31 กรกฎาคม 2559 นายกรัฐมนตรี ระบุ “ยอมรับว่าหงุดหงิดกับบางเรื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรัฐวิสาหกิจ ทั้ง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ที่ยังไม่ร่วมมือ ไม่เปลี่ยนแปลง และเรียกร้องสิทธิประโยชน์ ดังนั้น ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าสร้างความขัดแย้ง หรือเดินขบวนประท้วง ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องยุบหน่วยงาน ดังนั้น ทุกองค์กรต้องร่วมมือซึ่งกันและกัน”
ประเด็นหลัก
___________________________________________________________
นายกฯ ร่ายยาวนโยบายการเตรียมความพร้อมของบุคลากรภาครัฐ รองรับการก้าวสู่ “ดิจิทัลไทยแลนด์4.0” ปรามสหภาพฯ “ทีโอที-กสทฯ” ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการปรับองค์กรให้อยู่รอด
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลภาครัฐ และเปิดการอบรมหลักสูตรรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง (รอส.) รุ่นที่ 3 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายการเตรียมความพร้อมของบุคลากรภาครัฐ เพื่อรองรับการก้าวไปสู่ Digital Thailand” ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง นโยบายการเตรียมความพร้อมของบุคลากรภาครัฐเพื่อรองรับการก้าวสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ ว่า เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ยังมีปัญหาที่ติดขัดบ้าง ดังนั้นต้องจึงต้องมีการพัฒนาบุคลากรและนำเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาประเทศ พร้อมยอมรับว่า รัฐบาลนี้ทำงานหนัก แต่ยังมีคนบางกลุ่มคอยดึงขา ทำให้งานล่าช้าไปบ้าง แต่ก็มีกำลังใจจากข้าราชการทุกคนในการทำงานต่อไป
พร้อมเห็นว่า การพัฒนาบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 โดยใช้ปัญญา ในการพัฒนาด้านต่างๆ และขอให้ช่วยกันสร้างระบบการทำงานขึ้นมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในอนาคต และยอมรับว่าคนไทยยังมีความขัดแย้งอยู่ และยังยึดติดกับสิ่งเดิม ซึ่งเทคโนโลยีช่วยในเรื่องนี้ไม่ได้ ทั้งนี้การพัฒนาทุกด้านต้องสอดคล้องแผนสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ
“ยอมรับว่าหงุดหงิดกับบางเรื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรัฐวิสาหกิจ ทั้ง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ที่ยังไม่ร่วมมือ ไม่เปลี่ยนแปลง และเรียกร้องสิทธิประโยชน์ ดังนั้น ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าสร้างความขัดแย้ง หรือเดินขบวนประท้วง ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องยุบหน่วยงาน ดังนั้น ทุกองค์กรต้องร่วมมือซึ่งกันและกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
___________________________________________________________
นายกฯ ร่ายยาวนโยบายการเตรียมความพร้อมของบุคลากรภาครัฐ รองรับการก้าวสู่ “ดิจิทัลไทยแลนด์4.0” ปรามสหภาพฯ “ทีโอที-กสทฯ” ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการปรับองค์กรให้อยู่รอด
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลภาครัฐ และเปิดการอบรมหลักสูตรรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง (รอส.) รุ่นที่ 3 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายการเตรียมความพร้อมของบุคลากรภาครัฐ เพื่อรองรับการก้าวไปสู่ Digital Thailand” ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง นโยบายการเตรียมความพร้อมของบุคลากรภาครัฐเพื่อรองรับการก้าวสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ ว่า เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ยังมีปัญหาที่ติดขัดบ้าง ดังนั้นต้องจึงต้องมีการพัฒนาบุคลากรและนำเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาประเทศ พร้อมยอมรับว่า รัฐบาลนี้ทำงานหนัก แต่ยังมีคนบางกลุ่มคอยดึงขา ทำให้งานล่าช้าไปบ้าง แต่ก็มีกำลังใจจากข้าราชการทุกคนในการทำงานต่อไป
พร้อมเห็นว่า การพัฒนาบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 โดยใช้ปัญญา ในการพัฒนาด้านต่างๆ และขอให้ช่วยกันสร้างระบบการทำงานขึ้นมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในอนาคต และยอมรับว่าคนไทยยังมีความขัดแย้งอยู่ และยังยึดติดกับสิ่งเดิม ซึ่งเทคโนโลยีช่วยในเรื่องนี้ไม่ได้ ทั้งนี้การพัฒนาทุกด้านต้องสอดคล้องแผนสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ
“ยอมรับว่าหงุดหงิดกับบางเรื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรัฐวิสาหกิจ ทั้ง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ที่ยังไม่ร่วมมือ ไม่เปลี่ยนแปลง และเรียกร้องสิทธิประโยชน์ ดังนั้น ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าสร้างความขัดแย้ง หรือเดินขบวนประท้วง ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องยุบหน่วยงาน ดังนั้น ทุกองค์กรต้องร่วมมือซึ่งกันและกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
มีรายงานแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีความเคลื่อนไหวของสหภาพฯทีโอที และกสท ที่ข้องใจมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) เรื่องการปรับโครงสร้างองค์กรให้อยู่รอด โดย คนร.ให้มีการจัดตั้งบริษัทลูก 3 บริษัทเพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินของ ทีโอที และ กสท ได้แก่ 1.บริษัทโครงข่ายบรอดแบนด์ภายในประเทศ (NBN CO)2.บริษัทโครงข่ายระหว่างประเทศ(NGN CO) 3.บริษัทศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เนต (IDC) โดยเบื้องต้นทั้ง 3 บริษัท จะเป็นรัฐวิสาหกิจ 100% ยกเว้นบริษัทไอดีซี ที่อนาคตจะต้องบริหารรูปแบบเอกชนเพื่อให้มีความคล่องตัวในการแข่งขันโดย ครน.กำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 2560
http://www.naewna.com/business/228030
ไม่มีความคิดเห็น: