30 มิถุนายน 2559 ARiP ระบุ "คอมมาร์ต จอย" ครั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายรวม 2,600 ล้านบาท น้อยกว่าครั้งที่จัดเมื่อต้นปีที่ทำได้ 2,800 ล้านบาท เพราะไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ ประกอบกับอยู่ในช่วงมรสุมทำให้การเดินทางมางานค่อนข้างลำบาก
ประเด็หลัก
ด้าน นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี เปิดเผยว่า งาน "คอมมาร์ต จอย" ครั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายรวม 2,600 ล้านบาท น้อยกว่าครั้งที่จัดเมื่อต้นปีที่ทำได้ 2,800 ล้านบาท เพราะไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ ประกอบกับอยู่ในช่วงมรสุมทำให้การเดินทางมางานค่อนข้างลำบาก แต่ผู้บริโภคที่มาซื้อจะเป็นกลุ่มที่ซื้อคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องที่สอง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละด้าน เช่น เล่นเกม หรือการทำงานระดับสูง ทำให้โน้ตบุ๊กราคาเกิน 30,000 บาทน่าจะขายดีที่สุด
"สัดส่วนยอดขายน่าจะมาจากโน้ตบุ๊กราคามากกว่า 30,000 บาท ถัดมาเป็นคอมพิวเตอร์ประกอบ และออลอินวัน สุดท้ายคือสมาร์ทโฟนและแท็บเลต เรายังได้รับความร่วมมือจากร้านค้าปลีกไอทีในการจัดโปรโมชั่นในงานดีกว่าข้างนอก ทำให้ผู้บริโภคที่รับรู้ข่าวสารจากออนไลน์ตั้งใจมาซื้อที่คอมมาร์ต"
สำหรับงานนี้มีผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทุกรายเข้ามาร่วมงานเช่น เอเซอร์, เลอโนโว, อาซุส, เดลล์ และเอชพี ส่วนค้าปลีกไอทีขาดเพียงกลุ่มคอมเซเว่น โปรโมชั่นที่น่าสนใจคือ เอเซอร์ รุ่น Aspire R14 ลดเหลือ 9,990 บาท จาก 15,990 บาท ซีพียูคอร์ไอ 5 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 หน้าจอ 14 นิ้ว และเอชพีในเครื่องกลุ่มเกมมิ่ง เช่น รุ่น Pavillion AK008TX เหลือ 32,990 บาท จาก 35,990 บาท ซีพียูคอร์ไอ 7 หน้าจอ 15 นิ้ว การ์ดจอ GTX950 และอาซุส รุ่น T300CHI เหลือ 29,990 บาท จาก 34,990 บาท ซีพียูคอร์เอ็ม หน้าจอ 12.5 นิ้ว
เรียกได้ว่าท้าชนกันเต็ม ๆ สำหรับงาน The EM District Beartai Best buy ที่บริษัทโชว์ไร้ขีด จำกัด จับมือกับดิ เอ็มดิสทริค (ดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์) จัดขึ้นที่ควอเทียร์ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ช่วงเวลาเดียวกับการจัดงาน "คอมมาร์ต จอย" (23-26 มิ.ย. 2559)
"พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชว์ไร้ขีด กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจจัดตรงกัน และเพิ่งรู้หลังเตรียมงานไปแล้ว 2 เดือน ถ้าเลื่อนออกไปพื้นที่จัดงานจะว่างอีกทีปลายปี ทั้งกลุ่มลูกค้าเป็นคนละกลุ่มกัน และมีเป้าหมายชัดเจนว่าไม่ได้ขายสินค้าทุกประเภทแบบท้าชนลดกระหน่ำ โดย Beartai Best Buy เน้นโชว์นวัตกรรมและโฟกัสเวทีเสวนาที่ผู้รู้จริงในแวดวงต่าง ๆ มาสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ร่วมงาน เช่น ในหัวข้อที่เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพ
"ตั้งใจจัดงานแบบเทรดโชว์ต่างประเทศที่เน้นการพูดคุยเรื่องเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการจัดโซนขายของแบบที่คนไทยชอบ เน้นเดินสบาย ๆ บูทไม่ต้องอลังการ แต่มีแรงบันดาลใจให้คนมาชมงาน เจาะกลุ่ม early adopter ที่อยากมาหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปใช้ ถือเป็นการเริ่มทดลองด้วยพื้นที่ 1,800 ตร.ม. กับ 40 บูท ใช้เงินลงทุน 2-3 ล้านบาท และแต่ละบูทคาดหวังยอดขายรวม ๆ กันราว 20 ล้านบาท ส่วนจำนวนคนที่มาชมงานจะเป็นไปตามสถิติของห้างที่อยู่ที่หมื่นคนต่อวัน เราวางแผนไว้ว่าจะจัดปีละครั้งเพื่อไม่ให้เยอะเกินไป โดยดูผลตอบรับจากปีนี้ก่อนวางแผนสำหรับปีหน้า"
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า พื้นที่ครึ่งหนึ่งของงานจัดไว้สำหรับเวทีเสวนา และการโชว์เทคโนโลยี VR ทั้งของซัมซุง, เอชทีซี, มีเทสต์บริการ 4.5G ของเอไอเอส แต่ที่คอเกมให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือกล้อง VR ของ Oculus vift สตาร์ตอัพดาวรุ่งที่กำลังได้รับการจับตามองในตลาดโลก ก่อตั้งโดย Palmer Luckey คอเกมที่พัฒนา VR ขึ้นมาเองตอนอายุ 18 ผ่านการระดมทุนใน kickstarter และพื้นที่ที่เหลือมีทั้งโซนที่ค่ายมือถือ "เอไอเอส" และเชนค้าปลีก "ทีจี โฟน" ร่วมเป็นสปอนเซอร์ มีบูทจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับเกมเมอร์, โดรน, ซิม MVNO ของแคท ทั้ง My World และ Open เป็นต้น รวมถึงการแนะนำธุรกิจสตาร์ตอัพชั้นนำ อาทิ วงใน, สต็อกเรด้า, กอล์ฟดิกก์ และโซลูชั่นธุรกิจออนไลน์ RedRank เป็นต้น
ด้าน นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี เปิดเผยว่า งาน "คอมมาร์ต จอย" ครั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายรวม 2,600 ล้านบาท น้อยกว่าครั้งที่จัดเมื่อต้นปีที่ทำได้ 2,800 ล้านบาท เพราะไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ ประกอบกับอยู่ในช่วงมรสุมทำให้การเดินทางมางานค่อนข้างลำบาก แต่ผู้บริโภคที่มาซื้อจะเป็นกลุ่มที่ซื้อคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องที่สอง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละด้าน เช่น เล่นเกม หรือการทำงานระดับสูง ทำให้โน้ตบุ๊กราคาเกิน 30,000 บาทน่าจะขายดีที่สุด
"สัดส่วนยอดขายน่าจะมาจากโน้ตบุ๊กราคามากกว่า 30,000 บาท ถัดมาเป็นคอมพิวเตอร์ประกอบ และออลอินวัน สุดท้ายคือสมาร์ทโฟนและแท็บเลต เรายังได้รับความร่วมมือจากร้านค้าปลีกไอทีในการจัดโปรโมชั่นในงานดีกว่าข้างนอก ทำให้ผู้บริโภคที่รับรู้ข่าวสารจากออนไลน์ตั้งใจมาซื้อที่คอมมาร์ต"
สำหรับงานนี้มีผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทุกรายเข้ามาร่วมงานเช่น เอเซอร์, เลอโนโว, อาซุส, เดลล์ และเอชพี ส่วนค้าปลีกไอทีขาดเพียงกลุ่มคอมเซเว่น โปรโมชั่นที่น่าสนใจคือ เอเซอร์ รุ่น Aspire R14 ลดเหลือ 9,990 บาท จาก 15,990 บาท ซีพียูคอร์ไอ 5 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 หน้าจอ 14 นิ้ว และเอชพีในเครื่องกลุ่มเกมมิ่ง เช่น รุ่น Pavillion AK008TX เหลือ 32,990 บาท จาก 35,990 บาท ซีพียูคอร์ไอ 7 หน้าจอ 15 นิ้ว การ์ดจอ GTX950 และอาซุส รุ่น T300CHI เหลือ 29,990 บาท จาก 34,990 บาท ซีพียูคอร์เอ็ม หน้าจอ 12.5 นิ้ว
นายพรชัยกล่าวต่อว่า ผู้จัดงานไอทีเทรดโชว์อยู่ระหว่างการต้องปรับตัว เพราะเมื่อผู้บริโภคเริ่มมีความรู้มากขึ้นทำให้การใช้ราคามาดึงดูดใจอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้งานมีสีสันแต่ต้องดึงคอนเทนต์ใหม่ ๆ เช่น การแข่งขันเกม หรือการแสดงนวัตกรรมเกี่ยวกับธุรกิจ โดยในเดือน พ.ย.จะมีงานคอมมาร์ตอีกครั้งในคอนเซ็ปต์ "เวิร์ก" (Work) และวางแผนดึงหน่วยงานราชการเข้ามาเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์หลัก
"คอมมาร์ต เวิร์ก เดือน พ.ย.จะมีการจำหน่ายสินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์เป็นงานหลัก ร่วมด้วยงานของหน่วยงานราชการ ขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับหน่วยงานราชการที่บริษัทเข้าไปช่วยจัดอีเวนต์ให้หลายราย คาดว่างานปลายปีจะมีทั้งเรื่องเวิร์กที่เกี่ยวกับการนำนวัตกรรมใหม่มาช่วยธุรกิจ และเวิร์กที่เกี่ยวกับผู้บริโภค"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1467008293
ไม่มีความคิดเห็น: