Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

21 กันยายน 2559 iPhone 7 ตัดช่องการเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออก , ใช้งานปุ่มโฮมแบบใหม่ที่รวมเข้ากับหน้าจอ , มาพร้อมชิปเซตประมวลผล Quad-Core Apple A10 ที่เร็วกว่าเดิม, ฟีเจอร์ป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67, ลำโพงคู่ บน-ล่าง แบบสเตอริโอ

ประเด็นหลัก






สำหรับ ไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส ที่เปิดตัวมาพร้อมกับสีสันตัวเครื่องใหม่ล่าสุด สีดำ Jet Black ด้วยคุณสมบัติเครื่องที่เร็วและแรงกว่าเดิม โดยจะยังคงมีรูปลักษณ์การดีไซน์และมีขนาดใกล้เคียงกับ ไอโฟน 6 เอส และ ไอโฟน 6 เอส พลัส แต่จะบางกว่า เนื่องจากตัดช่องการเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออก , ใช้งานปุ่มโฮมแบบใหม่ที่รวมเข้ากับหน้าจอ , มาพร้อมชิปเซตประมวลผล Quad-Core Apple A10 ที่เร็วกว่าเดิม, ฟีเจอร์ป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67, ลำโพงคู่ บน-ล่าง แบบสเตอริโอ , แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และไฮไลต์สุดๆ กับกล้องดิจิตอล iSight แบบใหม่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีการประมวลผล และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นกล้องที่ดีที่สุดของไอโฟนตั้งแต่ทำมา สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 4K รวมทั้งเพิ่มความพิเศษให้กับ ไอโฟน 7 พลัส ด้วยการอัพเกรดไปใช้งานกล้องคู่ (Dual-Camera) และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการไอโอเอส 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดยแอปเปิล จะเปิดสั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) วันที่ 9 กันยายนนี้ เปิดขายในกลุ่มประเทศแรก วันที่ 16 กันยายน 2559 และคาดว่าจะวางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงปลายตุลาคม







_________________________________________



เชื่อกระแสไอโฟน7/7พลัสล้น ไอดีซี ชี้ต่อยอด/ปิดจุดอ่อน/คอมเซเว่น คาดขายไทยปลายต.ค.


เชื่อกระแสไอโฟน7/7พลัสล้น ไอดีซี ชี้ต่อยอด/ปิดจุดอ่อน/คอมเซเว่น คาดขายไทยปลายต.ค.

นักวิเคราะห์ตลาดไอที “ไอดีซี” เชื่อไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส กระแสตอบรับดี แม้ไร้เทคโนโลยี WoW ชี้เป็นการต่อยอดของเดิมให้ดีขึ้น พร้อมปิดจุดอ่อน ตอบสนองความต้องการผู้ใช้มากขึ้น มองกลุ่มไอโฟน 5 เอส ขึ้นไปเตรียมเปลี่ยนเครื่องใหม่ ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายแอปเปิลรายใหญ่ “คอมเซเว่น” คาดโปรดักต์พร้อมวางตลาดไทยปลายตุลาคม เชื่อกระแสตอบรับล้น


นายจาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัยตลาดไคลเอนด์ ดีไวซ์ และหัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท ไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการเปิดตัวไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส ของแอปเปิลนั้นแม้จะไม่ได้เปรียบรูปลักษณ์จากไอโฟน 6 และ ไอโฟน 6 เอส หรือ มีเทคโนโลยีใหม่ แต่เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดดี เนื่องจากแอปเปิล ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีเดิมที่มี ซึ่งดีอยู่แล้วให้สูงขึ้นไปอีก และปิดจุดด้อยจากรุ่นที่ผ่านมา อาทิ สามารถกันน้ำได้ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น จอเป็นเรตินา กล้องหลังเป็นกล้องคู่ และบอดี้เป็นชิ้นเดียว

“อย่างที่ไอดีซีคาดการณ์ไว้ คือ ตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ในช่วงการเปลี่ยนเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น หรือรีเพลซเมนต์ ที่ผู้ผลิตมุ่งการต่อยอดเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่ให้ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างความว้าว (WoW) หรือ ตื่นเต้นในไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากระแสตอบรับไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส เนื่องจากมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้มากขึ้น

ทั้งนี้คาดว่ากลุ่มผู้ใช้ไอโฟน ในไทยจะมีอยู่ราว 5-6 ล้านคน โดยกลุ่มผู้ซื้อไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส กลุ่มใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้ไอโฟนตั้งแต่ไอโฟน 5 ขึ้นไปถึงไอโฟน 6 ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าไอโฟนโมเดลใหม่ ที่จะเปิดตัวในปี 2560 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ และเทคโนโลยีชัดเจน อาทิ จอโค้ง”


นายจาริตร์ กล่าวต่อไปว่า การเปิดตัวไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส สร้างผลกระทบให้กับซัมซุง โน้ต 7 มากขึ้นไปอีก หลังจากที่มีข่าวลบมาออกตลอด โดยล่าสุดสำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FAA กำลังพิจารณาไม่ให้นำซัมซุง โน้ต 7 ขึ้นเครื่องบิน ภายหลังจากมีกระแสข่าวแบตเตอรี่ระเบิด ด้านนายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิลรายใหญ่ กล่าวว่าการเปิดตัวไอโฟน 7 และไอโฟน 7 เอส อย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นคาดว่าจะผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าวจะพร้อมเปิดจำหน่ายในไทยในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป โดยเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าในประเทศไทยเป็นอย่างมากดังเช่นทุกครั้ง ที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ของแอปเปิลออกมา และจะสนับสนุนให้ยอดขายไตรมาสสุดท้ายของบริษัทเติบโตขึ้น ซึ่งปกติจะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจและมั่นใจจะยังคงมีความต้องการสูงต่อเนื่องไปยัง ปี 2560 เนื่องจากสินค้าที่เข้ามามีจำกัดเมื่อเทียบกับความต้อง การซื้อที่มีอยู่มาก และมั่นใจคอมเซเว่น จะสามารถรักษาแชมป์ยอดขายแอปเปิลไทยและภูมิภาคอาเซียนได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับราคาจำหน่ายไอโฟน 7 จะเริ่มตั้งแต่รุ่น 32 กิกะไบต์ ราคาประมาณ 649 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 22,066 บาท อัตรา 34 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ, รุ่นความจุ 128 กิกะไบต์ ราคา 749 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 25,466 บาท และ รุ่นความจุ 256 กิกะไบต์ ราคา 849 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 28,866 บาท เช่นเดียวกับไอโฟน 7 พลัส ที่เริ่มตั้งแต่รุ่นความจุ 32 กิกะไบต์ ราคา 769 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 26,146 บาท, รุ่นความจุ 128 กิกะไบต์ ราคา 869 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 29,546 บาท และ รุ่นความจุ 256 GB ราคา 969 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 32,912 บาท

มีอะไรใหม่ในไอโฟน 7/ไอโฟน 7 พลัส

สำหรับ ไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส ที่เปิดตัวมาพร้อมกับสีสันตัวเครื่องใหม่ล่าสุด สีดำ Jet Black ด้วยคุณสมบัติเครื่องที่เร็วและแรงกว่าเดิม โดยจะยังคงมีรูปลักษณ์การดีไซน์และมีขนาดใกล้เคียงกับ ไอโฟน 6 เอส และ ไอโฟน 6 เอส พลัส แต่จะบางกว่า เนื่องจากตัดช่องการเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออก , ใช้งานปุ่มโฮมแบบใหม่ที่รวมเข้ากับหน้าจอ , มาพร้อมชิปเซตประมวลผล Quad-Core Apple A10 ที่เร็วกว่าเดิม, ฟีเจอร์ป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67, ลำโพงคู่ บน-ล่าง แบบสเตอริโอ , แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และไฮไลต์สุดๆ กับกล้องดิจิตอล iSight แบบใหม่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีการประมวลผล และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นกล้องที่ดีที่สุดของไอโฟนตั้งแต่ทำมา สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 4K รวมทั้งเพิ่มความพิเศษให้กับ ไอโฟน 7 พลัส ด้วยการอัพเกรดไปใช้งานกล้องคู่ (Dual-Camera) และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการไอโอเอส 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดยแอปเปิล จะเปิดสั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) วันที่ 9 กันยายนนี้ เปิดขายในกลุ่มประเทศแรก วันที่ 16 กันยายน 2559 และคาดว่าจะวางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงปลายตุลาคม




http://www.thansettakij.com/2016/09/12/95831

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.