Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

22 ตุลาคม 2559 RS ช่อง 8 จะเริ่มมีกำไร เนื่องจากต้นทุนการดำเนินธุรกิจค่อนข้างคงที่ หลังจากลงทุนในระยะ 3 ปีแรกแล้ว และปีนี้ผังรายการช่อง 8 สัดส่วน 80-90% ค่อนข้างนิ่งซึ่งจะส่งผลให้ในปีต่อๆ ไปสามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะทำได้ 4,500 ล้านบาท

ประเด็นหลัก








ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทคาดว่าช่อง 8 จะเริ่มมีกำไร เนื่องจากต้นทุนการดำเนินธุรกิจค่อนข้างคงที่ หลังจากลงทุนในระยะ 3 ปีแรกแล้ว และปีนี้ผังรายการช่อง 8 สัดส่วน 80-90% ค่อนข้างนิ่งซึ่งจะส่งผลให้ในปีต่อๆ ไปสามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น มีส่วนต่างระหว่างต้นทุนและรายได้ที่มากขึ้น จึงทำให้มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้วางเป้าหมายรายได้จากช่อง 8 ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท มีอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ย 3 หมื่นบาทต่อนาที เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายรายได้รวมทั้งบริษัทในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 4,500 ล้านบาท


นายสุรชัย กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับช่อง 8 โดยเฉพาะรายการข่าว เกิดจาก 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. การเลือกข่าวที่เหมาะสม 2. การนำเสนอข่าวที่มีรูปแบบแตกต่าง และ3. การใช้กลยุทธ์การตลาดมาเลือกข่าวในการนำเสนอ ซึ่งจะวิเคราะห์ว่าคนดูคือใคร สนใจเรื่องอะไร เรื่องที่นำเสนอมีประโยชน์กับคนดูมากที่สุด โดยไม่จำเป็นจะต้องนำเสนอข่าวทุกข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แต้จะนำเสนอข่าวที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการของคนดู










___________________________________________________________




ศึกเรตติ้งข่าวเช้ามันหยด ‘อาร์เอส’ดันช่อง 8 ขึ้นแท่นผู้นำกลุ่มทีวีหน้าใหม่


สงครามข่าวเช้าระอุ “อาร์เอส” ขึ้นแท่นผู้นำในกลุ่มผู้ประกอบการทีวีหน้าใหม่ มั่นใจปีหน้าเตรียมโกยกำไร หลังผ่านช่วงเวลาการลงทุนใน 3ปีแรก วาดเป้าปีนี้รายได้ทะลุ 2,000 ล้าน เดินหน้าใช้ 3 กลยุทธ์พัฒนารายการข่าวลุยธุรกิจต่อเนื่องอีก 15 ปี ด้านช่อง 3 หลัง “สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา”พักจอ รายได้ค่าโฆษณาวูบ ปรับลดเวลาผังใหม่ดึง “ผู้หญิงถึงผู้หญิง” เรียกเรตติ้งคืน

อันดับรายการข่าวภาคเช้าทีวีดิจิตอล
อันดับรายการข่าวภาคเช้าทีวีดิจิตอล
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงเป้าหมายการดำเนินธุรกิจว่า ต้องการเป็นที่ 1 สำหรับธุรกิจทีวีดิจิตอล แต่ยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ว่าจะถึงเป้าหมายเมื่อไร เพราะต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต ขณะที่รายการข่าวของช่อง 8 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี มีเรตติ้งขึ้นเป็นอันดับ 1 หากวัดในกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลรายใหม่ และมีเรตติ้งอันดับ 3 หากวัดกับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง ซึ่งเรตติ้งอันดับ 3 อยู่ห่างกับอันดับ 2 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับกลุ่มรายการข่าวของช่อง 8 ถือว่าใช้ระยะเวลาเพียง 3 ปี สามารถสร้างธุรกิจให้เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งถือว่าอยู่ในแผนกลยุทธ์หลักของบริษัท ที่วางจุดยืนของช่อง 8 ที่ชัดเจนว่าเป็นทีวีสำหรับผู้บริโภคทุกคน เป็นเพื่อนของทุกคน โดยมีการแบ่งสัดส่วนรายการที่ชัดเจน และมีความเหมาะสมทั้งรายการข่าว ละคร กีฬา และวาไรตี ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งปัจจุบันรายการข่าวของช่อง 8 คิดเป็นสัดส่วน 25-30% ของทั้งหมด และมีเนื้อหารายการตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในอนาคตบริษัทยังคงรักษาสัดส่วนรายการข่าวไว้เท่าเดิม

“เป้าหมายของช่อง 8 ต้องมีเรตติ้งที่เพิ่มสูงขึ้น และเกาะกลุ่มผู้นำธุรกิจ เพื่อแชร์เม็ดเงินโฆษณาในระดับที่ทำธุรกิจได้ดีและมีศักยภาพต่อไป มุมมองการทำช่องทีวีดิจิตอล การปั๊มเรตติ้งสูงสุด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่การดำเนินธุรกิจผลประกอบการในช่วงการลงทุนต้องรับได้ พอผ่านช่วงการลงทุนไปแล้วจะต้องมีกำไร ซึ่งช่อง 8 ประกาศชัดในช่วง 3 ปีแรก หากกำไรได้ต้องกำไร หรือขาดทุนได้ต้องไม่มาก และปีที่ 4 เป็นต้นไปซึ่งเป็นปีหน้าทุกอย่างจะต้องเป็นช่วงเวลาการเก็บเกี่ยว ซึ่งต้องมีกำไร ส่วนการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิตอลจะต้องแข่งขันไปต่อเนื่อง 15 ปี แต่ช่อง 8 จะเกาะกลุ่มผู้นำธุรกิจ”

Advertisement
ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทคาดว่าช่อง 8 จะเริ่มมีกำไร เนื่องจากต้นทุนการดำเนินธุรกิจค่อนข้างคงที่ หลังจากลงทุนในระยะ 3 ปีแรกแล้ว และปีนี้ผังรายการช่อง 8 สัดส่วน 80-90% ค่อนข้างนิ่งซึ่งจะส่งผลให้ในปีต่อๆ ไปสามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น มีส่วนต่างระหว่างต้นทุนและรายได้ที่มากขึ้น จึงทำให้มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้วางเป้าหมายรายได้จากช่อง 8 ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท มีอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ย 3 หมื่นบาทต่อนาที เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายรายได้รวมทั้งบริษัทในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 4,500 ล้านบาท

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับช่อง 8 โดยเฉพาะรายการข่าว เกิดจาก 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. การเลือกข่าวที่เหมาะสม 2. การนำเสนอข่าวที่มีรูปแบบแตกต่าง และ3. การใช้กลยุทธ์การตลาดมาเลือกข่าวในการนำเสนอ ซึ่งจะวิเคราะห์ว่าคนดูคือใคร สนใจเรื่องอะไร เรื่องที่นำเสนอมีประโยชน์กับคนดูมากที่สุด โดยไม่จำเป็นจะต้องนำเสนอข่าวทุกข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แต้จะนำเสนอข่าวที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการของคนดู

สำหรับภาวะการแข่งขันรายการข่าวเช้า นายสุรชัย กล่าวว่า ค่อนข้างรุนแรงเนื่องจากทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่องจะใช้ช่วงเวลาเช้าออกอากาศรายการข่าว ขณะที่เวลาข่าวภาคค่ำแต่ละช่องจะเลือกช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้รายการข่าวภาคเช้าจะต้องแข่งขันกันเพื่อสร้างความแตกต่าง ซึ่งในแต่ละช่องจะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ส่วนรูปแบบรายการข่าวเช้าถือว่ามีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยมีรูปแบบการนำเสนอ 3 วิธี ได้แก่ การรายงานข่าว การวิเคราะห์ข่าว และรายการคุยข่าว

นายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการเม็ดเงินโฆษณากับสื่อทีวีนั้น เชื่อว่าผู้ประกอบการและเอเยนซี่โฆษณายังคงใช้เป็นหลัก เนื่องจากสื่อแต่ละประเภทจะทำหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป แต่อาจจะมีอัตราการเติบโตที่ไม่หวือหวา ซึ่งสัดส่วนเม็ดเงิน 80% ยังคงอยู่กับช่องทีวีของกลุ่มผู้นำหลัก 5 ช่อง ส่วนที่เหลืออีก 20% จะกระจายอยู่กับช่องทีวีที่เหลือ ทำให้การแข่งขันของช่อง 8 จะเป็นการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกับกลุ่มผู้นำเป็นหลัก

ล่าสุด ช่อง 3 ได้ประกาศปรับผังรายการใหม่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ด้วยการลดเวลา รายการข่าว “เรื่องเช่าเช้านี้” ลง 45 นาที จากเดิมที่เคยออกอากาศ วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 06.00-09.30 น เหลือเวลาออกอากาศ ตั้งแต่ 06.00-8.45 น. พร้อมกับนำเอาเวลาที่ลดไปให้รายการ”ผู้หญิงถึงผู้หญิง” ที่เคยออกอากาศในช่อง 13 Family มาออกอากาศใน ช่อง 3 ออริจินัล และช่อง 33 HD แทน ขณะเดียวกันยังได้ปรับเปลี่ยนพิธีการดำเนินรายการใหม่ทั้งหมด

สำหรับสาเหตุที่มีการปรับเปลี่ยนผังเวลารายการช่วงเช้าใหม่นั้น นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ปฏิบัติการแทนรักษาการกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ขาดผู้ประกาศข่าวหลัก หรือนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ส่งผลต่อเรตติ้งของรายการหายไปถึง 25% จากเดิมเคยได้ 2 กว่า ปัจจุบันเรตติ้งเวลานี้เหลือ 1.5-1.7 กระทบไปถึงรายได้จากค่าโฆษณาลดลงถึง 30% ประกอบเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมก็ลดลง และคู่แข่งก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงทำให้ช่อง 3 ต้องตัดสินใจปรับเปลี่ยนใหม่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,200 วันที่ 13 – 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559



http://www.thansettakij.com/2016/10/17/105204

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.