Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 พฤษภาคม 2559 หัวเว่ย กล่าวว่าหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งทีมงานขึ้นมาทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภายหลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ต้องการให้หัวเว่ยเข้ามาช่วยในการพัฒนาบุคลากร

ประเด็นหลัก






ด้าน นายวัง อี้ ฝาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งทีมงานขึ้นมาทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภายหลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ต้องการให้หัวเว่ยเข้ามาช่วยในการพัฒนาบุคลากร โดยหัวเว่ยพร้อมให้การสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลและการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางไอซีทีภูมิภาค โดยที่ผ่านมามีการเจรจาเข้าไปสนับสนุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งสมาร์ทซิตีหรือเซฟซิตี




_____________________________________________




จีบ‘หัวเว่ย’เป็นพาร์ตเนอร์ไทย ‘สมคิด’สั่งไอซีทีเซ็น MOU ต่อจิ๊กซอว์เศรษฐกิจดิจิตอล


“สมคิด” กระซิบ “อุตตม” จีบ”หัวเว่ย” เป็นพาร์ตเนอร์ประเทศไทย ร่วมพัฒนาดิจิตอลอีโคโนมี เล็งเซ็นเอ็มโอยูร่วมมือพัฒนาบุคลากรภายในสิ้นเดือนนี้ ล่าสุดยักษ์ใหญ่แดนมังกร ทุ่มกว่า 420 ล้าน ตั้ง สนง.ใหญ่ภูมิภาคในไทย หวังดันไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่ารัฐบาล เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลจริงจัง โดยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 หมื่นล้านบาท สร้างเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไปครอบคลุมทุกหมู่บ้าน และ มีการลงทุนสร้างเกตเวย์ระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวแรก ส่วนก้าวที่ 2 คือ การสร้างคลัสเตอร์ อุตสาหกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอล อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการคนเดียวได้ จำเป็นต้องดึงเอกชน ทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเป็นพันธมิตร หรือ พาร์ตเนอร์

ล่าสุดได้มอบหมายให้ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ไอซีที เจรจาดึง “หัวเว่ย เทคโนโลยี” เข้ามาร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับรัฐบาล เพื่อร่วมกันพัฒนาดิจิตอลอีโคโนมี ซึ่งโครงการแรกที่สนใจคือการพัฒนาคน Seeds For The Future ที่มอบหมายให้รัฐมนตรีไอซีที เซ็นเอ็มโอยูกับหัวเว่ยและสถาบันการศึกษา ในการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับกับดิจิตอลอีโคโนมี ภายในสิ้นเดือนนี้

ผมได้กระซิบ รมว.ไอซีที ให้ดึงหัวเว่ยมาเป็นพาร์ตเนอร์ประเทศไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลให้ได้ เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีการลงทุนอาร์แอนด์ดี (วิจัยและพัฒนา) สัดส่วน 1 ใน 6 ของรายได้ทั้งหมด ครึ่งหนึ่งเป็นบุคลากรเป็นวิศวะและนักวิจัย ซึ่งเชื่อมั่นว่าหัวเว่ยจะก้าวไปสู่บริษัทชั้นนำของโลกอย่างรวดเร็ว


ด้านนายเดวิด ซุน ประธาน บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ฯ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า หัวเว่ยให้ความสำคัญในการลงทุนในไทยต่อเนื่อง โดยมองว่าไทยมีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ล่าสุดได้มีการลงทุนราว 420 ล้านบาท จัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคขึ้นมาในไทย ดูแล สำนักงานสาขาในอินเดีย เวียดนาม พม่า บังกลาเทศ ลาว กัมพูชา เนปาล ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า อีกด้วย

พร้อมทั้งเปิดตัวศูนย์วัตกรรมและการเรียนรู้ หรือ ซีเอสไอซี (CSIC :Customer Solution Innovation and Intergration Experience Center) เพื่อใช้เป็นศูนย์จัดแสดงเทคโนโลยี ให้กับผู้ที่สนใจ ลูกค้า นักลงทุน ได้เข้ามาศึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้กัน เป็นโอกาสที่ดีที่จะให้โอเปอเรเตอร์ในภูมิภาคนี้ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนกัน

“สาเหตุที่เลือกลงทุนตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคขึ้นมาในไทย เพราะมองว่ามีความมั่นคงในเศรษฐกิจและทางการเมือง อีกทั้งวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลที่ชัดเจน และการเป็นศูนย์กลางด้านไอซีทีในภูมิภาคอาเซียน และยังเป็นทำเลที่ดีในการเป็นประตูสู่ตลาดภูมิภาค ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับประโยชน์จากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศในไทยของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน”

ด้าน นายวัง อี้ ฝาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งทีมงานขึ้นมาทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภายหลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ต้องการให้หัวเว่ยเข้ามาช่วยในการพัฒนาบุคลากร โดยหัวเว่ยพร้อมให้การสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลและการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางไอซีทีภูมิภาค โดยที่ผ่านมามีการเจรจาเข้าไปสนับสนุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งสมาร์ทซิตีหรือเซฟซิตี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,157 วันที่ 15 – 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

http://www.thansettakij.com/2016/05/16/52565

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.