21 กุมภาพันธ์ 2559 ประชุม กสท. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ช่องไทยทีวี และช่องโลก้า หรือเอ็มวีทีวีแฟมิลี่ ของบริษัท ไทยทีวี จำกัด กรณีเพิกเฉยไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จำนวน 1,634.4 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี 2% ของรายได้ของปี 2557-2558

ประเด็นหลัก



นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการแทนรองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสท. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ช่องไทยทีวี และช่องโลก้า หรือเอ็มวีทีวีแฟมิลี่ ของบริษัท ไทยทีวี จำกัด กรณีเพิกเฉยไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จำนวน 1,634.4 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี 2% ของรายได้ของปี 2557-2558 โดยก่อนหน้านี้ กสท.มีมาตรการพักใช้ใบอนุญาต 30 วัน มาแล้ว 3 ครั้ง โดยได้ครบกำหนดการพักใช้ใบอนุญาตครั้งสุดท้ายในวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่บริษัทดังกล่าวก็ยังเพิกเฉยไม่ชำระ




__________________________________________





กสท.เพิกถอน 2 ช่องทีวีดิจิตอล “เจ๊ติ๋ม” บี้จ่ายเงินค้างพร้อมค่าปรับใน 30 วัน

กสท.ลงมติเพิกถอนใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ของเจ๊ติ๋ม โดยให้เวลาจ่ายเงินภายใน 30 วัน หากยังเพิกเฉยพร้อมยึดแบงก์การันตีจากแบงก์กรุงเทพ ภายใน 30 วัน ขณะเดียวกัน จะส่งหนังสือแจ้งไทยพีบีเอสให้ตัดสัญญาณออกอากาศ และห้ามเคเบิล-ดาวเทียมเผยแพร่ 2 ช่องดังกล่าว

นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการแทนรองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสท. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ช่องไทยทีวี และช่องโลก้า หรือเอ็มวีทีวีแฟมิลี่ ของบริษัท ไทยทีวี จำกัด กรณีเพิกเฉยไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จำนวน 1,634.4 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี 2% ของรายได้ของปี 2557-2558 โดยก่อนหน้านี้ กสท.มีมาตรการพักใช้ใบอนุญาต 30 วัน มาแล้ว 3 ครั้ง โดยได้ครบกำหนดการพักใช้ใบอนุญาตครั้งสุดท้ายในวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่บริษัทดังกล่าวก็ยังเพิกเฉยไม่ชำระ

ดังนั้น ภายในไม่เกินวันพรุ่งนี้ (9 ก.พ.) สำนักงาน กสทช.จะส่งหนังสือแจ้งไทยทีวีให้ชำระเงินที่ค้างทั้งหมดรวมถึงค่าปรับ 7.5% ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.2558 ประมาณ 14 ล้านบาท ด้วย โดยจะให้เวลา 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ

แต่หากไทยทีวี ยังไม่ชำระจำนวนเงินที่ค้างอยู่ สำนักงาน กสทช.จะส่งหนังสือไปยังธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารที่ออกหนังสือรับรองการค้ำประกันเงินกู้ (แบงก์การันตี) ให้แก่ไทยทีวีมาชำระเงินแทนทั้งหมด ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วันในการยึดแบงก์การันตี

นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช.จะต้องส่งหนังสือไปถึงสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพื่อให้ยุติการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล ต่อไทยทีวีด้วย รวมถึงส่งหนังสือถึงช่องเคเบิล และดาวเทียมให้งดออกอากาศ 2 ช่องดังกล่าวด้วย ซึ่งหลังจากนี้ จะมีทีมงานคอยตรวจสอบด้วยว่า 2 ช่องดังกล่าวถูกถอดออกจากผังรายการหรือไม่ ส่วนค่าเช่าโครงข่าย ไทยพีบีเอส ต้องดำเนินการทวงถามหนี้ต่อไทยทีวีเอง

นายสมบัติ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องบริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงการดำเนินการโดยจะนำช่องทั้งหมดที่ออกอากาศบนกล่องจีเอ็มเอ็มแซท ไปออกอากาศบนกล่องซีทีเอชนั้น ซึ่งทางคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กสท.ได้นำเสนอความเห็นต่อกรรมการ กสท.ว่า จีเอ็มเอ็มบี ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนที่ใช้บริการล่วงหน้าไม่นานนั้น ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า การกระทำของจีเอ็มเอ็มแซท ถือเป็นการกระทำที่เอาเปรียบผู้บริโภค จึงมีคำสั่งให้ระงับการกระทำที่เอาเปรียบดังกล่าว หากฝ่าฝืนจะมีการกำหนดค่าปรับทางปกครอง โดยจะปรับ 2 ล้านบาท และปรับรายวันอีกวันละ 1 แสนบาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนคำสั่ง ทั้งนี้ การกระทำของจีเอ็มเอ็มบี ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงบริการซึ่งต้องแจ้งต่อผู้ใช้บริการล่วงหน้า 30 วัน ทั้งนี้ ให้ทั้ง 2 บริษัทส่งแผนเยียวยาผู้ใช้บริการกลับมาที่ กสท.

http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9590000014011&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=MGR+Morning+Brief+9-2-59&utm_campaign=20160208_m129702132_MGR+Morning+Brief+9-2-59&utm_term=_E0_B8_81_E0_B8_AA_E0_B8_97__E0_B9_80_E0_B8_9E_E0_B8_B4_E0_B8_81_E0_B8_96_E0_B8_AD_E0_B8_99+2+_E0_B8