21 กันยายน 2559 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีหน่วยงานภายใต้สังกัด ส่วนราชการ ได้แก่ 1.สำนักงานรัฐมนตรี 2.สำนักงานปลัดกระทรวง 3.กรมอุตุนิยมวิทยา 4.สำนักงานสถิติแห่งชาติ 5.สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีส่วนรัฐวิสาหกิจ 1.บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หน่วยงานของรัฐ 1.สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 2. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 3.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (องค์การมหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าร่วมประชุมหารือเช่นเดียวกัน

ประเด็นหลัก

20 ก.ย.59 ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงฯ เรื่องการขับเคลื่อนภาระกิจกระทรวงดีอี ภายใต้ พระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 17) โดยมีหน่วยงานภายใต้สังกัด ส่วนราชการ ได้แก่ 1.สำนักงานรัฐมนตรี 2.สำนักงานปลัดกระทรวง 3.กรมอุตุนิยมวิทยา 4.สำนักงานสถิติแห่งชาติ 5.สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีส่วนรัฐวิสาหกิจ 1.บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด  หน่วยงานของรัฐ 1.สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 2. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 3.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (องค์การมหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าร่วมประชุมหารือเช่นเดียวกัน

________________________________________

20 ก.ย.59 ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงฯ เรื่องการขับเคลื่อนภาระกิจกระทรวงดีอี ภายใต้ พระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 17) โดยมีหน่วยงานภายใต้สังกัด ส่วนราชการ ได้แก่ 1.สำนักงานรัฐมนตรี 2.สำนักงานปลัดกระทรวง 3.กรมอุตุนิยมวิทยา 4.สำนักงานสถิติแห่งชาติ 5.สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีส่วนรัฐวิสาหกิจ 1.บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด  หน่วยงานของรัฐ 1.สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 2. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 3.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (องค์การมหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าร่วมประชุมหารือเช่นเดียวกัน

โดยวิสัยทัศน์กระทรวงดีอี เป็นกลไกลหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีประชาคมโลก  และมียุทธศาตร์กระทรวงดีอี ประจำปีงบประมาณ 2559-2562 โดยมียุทธศาตร์ที่ 1.พัฒนาฐานรากเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล 2.พัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล 3.พัฒนาสังคมดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน 4.ส่งเสริมและเพื่อประสิทธิภาพ ไอซีที เพื่อบริหารจัดการอุตุนิยมวิทยา และการเตือนภัยต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

พลอากาศเอก ประจิน กล่าวว่า ในการเข้ามารักษาการตำแหน่ง รมว.กระทรวงดีอีนี้ ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน มีความสำคัญในเรื่องของการโยกย้ายบุคลากร การปรับเปลี่ยนแผนงาน ปรับโครงสร้าง จะมียุทธศาสตร์ที่เปลี่ยนไป มีสำนักงานปลัดที่ปรับโครงสร้าง ส่วนสำนักงาน กำกับเพิ่มเติม คือ สำนักงานดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และส่วนที่จะปรับซิป้าคือส่วนของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล

"เรื่องการหา รมว.กระทรวงดีอีในอนาคตใครจะมาเป็น รมว.ในอนาคต ท่านนายกฯ จะใช้ดุลพินิจ ไอซีทีเกี่ยวข้องทุกมิติ ทั้งศึกษา สาธารณสุข เศรษฐกิจ การใช้งบประมาณ ให้ตรงวัตถุประสงค์ หลักๆ ต้องไปฝึกคนและโน้มน้าวหน่วยงานในสังกัด ที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นกำลังเสริม ให้ตรวจสอบแผนงาน 1 เดือน แล้วรักษาการจะทำภายใน 1 เดือนให้ดีที่สุด การโยกย้ายบุคลากร ปรับเปลี่ยนแผนงาน ขอดูงานภายในเดือน ต.ค." พลอากาศเอกประจิน กล่าว

ขณะเดียวกันในช่วงราว 1 เดือน จะเป็นในเรื่องของการประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน การติดต่อสื่อสาร การปรับสัญญา การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามสัญญา ซึ่งในขณะที่มีการรักษาการ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรจากนี้

“อะไรที่เป็นเรื่องของการบริหารต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน กันยายน และในกำหนดเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ แผนงานทั้งหมดจะต้องสอดคล้องการปฏิรูปประเทศ 2ปีที่ดำเนินการเป็นไปตามโรดแมป ปี 60 จะเป็นการขับเคลื่อน และพอเปลี่ยนกระทรวงเพิ่มหน่วยงานรองรับ ถือว่าท้าทาย ต้องฝึกคนที่มี เพิ่มหลักสูตร บรรจุคนเข้ามาเพิ่มเติม ในส่วนของคนเก่าที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ต้องพัฒนาตนเองภายใน 1-3 เดือน ส่วนงานที่ค้างต้องให้เสร็จภายในปี 60 และงานใหม่ต้องดำเนินการไปพร้อมกัน เราสามารถดำเนินการไปได้ ทั้งความมั่นคง สังคม ความเหลื่อมล้ำ ดาต้า การเพิ่มศักยภาพมนุษย์การศึกษา แรงงาน ส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ การค้า จะเปิดด้านอิเล็กทรอนิกส์ บิ๊กดาต้า รองรับทั้งในและต่างประเทศ" พลอากาศเอก ประจิน กล่าว

นอกจากนี้ นโยบายอินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน จะมี 2 ส่วน เชื่อมโยงในประเทศและระหว่างประเทศ คืองบ 1.3 หมื่น กับ 2 พันล้านบาท ถือเป็นงบกลางที่อดีต รมว.ขอ ครม.อนุมัติ ต้องการให้การใช้อินเตอร์เน็ตเสมอภาค ตั้งใจให้ใช้ภายใน 1 ปี ตั้งแต่ประกาศ ถือว่าผ่านมา 4 เดือน ก็มีความก้าวหน้า ก็มีบางส่วนที่มมันซ้อนกับ กสทช.ในโครงการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) โดยหลังจากได้ทำการให้มีการยื่นเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) ไปแล้ว ก็จะต้องมีการตั้งคณะทำงานเพื่อมา เพื่อจะพิจารณากระบวนการอีกครั้งหลังจากมีการท้วงติง ซึ่งจะต้องสามารถลงนามในสัญญาจ้างได้ภายใน 2-3 เดือน

"ปัญหาเน็ตหมู่บ้าน จากที่ทีโออาร์ ต้องดูด้วยความรอบคอบ เทคนิค ไม่ใช่เพราะคิดแล้วทำได้ทันที มีประกาศของแต่ละหน่วย วันนี้ยังไม่มีอะไรผิดพลาด ข้อทักท้วง เสนอแนะ และหารือร่วมกันกับ กสทช. ปลายสายเน้นโอเพ่น แต่ USO ไม่ใช่ ใครรับไปก็ต้องดูแลโครงข่าย แต่มิติของงบประมาณ ตอนนี้อัยการยังตรวจสอบสัญญาอยู่ได้หารือกับ กสทช."