22 ตุลาคม 2559 กสทช. ในส่วนของตัวบริษัท AIS บอร์ด กสทช. ได้มีมติเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของพนักงาน แต่หากในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีประเด็นใดที่เอไอเอส มีความเกี่ยวข้องขอให้ดำเนินกระบวนการตรวจสอบใหม่
ประเด็นหลัก
นายฐากรกล่าวว่า ได้ประชุมได้มีพิจารณาผลสรุปการสอบข้อเท็จจริง ในกรณีพนักงาน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ เอไอเอส นำข้อมูลส่วนบุคคลด้านการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของลูกค้าไปเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก โดยบอร์ด กสทช. ได้มีมติให้สำนักงาน กสทช. ไปดำเนินการร้องทุกข์แก่พนักงานเอไอเอสคนดังกล่าว ตามมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 (พ.ร.บ. กสทช.)
ทั้งนี้พ.ร.บ.ดังกล่าว ระบุว่ากรณีที่ผู้ประกอบการนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาเปิดเผย ให้ถือว่า กสทช. เป็นผู้เสียหายด้วย สามารถฟ้องผู้เสียหายได้โดยตรง โดยมีโทษกรณีกระทำผิดจำคุกไม่เกิน 2 ปี ในส่วนของตัวบริษัท เอไอเอส บอร์ด กสทช. ได้มีมติเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของพนักงาน แต่หากในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีประเด็นใดที่เอไอเอส มีความเกี่ยวข้องขอให้ดำเนินกระบวนการตรวจสอบใหม่ แต่ให้ส่งหนังสือแจ้งเตือน เอไอเอส ห้ามให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม ไปตรวจสอบมาตรการการเข้าถึงและการนำข้อมูลออกมา ทั้งในกรณีปกติ และในกรณีที่มีหมายศาลหรือหน่วยงานความมั่นคงร้องขอมา
___________________________________________________
สาเหตุที่สำนักงาน กสทช.กำหนดราคาเริ่มต้นดังกล่าว เนื่องจากในตลาดมีการตั้งราคาตั้งต้นที่ 5 ล้านบาท ซี่งราคาดังกล่าวที่ กสทช.ถือเป็นราคาที่รักษาผลประโยชน์ให้แก่รัฐ โดยการประมูลจะจัดในวันที่ 27 พ.ย. 2559 โดย กสทช.จะให้ลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.- 25 พ.ย.2559
นายฐากรกล่าวว่า ได้ประชุมได้มีพิจารณาผลสรุปการสอบข้อเท็จจริง ในกรณีพนักงาน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ เอไอเอส นำข้อมูลส่วนบุคคลด้านการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของลูกค้าไปเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก โดยบอร์ด กสทช. ได้มีมติให้สำนักงาน กสทช. ไปดำเนินการร้องทุกข์แก่พนักงานเอไอเอสคนดังกล่าว ตามมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 (พ.ร.บ. กสทช.)
ทั้งนี้พ.ร.บ.ดังกล่าว ระบุว่ากรณีที่ผู้ประกอบการนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาเปิดเผย ให้ถือว่า กสทช. เป็นผู้เสียหายด้วย สามารถฟ้องผู้เสียหายได้โดยตรง โดยมีโทษกรณีกระทำผิดจำคุกไม่เกิน 2 ปี ในส่วนของตัวบริษัท เอไอเอส บอร์ด กสทช. ได้มีมติเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของพนักงาน แต่หากในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีประเด็นใดที่เอไอเอส มีความเกี่ยวข้องขอให้ดำเนินกระบวนการตรวจสอบใหม่ แต่ให้ส่งหนังสือแจ้งเตือน เอไอเอส ห้ามให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม ไปตรวจสอบมาตรการการเข้าถึงและการนำข้อมูลออกมา ทั้งในกรณีปกติ และในกรณีที่มีหมายศาลหรือหน่วยงานความมั่นคงร้องขอมา
นายฐากรกล่าวว่า ประชุมมีมติอนุมัติโครงการการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ประเภทที่ 2 ประจำปี 2558 (ยูเอชโอ) จำนวน 75 ล้านบาท จำนวน 10 โครงการ อาทิ โครงการติดตั้งระบบไอซีที และการให้บริการอินเตอร์เนตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี ไวไฟ ในเขตพื้นที่สาธารณะของวัด สถาบันอาศรมศิลป์ ฯลฯ เพื่อคุณภาพชีวิตคนพิการ โครงการส่งเสริมการผลิตและออกอากาศรายการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลหมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว ฯลฯ และโครงการอื่นๆ
http://www.naewna.com/business/239833
ไม่มีความคิดเห็น: