Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

28 ธันวาคม 2559 คาดการณ์ว่า มีชาวจีนใช้งานไอโฟนอยู่ประมาณ 131 ล้านเครื่อง (ตัวเลขจากเมื่อปลายปี 2015) หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 16.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหนือกว่าทุกๆ บริษัทในตลาดจีน ทั้งซัมซุง และเสี่ยวหมี่

ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า มีชาวจีนใช้งานไอโฟนอยู่ประมาณ 131 ล้านเครื่อง (ตัวเลขจากเมื่อปลายปี 2015) หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 16.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหนือกว่าทุกๆ บริษัทในตลาดจีน ทั้งซัมซุง และเสี่ยวหมี่
ซึ่งจีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่แอปเปิล ฝากความหวังเอาไว้มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยตลาดที่รองลงมาอาจเป็นอินเดีย ทว่า ศักยภาพของคนอินเดียในการซื้อสมารทโฟนเครื่องละ 599 เหรียญสหรัฐ ยังทิ้งห่างชาวจีนแผ่นดินใหญ่อยู่มาก
นอกจากนี้ ในจีนยังเป็นที่ตั้งของโรงงาน Foxconn ผู้ผลิตไอโฟนรายใหญ่ที่มีพนักงานอยู่มากกว่า 1.5 ล้านคน จึงเป็นไปได้ว่า หากนโยบายของทรัมป์ มีผลต่อการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐอเมริกาจริง การผลิตไอโฟนจากโรงงานแห่งนี้ก็อาจได้รับผลกระทบด้วยก็เป็นได้
______________________________________________ หรือ “ไอโฟน” จะเป็นเหยื่อรายแรกสังเวยนโยบาย “ทรัมป์”


จากนโยบายที่นายโดนัล ทรัมป์ มหาเศรษฐี ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ได้เคยพูดเอาไว้ในช่วงหาเสียงว่า จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนขนานใหญ่ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการกล่าวหาจีนว่า เป็น “currency manipulator” ก็ได้มีการตอบโต้มาแล้วจากสื่อจีนอย่าง Global Times โดยอาจเป็นไปได้ว่า จะมีการรณรงค์ให้ชาวจีนเลิกซื้อสินค้าจากสหรัฐอเมริกา รวมถึง “ไอโฟน” สมาร์ทโฟนยี่ห้อดังด้วย
โดยสื่อของจีนอย่างหนังสือพิมพ์ Global Times ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ว่า อาจเป็นการจุดชนวนสงครามการค้าระหว่างสองประเทศขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนนั้น รัฐบาลสมัยนายโอบามา ก็เคยทำ และก็ได้รับการตอบโต้จากจีนไปแล้ว ซึ่งในครั้งนั้น เป็นสงครามที่สองประเทศต่างเสียหายทั้งคู่
อย่างไรก็ดี หากทางการสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์จริง ก็เป็นไปได้ว่า ทางการจีนจะมีการรณรงค์ให้งดซื้อสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเป็นการตอบโต้ และชื่อของไอโฟน ก็ผุดขึ้นเป็นเป็นชื่อต้นๆ ของการนำเสนอข่าวจาก Global Times ด้วย
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า มีชาวจีนใช้งานไอโฟนอยู่ประมาณ 131 ล้านเครื่อง (ตัวเลขจากเมื่อปลายปี 2015) หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 16.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหนือกว่าทุกๆ บริษัทในตลาดจีน ทั้งซัมซุง และเสี่ยวหมี่
ซึ่งจีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่แอปเปิล ฝากความหวังเอาไว้มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยตลาดที่รองลงมาอาจเป็นอินเดีย ทว่า ศักยภาพของคนอินเดียในการซื้อสมารทโฟนเครื่องละ 599 เหรียญสหรัฐ ยังทิ้งห่างชาวจีนแผ่นดินใหญ่อยู่มาก
นอกจากนี้ ในจีนยังเป็นที่ตั้งของโรงงาน Foxconn ผู้ผลิตไอโฟนรายใหญ่ที่มีพนักงานอยู่มากกว่า 1.5 ล้านคน จึงเป็นไปได้ว่า หากนโยบายของทรัมป์ มีผลต่อการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐอเมริกาจริง การผลิตไอโฟนจากโรงงานแห่งนี้ก็อาจได้รับผลกระทบด้วยก็เป็นได้

http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000114047&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=MGR+Morning+Brief+16-11-59&utm_campaign=20161115_m135526434_MGR+Morning+Brief+16-11-59&utm_term=_E0_B8_AB_E0_B8_A3_E0_B8_B7_E0_B8_AD+_E2_80_9C_E0_B9_84_E0_B8_AD_E0_B9_82_E0_B8_9F_E0_B8_99_E2_80_9D

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.