ไอฟลิกซ์" จะทำได้บนสมาร์ทโฟน, แท็บเลต และผ่านบราวเซอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดย 1 บัญชีสามารถล็อกอินใช้ได้ 5 อุปกรณ์ (รับชมพร้อมกันได้2 อุปกรณ์) มีบริการรับชมแบบออฟไลน์บนแอปพลิเคชั่นเพื่อความสะดวกในการใช้งานนอกสัญญาณ "ไวไฟ" ด้วย
ทั้งนี้ "ไอฟลิกซ์" ถือหุ้น โดย "แคทช่า" กลุ่มทุนธุรกิจออนไลน์จากประเทศออสเตรเลีย และ "พีแอลดีที" ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจากประเทศฟิลิปปินส์ และบริษัทในฮอลลีวูด 2 ราย ได้แก่ อีเอ็มซี และเอ็มจีเอ็ม โดยหลังจากนี้มีแผนหาพาร์ตเนอร์เพิ่มเติมเพื่อขยายตลาดไปในยุโรปตะวันออกและแอฟริกา
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1449734871
ที่ผ่านมาเติบโตรวดเร็ว มีผู้ใช้งานในประเทศไทยคิดเป็น 1 ใน 5 ของผู้ใช้ในฟิลิปปินส์และมาเลเซียรวมกันที่ 9.5 แสนราย หลังเปิดมา 6 เดือน บริษัทแม่จึงให้ความสำคัญกับตลาดเมืองไทยเป็นพิเศษ ด้วยการเร่งดึงคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ต่างชาติ พร้อมหาพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีคอนเทนต์รวม 15,000 ชม. เป็นซีรีส์ฝั่งอเมริกา, เกาหลี และไทย 70% มีซับไตเติลแล้ว 90% ส่วนที่เหลือเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดและเอเชีย โดยคอนเทนต์ไทยคิดเป็น 10% ของทั้งหมด
และเพื่อให้การทำตลาดในประเทศไทยง่ายขึ้น "ไอฟลิกซ์" จึงคิดค่าบริการ 100 บาท/เดือน รับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ทั้งหมด รวมถึงมีโปรโมชั่นสมัครใช้งานรายปีราคา 1,000 บาท (ปกติ 1,200 บาท) พร้อมกันนี้ยังเจรจาค่ายภาพยนตร์นำบางคอนเทนต์มาเผยแพร่เฉพาะในระบบของไอฟลิกซ์ ปัจจุบันมี 5-6 เรื่อง เช่น Mr.Robot และ Fargo ซีรีส์จากสหรัฐอเมริกาที่มีคำบรรยายไทยหลังฉายในประเทศต้นทาง 1-2 วัน ทั้งร่วมกับไทยพีบีเอสนำบางรายการมาเผยแพร่เฉพาะช่องทางไอฟลิกซ์ด้วย
ล่าสุดร่วมกับดารานักแสดงสัญชาติไทย5คน เช่น เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี และอ้อม-พิยดา อัครเศรณี เป็นหุ้นส่วนธุรกิจ โดยทั้งหมดจะถือหุ้นส่วนหนึ่งพร้อมได้สิทธิ์ในการคัดเลือกคอนเทนต์เข้ามาแพร่ภาพในระบบ และเจรจาผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทยนำคอนเทนต์ของตนเองเข้ามาเผยแพร่ ซึ่งการมีพาร์ตเนอร์เป็นดารานักแสดง ทำให้ค่ายพระนครฟิล์ม และวันพิกเจอร์ที่ทำละครให้ช่องวัน นำคอนเทนต์มาแพร่ภาพในระบบด้วย หลังจากนี้จะมีค่ายจีทีเอชและอื่น ๆ อีก
____________________________________________________________
ยักษ์ชนยักษ์สมรภูมิดูหนังออนไลน์ "ไอฟลิกซ์"เปิดเกมราคาพ่วงคอนเทนต์โหมชิงเค้ก
สมรภูมิดูหนังออนไลน์สุดคึกคัก "ไอฟลิกซ์"เปิดเกมแย่งลูกค้าเต็มสตรีม ชู "เอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์" ไทย-เทศเป็นจุดขาย แถมคิดค่าบริการแค่ 100 บาท/เดือน ตั้งเป้าปั๊มฐานลูกค้าทะลุล้านไอดีภายในปีหน้า พร้อมเปิดทาง "ดารา" เป็นหุ้นส่วนธุรกิจหวังช่วยบุกเบิกตลาด และดึงดูดคอนเทนต์ภายในประเทศ
นางสาวอาทิมา สุรพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรับชมซีรีส์ และภาพยนตร์ออนไลน์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังทดลองให้บริการไอฟลิกซ์ (iflix) ในประเทศไทยมาประมาณ 3 เดือน พร้อมกับใช้ช่องทางออนไลน์ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าใช้บริการแล้ว 2 แสนราย และในปี 2559 เตรียมทำการตลาดแบบออฟไลน์ เช่น มีป้ายบิลบอร์ด, โฆษณาทางวิทยุ รวมถึงร่วมมือกับค่ายภาพยนตร์ต่างชาติและท้องถิ่น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้มีมากกว่า 1 ล้านคน
ที่ผ่านมาเติบโตรวดเร็ว มีผู้ใช้งานในประเทศไทยคิดเป็น 1 ใน 5 ของผู้ใช้ในฟิลิปปินส์และมาเลเซียรวมกันที่ 9.5 แสนราย หลังเปิดมา 6 เดือน บริษัทแม่จึงให้ความสำคัญกับตลาดเมืองไทยเป็นพิเศษ ด้วยการเร่งดึงคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ต่างชาติ พร้อมหาพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีคอนเทนต์รวม 15,000 ชม. เป็นซีรีส์ฝั่งอเมริกา, เกาหลี และไทย 70% มีซับไตเติลแล้ว 90% ส่วนที่เหลือเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดและเอเชีย โดยคอนเทนต์ไทยคิดเป็น 10% ของทั้งหมด
และเพื่อให้การทำตลาดในประเทศไทยง่ายขึ้น "ไอฟลิกซ์" จึงคิดค่าบริการ 100 บาท/เดือน รับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ทั้งหมด รวมถึงมีโปรโมชั่นสมัครใช้งานรายปีราคา 1,000 บาท (ปกติ 1,200 บาท) พร้อมกันนี้ยังเจรจาค่ายภาพยนตร์นำบางคอนเทนต์มาเผยแพร่เฉพาะในระบบของไอฟลิกซ์ ปัจจุบันมี 5-6 เรื่อง เช่น Mr.Robot และ Fargo ซีรีส์จากสหรัฐอเมริกาที่มีคำบรรยายไทยหลังฉายในประเทศต้นทาง 1-2 วัน ทั้งร่วมกับไทยพีบีเอสนำบางรายการมาเผยแพร่เฉพาะช่องทางไอฟลิกซ์ด้วย
ล่าสุดร่วมกับดารานักแสดงสัญชาติไทย5คน เช่น เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี และอ้อม-พิยดา อัครเศรณี เป็นหุ้นส่วนธุรกิจ โดยทั้งหมดจะถือหุ้นส่วนหนึ่งพร้อมได้สิทธิ์ในการคัดเลือกคอนเทนต์เข้ามาแพร่ภาพในระบบ และเจรจาผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทยนำคอนเทนต์ของตนเองเข้ามาเผยแพร่ ซึ่งการมีพาร์ตเนอร์เป็นดารานักแสดง ทำให้ค่ายพระนครฟิล์ม และวันพิกเจอร์ที่ทำละครให้ช่องวัน นำคอนเทนต์มาแพร่ภาพในระบบด้วย หลังจากนี้จะมีค่ายจีทีเอชและอื่น ๆ อีก
"การให้นักแสดงมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเป็นโมเดลที่พิสูจน์แล้วว่าสำเร็จ ในฟิลิปปินส์เราก็ใช้โมเดลนี้ มีนักแสดงเกือบ 10 คนเป็นพาร์ตเนอร์ พวกเขามีช่องทางในการประชาสัมพันธ์ และรู้เรื่องในอุตสาหกรรมนี้ว่า ผู้บริโภคต้องการรับชมอะไร ทำให้ไอฟลิกซ์ทำงานได้ง่ายขึ้น ที่ให้พวกเขามาถือหุ้นไม่ใช่แค่เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์แต่อยากให้เขาอินไปกับธุรกิจของเรา และในปีหน้าอาจเพิ่มพาร์ตเนอร์เพื่อหามุมมองใหม่ ๆ ในธุรกิจนี้"
สำหรับการแข่งขันในตลาดภาพยนตร์ออนไลน์ในประเทศไทยถือว่าค่อนข้างแข่งขันสูง เพราะประชากรเกือบ 70 ล้านคนมีสมาร์ทโฟน 35 ล้านเครื่อง และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ 30-40 ล้านคน ทำให้มีผู้เล่นในตลาดกว่า 10 ราย โดยมีการแข่งราคามากที่สุด รองลงมาเป็นเรื่องคอนเทนต์ของแต่ละราย ซึ่งวิธีทำตลาดส่วนใหญ่จะชูจุดเด่นแค่ภาพยนตร์หรือการรับชมซีรีส์ รวมถึงแพ็กเกจหลายรูปแบบ แต่คุมราคาไว้ที่ 100 บาท/เดือน เป็นรองผู้เล่นรายหนึ่งที่คิด 99 บาท/เดือน
ขณะที่การรับชม "ไอฟลิกซ์" จะทำได้บนสมาร์ทโฟน, แท็บเลต และผ่านบราวเซอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดย 1 บัญชีสามารถล็อกอินใช้ได้ 5 อุปกรณ์ (รับชมพร้อมกันได้2 อุปกรณ์) มีบริการรับชมแบบออฟไลน์บนแอปพลิเคชั่นเพื่อความสะดวกในการใช้งานนอกสัญญาณ "ไวไฟ" ด้วย
ทั้งนี้ "ไอฟลิกซ์" ถือหุ้น โดย "แคทช่า" กลุ่มทุนธุรกิจออนไลน์จากประเทศออสเตรเลีย และ "พีแอลดีที" ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจากประเทศฟิลิปปินส์ และบริษัทในฮอลลีวูด 2 ราย ได้แก่ อีเอ็มซี และเอ็มจีเอ็ม โดยหลังจากนี้มีแผนหาพาร์ตเนอร์เพิ่มเติมเพื่อขยายตลาดไปในยุโรปตะวันออกและแอฟริกา
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1449734871
ไม่มีความคิดเห็น: