09 กันยายน 2559 กสทช. กล่าวว่า สำนักงานจะตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบการกระทำของ TRUE ว่าการละเลยในหน้าที่ ตรวจสอบเอกสารนั้นจะสามารถเอาผิดได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากเงื่อนไขการลงทะบียนหรือขอซิมการ์ดใหม่ทุกครั้งจะต้องใช้หลักฐานตัวจริงประกอบ
ประเด็นหลัก
____________________________________
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2559 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เชิญ นายพันธุ์สุธี มีลือกิจ ผู้เสียหาย กรณีถูกปลอมแปลงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนจนต้องสูญเงินผ่านระบบโมบายแบงกิ้ง พร้อมด้วยนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานรัฐกิจสัมพันธ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เข้าร่วมประชุม
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงาน กสทช. กล่าวว่า สำนักงานจะตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบการกระทำของ ทรูฯ ว่าการละเลยในหน้าที่ ตรวจสอบเอกสารนั้นจะสามารถเอาผิดได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากเงื่อนไขการลงทะบียนหรือขอซิมการ์ดใหม่ทุกครั้งจะต้องใช้หลักฐานตัวจริงประกอบ
นอกจากนี้ กสทช.จะเร่งนำแนวความคิดเรื่องการสแกนลายนิ้วมือในการลงทะเบียนซิมการ์ดเข้าบรรจุในร่างประกาศ กสทช.ด้วยเพื่อเป็นทางเลือกกับประชาชนที่ต้องการความปลอดภัยที่มากกว่าการลงทะเบียน โดยแนวคิดนี้จะนำเข้าสู่ขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ จะสามารถนำมาใช้ได้ภายในปี 2559 นี้
____________________________________
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2559 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เชิญ นายพันธุ์สุธี มีลือกิจ ผู้เสียหาย กรณีถูกปลอมแปลงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนจนต้องสูญเงินผ่านระบบโมบายแบงกิ้ง พร้อมด้วยนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานรัฐกิจสัมพันธ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เข้าร่วมประชุม
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงาน กสทช. กล่าวว่า สำนักงานจะตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบการกระทำของ ทรูฯ ว่าการละเลยในหน้าที่ ตรวจสอบเอกสารนั้นจะสามารถเอาผิดได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากเงื่อนไขการลงทะบียนหรือขอซิมการ์ดใหม่ทุกครั้งจะต้องใช้หลักฐานตัวจริงประกอบ
นอกจากนี้ กสทช.จะเร่งนำแนวความคิดเรื่องการสแกนลายนิ้วมือในการลงทะเบียนซิมการ์ดเข้าบรรจุในร่างประกาศ กสทช.ด้วยเพื่อเป็นทางเลือกกับประชาชนที่ต้องการความปลอดภัยที่มากกว่าการลงทะเบียน โดยแนวคิดนี้จะนำเข้าสู่ขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ จะสามารถนำมาใช้ได้ภายในปี 2559 นี้
ด้านนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงกรณีที่มิจฉาชีพปลอมบัตรประชาชนเหยื่อไปเปลี่ยนซิมการ์ดโทรศัพท์ และนำข้อมูลส่วนตัวเปลี่ยนรหัสผ่าน ยักยอกเงิน ในบัญชีผ่านบริการธนาคารทางอินเตอร์เนตจำนวน 986,700 บาท ว่า จะหารือร่วมกับธนาคารพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปกระทำผิด และมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อความมั่นใจของผู้ใช้บริการการโอนเงินแบบ “พร้อมเพย์” เพราะระบบดังกล่าวมีความปลอดภัยสูงกว่า
http://www.naewna.com/business/231706
ไม่มีความคิดเห็น: