Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

19 มกราคม 2559 กทค.ว่าที่ประชุมมีมติ ไม่อนุมัติ ดาวเทียม ให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม แก่บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หลังจากที่มีหนังสือลงวันที่ 29 กันยายน 2558 ได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม เนื่องจากประสงค์จะสร้างดาวเทียมดวงใหม่ดวงที่ 9 เพื่อให้บริการ โดยเป็นดาวเทียมให้บริการที่ตำแหน่ง 119.5 องศาตะวันออก

ประเด็นหลัก





พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด กทค.ว่าที่ประชุมมีมติ ไม่อนุมัติให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม แก่บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หลังจากที่มีหนังสือลงวันที่ 29 กันยายน 2558 ได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม เนื่องจากประสงค์จะสร้างดาวเทียมดวงใหม่ดวงที่ 9 เพื่อให้บริการ โดยเป็นดาวเทียมให้บริการที่ตำแหน่ง 119.5 องศาตะวันออก

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติให้ไทยคมใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ที่ไทยคมมีอยู่เดิม ที่ไทยคมได้รับใบอนุญาตไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2555 จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2575 ซึ่งมีขอบเขตการอนุญาตเพื่อให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อให้เช่าและเพื่อให้บริการโครงข่ายสื่อสารผ่านดาวเทียม (Sattellite Network) ผ่านการให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม (Transponder) ในลักษณะให้บริการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม โดยใช้ตำแหน่งวงโครจรที่ 120 องศาตะวันออก และให้เขียนแนบท้ายใบอนุญาตโดยเห็นชอบการให้บิรการโครงข่ายเพิ่มเติม ตามแผนธุรกิจที่ไทยคมเสนอ

ทั้งนี้ เหตุผลการขอใบอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากดาวเทียมดาวใหม่ซึ่งจะมีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 15 ปี ต้องใช้ระยะเวลาในการประสานงานความถี่เพิ่มเติมรวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการออกแบบดาวเทียม การจัดสร้างและการจัดส่งดาวเทียม ทั้งสิ้นราว 1-7 ปี ซึ่งไทยคมเห็นว่าหากขออนุญาตเพิ่มเติมการให้บริการดาวเทียมดวงที่ 9 ภายใต้ใบอนุญาตที่ได้รับอยู่ ทำให้ดาวเทียมดวงใหม่มีความเสี่ยงไม่สอดคล้องกับแผนการลงทุน



_________________________________________________




12 ม.ค.59 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (13ม.ค.59) เวลา 13.30 น. สำนักงานกสทช.จะหารือร่วมกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และนายศิวพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เพื่อหารือในประเด็นแนวทางการจัดสรรคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) โดยปัจจุบันคลื่นย่านดังกล่าว อยู่ในการครอบครองของ อสมท จำนวน 120 MHz

ทั้งนี้ สำนักงานกสทช.มีความเห็นว่าหากนำคลื่น 2600 MHz  มาเปิดประมูลเพื่อให้บริการ 4 จี จะส่งผลประโยชน์ต่อประเทศ ถือเป็นการคลื่นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งปัจจุบันอสมท ยังใช้คลื่น 2600 MHz  เพื่อให้บริการโทรทัศน์บอกรับสมาชิก หรือ เคเบิลทีวี เท่านั้น โดยในเบื้องต้น อสมท ยอมคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz ให้จำนวน 60 MHz เป็นอย่างน้อย ภายในใต้เงื่อนไข กสทช.ต้องจ่ายเงินชดเชยเยียวยาการคืนคลื่นให้ อสมท ในอัตราที่เหมาะสม

“การหารือกับท่านรองนายกฯประจิน เพราะเราต้องการวางแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ในอนาคต ซึ่งในย่าน 2600 MHz นี้ หากอสมทยอมคืนจำนวน60 MHz ก็จะแบ่งเป็น 3 ใบอนุญาตๆละ 20 MHz  โดยทางเทคนิคคลื่น 2600 MHz  เหมาะกับการให้บริการด้านสื่อสารข้อมูล (ดาต้า) เพียงอย่างเดียวไม่สามารถให้บริการด้านเสียง (วอยซ์) ได้ ส่วนเรื่องเงินเยียวยาที่ต้องจ่ายให้กับ อสมท ก็ต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาอัตราการจ่ายเงินเยียวยาคืนให้เหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งหลังจากหารือกันในวันนี้ จากนั้นเวลา 15.00 น.จะมีการแถลงข่าวร่วมกัน”

สำหรับความคืบหน้าการชำระค่าใบอนุญาตคลื่น 900 MHz นั้น ล่าสุดได้รับประสานจากบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ในเครือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS และ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) ในเครือ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE  ว่าอย่างเร็วคือภายในวันที่ 15 ม.ค. 2559 หรืออย่างช้าในวันที่ 18 ม.ค.2559 นี้ จะนำเงินค่าประมูลงวดแรกจำนวน 8,040 ล้านบาท พร้อมกับหนังสือรับรองทางการเงินจากสถาบันการเงิน (แบงก์ การันตี) มาชำระให้ครบถ้วนพร้อมกันทั้ง2 บริษัท ซึ่งล่าสุดแจสระบุว่าการอนุมัติวงเงินกู้ของบริษัทกับธนาคารกรุงเทพได้เข้าสู่วาระที่ประชุมบอร์ดธนาคารกรุงเทพไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้ลงมติเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ทีผ่านมา เกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าบริการ 4จีทั้งในย่าน 1800 และ 900 MHz แล้ว โดยค่าบริการจะต้องต่ำกว่าอัตราค่าบริการระบบ 3จีในย่าน 2100 MHz  โดยอัตราค่าบริการ 3จีปัจจุบันสำหรับบริการด้านเสียง (วอยซ์) อยู่ที่ 0.69 บาทต่อนาที และบริการด้านข้อมูล (ดาต้า) อยู่ที่ 0.26 บาทต่อเมกะบิต ซึ่งจากอัตราค่าบริการ 3จีดังกล่าวนี้ ทำให้ต่อไปหากผู้ประกอบการจะทำโปรโมชั่นสำหรับ 4จีจะต้องต่ำกว่าอัตราดังกล่าวทุกแพคเก็จ

พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด กทค.ว่าที่ประชุมมีมติ ไม่อนุมัติให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม แก่บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หลังจากที่มีหนังสือลงวันที่ 29 กันยายน 2558 ได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม เนื่องจากประสงค์จะสร้างดาวเทียมดวงใหม่ดวงที่ 9 เพื่อให้บริการ โดยเป็นดาวเทียมให้บริการที่ตำแหน่ง 119.5 องศาตะวันออก

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติให้ไทยคมใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ที่ไทยคมมีอยู่เดิม ที่ไทยคมได้รับใบอนุญาตไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2555 จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2575 ซึ่งมีขอบเขตการอนุญาตเพื่อให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อให้เช่าและเพื่อให้บริการโครงข่ายสื่อสารผ่านดาวเทียม (Sattellite Network) ผ่านการให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม (Transponder) ในลักษณะให้บริการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม โดยใช้ตำแหน่งวงโครจรที่ 120 องศาตะวันออก และให้เขียนแนบท้ายใบอนุญาตโดยเห็นชอบการให้บิรการโครงข่ายเพิ่มเติม ตามแผนธุรกิจที่ไทยคมเสนอ

ทั้งนี้ เหตุผลการขอใบอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากดาวเทียมดาวใหม่ซึ่งจะมีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 15 ปี ต้องใช้ระยะเวลาในการประสานงานความถี่เพิ่มเติมรวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการออกแบบดาวเทียม การจัดสร้างและการจัดส่งดาวเทียม ทั้งสิ้นราว 1-7 ปี ซึ่งไทยคมเห็นว่าหากขออนุญาตเพิ่มเติมการให้บริการดาวเทียมดวงที่ 9 ภายใต้ใบอนุญาตที่ได้รับอยู่ ทำให้ดาวเทียมดวงใหม่มีความเสี่ยงไม่สอดคล้องกับแผนการลงทุน



http://www.naewna.com/business/197079

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.