14 มีนาคม 2559 กสทช.พีระพงษ์ ระบุ กรณีไล่บี้สื่อติดคดีเจ้าของธุรกิจไม่ควรเป็นสื่อ เรื่องนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อไหน แต่เกี่ยวข้องต่อจริยธรรม และจรรยาบรรณ ดังนั้น สื่อที่มีคดีก็ไม่ควรทำหน้าที่จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ประเด็นหลัก
“เรื่องนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อไหน แต่เกี่ยวข้องต่อจริยธรรม และจรรยาบรรณ ดังนั้น สื่อที่มีคดีก็ไม่ควรทำหน้าที่จนกว่าคดีจะสิ้นสุด'
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวต่อว่า เรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณถือเป็นเรื่องใหม่ที่ กสทช.ไม่เคยเจอ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจไม่ควรเป็นสื่อเองด้วย เพราะสามารถพูดสนับสนุนสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งได้ ที่สำคัญไม่มีสื่อสากลที่ไหนทำกัน คณะอนุกรรมการฯ จึงต้องทำงานร่วมกับองค์กรวิชาชีพสื่อเพื่อสร้างหลักเกณฑ์ หรือประกาศเพื่อควบคุมสื่อ เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีหลักเกณฑ์ใดๆ มาควบคุมอย่างชัดเจน ส่วนจะเห็นเป็นร่างประกาศเมื่อไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ คงต้องใช้เวลา และต้องนำเรื่องเสนอที่ประชุม กสท.ก่อนว่าจะมีมติเป็นในทิศทางใด
_______________________________________
กสทช.ไล่บี้สื่อติดคดีเจ้าของธุรกิจไม่ควรเป็นสื่อ
กสทช.ไล่บี้สื่อติดคดีห้ามเจ้าของธุรกิจทำหน้าที่สื่อ หลังช่อง 3 สั่ง “สรยุทธ” ยุติบทบาทสื่อ ชี้สื่อก็เหมือนตำรวจแม้ไม่ผิดกฎหมายแต่ต้องมีจริยธรรม ยอมรับเป็นเรื่องใหม่ที่ กสทช.ไม่เคยทำ เตรียมหารือองค์กรสื่อประกาศหลักเกณฑ์ด้านจริยธรรม ชงเข้าบอร์ด กสท.
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ (คนขวาสุด) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับผังรายการและเนื้อหารายการ ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. คณะอนุกรรมการฯ ได้เชิญผู้บริหารจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มาชี้แจงกรณี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าว และกรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่ส้ม ร่วมกับพวกกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิด กรณีใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลาจากบริษัท ไร่ส้ม ทำให้ อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท แต่ยังคงทำหน้าที่สื่อมวลชนรายงานข่าวอยู่ เพื่อหารือร่วมกัน แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้บริหารช่อง 3 ไม่ได้มา แต่มีตัวแทนจากช่อง 3 ซึ่งได้นัดมาชี้แจงเรื่องอื่นได้มาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ตัวแทนช่อง 3 ให้เหตุผลว่า เนื่องจาก นายสรยุทธ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของทางช่อง 3 เป็นเพียงผู้ผลิตรายการให้ ทำให้ใน 2 วันแรกหลังมีคำพิพากษาของศาล จึงยังจัดรายการอยู่ และคิดว่าคดียังไม่สิ้นสุดจึงไม่น่ามีปัญหา ประกอบกับทางช่อง 3 กับ นายสรยุทธ ทำงานกันมานานดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว แต่หลังจากนั้น ทางช่อง 3 จึงได้เรียกนายสรยุทธ มาพูดคุย และขอให้ยุติบทบาทการทำหน้าที่สื่อไปก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ทางคณะอนุกรรมการฯ จึงไม่สานต่อ และไม่ต้องการถามเหตุผลว่าเพราะอะไร โดยถือว่าเรื่องนี้จบแล้ว แม้ว่าช่อง 3 ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ช้า แต่ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว
อย่างไรก็ตาม กรณีของนายสรยุทธ จะกลายเป็นกรณีตัวอย่างที่คณะอนุกรรมการฯ ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องในการควบคุมสื่ออื่นด้วย เพราะที่ประชุมมีมติเห็นว่า สื่อก็เหมือนกับตำรวจ แม้ว่ากฎหมายจะระบุไว้ว่าคดียังไม่สิ้นสุดผู้ต้องหาถือเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม เพราะหน่วยงานตำรวจก็สั่งพักงานตำรวจ เพียงแค่ถูกกล่าวหา แม้ว่าคดีจะยังไม่สิ้นสุด สื่อก็เช่นกันถึงจะไม่ใช่ผู้ที่ถือปืน แต่ก็ต้องมีจริยธรรม สื่อเป็นผู้มีอิทธิพล สื่อสามารถเลือกข่าวได้ จึงควรจะมีมาตรฐานเทียบเคียงกับตำรวจ ดังนั้น ช่องซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตจาก กสทช.ก็ต้องรับผิดชอบ
“เรื่องนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อไหน แต่เกี่ยวข้องต่อจริยธรรม และจรรยาบรรณ ดังนั้น สื่อที่มีคดีก็ไม่ควรทำหน้าที่จนกว่าคดีจะสิ้นสุด'
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวต่อว่า เรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณถือเป็นเรื่องใหม่ที่ กสทช.ไม่เคยเจอ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจไม่ควรเป็นสื่อเองด้วย เพราะสามารถพูดสนับสนุนสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งได้ ที่สำคัญไม่มีสื่อสากลที่ไหนทำกัน คณะอนุกรรมการฯ จึงต้องทำงานร่วมกับองค์กรวิชาชีพสื่อเพื่อสร้างหลักเกณฑ์ หรือประกาศเพื่อควบคุมสื่อ เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีหลักเกณฑ์ใดๆ มาควบคุมอย่างชัดเจน ส่วนจะเห็นเป็นร่างประกาศเมื่อไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ คงต้องใช้เวลา และต้องนำเรื่องเสนอที่ประชุม กสท.ก่อนว่าจะมีมติเป็นในทิศทางใด
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้เชิญ นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ปฏิบัติการแทนรักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด มาหารือในเวลา 14.30 น.ที่หอประชุมชั้น 1 กสทช. แต่เมื่อถึงเวลานายสุรินทร์ ไม่ได้เดินทางมา มีเพียง นางนิมะ ราชิดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และนางอรุโณชา ภาณุพันธุ์ ผู้จัดละคร ที่เดินทางมาชี้แจงเรื่อง ละคร กำไลมาศ อยู่แล้ว ทางคณะอนุกรรมการฯ จึงได้สอบถามเรื่องนายสรยุทธ กับตัวแทนดังกล่าวแทน
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9590000024225&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=MGR+Morning+Brief+8-3-59&utm_campaign=20160307_m130132605_MGR+Morning+Brief+8-3-59&utm_term=_E0_B8_81_E0_B8_AA_E0_B8_97_E0_B8_8A__E0_B9_84_E0_B8_A5_E0_B9_88_E0_B8_9A_E0_B8_B5_E0_B9_89_E0_B8_AA
ไม่มีความคิดเห็น: