ผู้ให้บริการ Telstra ทดสอบ 5G ได้ความเร็ว 3.286Gbps บนเครื่อง hadset ซึ่งหนัก 200 กิโลกรัม
ผู้ให้บริการ Telstra ในประเทศออสเตรเลียได้เปิดศูนย์นวัตกรรม 5G เพื่อใช้ทดสอบประสิทธิภาพโครงข่ายก่อนให้บริการจริงด้วยความเร็วมากกว่า 3Gbps
ผู้ให้บริการ Telstra คาดการณ์อนาคตถึงการเปิดตัว 5G ทั่วโลกในปี 2019 ซึ่งทางเราต้องเตรียมการให้เรียบร้อยก่อนสร้างโครงข่ายจริง
ภายในศูนย์การทดลองเพื่อทดสอบ 5G ในวันจันทร์ที่ผ่านมาพบว่าโครงข่าย 5G สามารถทำความเร็วได้มากถึง 3.286Gbps และ 302 Mbps สามารถตอบสนองที่ 6 มิลลิวินาทีโดยเปรียบเทียบกับโครงข่าย4G สามารถทำความเร็วได้สูงสุดประมาณ 703Mbps /57Mbps ใช้เวลาตอบสนอง 17 มิลลิวินาที การทดสอบ 5G ในครั้งนี้ใช้ขึ้นความถี่ 26 GHz
การทดลองนี้ทำตามข้อกำหนด NSA 5G New Radio (NR) ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล 3GPP
ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตรูปแบบการให้บริการบริการ 5G จะเป็นการนำ 4G และ 5G มารวมกันเพื่อตอบสนองความต้องการขนาดใหญ่ของตลาดให้มากที่สุดซึ่งไม่ได้ให้บริการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้ให้บริการ Telstra ได้เปิดตัวอุปกรณ์ hadset เพื่อใช้ในการทดสอบโดยรุ่นแรกของ Ericsson ส่งตรงจากประเทศสวีเดนมีลักษณะ คล้ายตู้เก็บเอกสาร น้ำหนัก 200 กิโลกรัมโดยในอนาคตอุปกรณ์เหล่านี้จะมีขนาดเล็กลงมากๆเพื่อให้เหมาะสมสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นอนาคต โดยทำการทดสอบการถ่ายทอดสดวิดีโอ 360 องศา เสมือนจริงแบบ VR นอกจากนี้ยังมีการทดสอบหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลเพื่อช่วยเหลือการกู้ชีพแบบจำลองซึ่งสามารถใช้งานได้จริง
สำหรับสูตรแห่งนี้เป็นโครงการที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากกว่า 60,000,000 เหรียญออสเตรเลียซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการพัฒนาความสามารถเพื่ออัพเกรด เครือข่ายเพื่อทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่เป็นรองใคร
สำหรับแผนในการทดสอบครั้งต่อไปจะเป็นการทดสอบความสามารถของเทคโนโลยีห้าจีหมดอาคารสูงและทดสอบสภาวะโครงข่ายเมื่อใช้ในเมืองที่มีชุมชนหนาแน่น
ไม่มีความคิดเห็น: