02 มิถุนายน 2555 ( ยืดเยื้อ ไม่ฟันสะที ) อนุ กสทช. ยังไม่ฟัน CAT TRUE อีก ( ประธานอ้างต่อ.. กรรมการอีกหลายคนขาดการประชุม ) เลื่อนสป.หน้
( ยืดเยื้อ ไม่ฟันสะที ) อนุ กสทช. ยังไม่ฟัน CAT TRUE อีก ( ประธานอ้างต่อ.. กรรมการอีกหลายคนขาดการประชุม ) เลื่อนสป.หน้
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ เมื่ออนุกรรมการเสียงส่วนใหญ่ยังคงยืนยันที่จะให้คงข้อความดังกล่าวเอาไว้ ทางประธานฯจึงเสนอให้เลื่อนการพิจารณาลงมติในเรื่องนี้ออกไปอีก โดยอ้างว่ายังมีกรรมการอีกหลายคนขาดการประชุม ทั้งที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าองค์ประชุมของคณะอนุกรรมการถูกต้องและครบถ้วน ตามระเบียบอยู่แล้ว แต่ที่สุดก็ไม่สามารถทัดทานประธานอนุกรรมการได้ จึงต้องเลื่อนออกไปประชุมสัปดาห์หน้า
__________________________________________
ยื้อลงมติฟันสัญญา3จี”กสท-ทรู”
แหล่ง ข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ กสทช. เพื่อพิจารณาสัญญาธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ (3จี) ระหว่าง กสท กับกลุ่มบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด? (มหาชน) ที่มีนายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถสรุปผลการสอบสวนว่าสัญญาดังกล่าวขัดหรือละเมิดมาตรา 46 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) เพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และกสทช.ชุดใหญ่ได้? เนื่องจากประธานอนุกรรมการอ้างว่า มีกรรมการหลายคนขาดประชุมทำให้หากลงมติไปอาจไม่สมบูรณ์ จึงให้เลื่อนการลงมติออกไปก่อน
แหล่งข่าวเผยว่า ในที่ประชุมครั้งนี้ ประธานอนุกรรมการได้ขอให้นักวิชาการ ซึ่ง กสทช.เชิญมาเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ออกจากห้องประชุม โดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมติและเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องขอ ความเห็นจากนักวิชาการอีก
อย่างไรก็ตาม นายฤกษ์ยังคงมีความพยายามที่จะให้คณะทำงานตัดข้อความที่พาดพิงไปถึงบริษัท บีเอฟเคที ซึ่งเป็นผู้ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายเพื่อให้ กสท เช่าใช้ออกไป เนื่องจากเห็นว่าบริษัทเอกชนไม่มีความผิดหรือเกี่ยวพันใด ๆ กับเรื่องที่อนุกรรมการกำลังตรวจสอบอยู่ ในขณะที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าบีเอฟเคที ประกอบการโดยไม่มีใบอนุญาตจาก กสทช. เข้าข่ายประกอบกิจการโทรคมนาคมและบริหารความถี่โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงให้มีการสอบสวนและดำเนินการพิสูจน์ความจริงต่อไป
ทั้งนี้ เมื่ออนุกรรมการเสียงส่วนใหญ่ยังคงยืนยันที่จะให้คงข้อความดังกล่าวเอาไว้ ทางประธานฯจึงเสนอให้เลื่อนการพิจารณาลงมติในเรื่องนี้ออกไปอีก โดยอ้างว่ายังมีกรรมการอีกหลายคนขาดการประชุม ทั้งที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าองค์ประชุมของคณะอนุกรรมการถูกต้องและครบถ้วน ตามระเบียบอยู่แล้ว แต่ที่สุดก็ไม่สามารถทัดทานประธานอนุกรรมการได้ จึงต้องเลื่อนออกไปประชุมสัปดาห์หน้า
“การที่ประธานอนุกรรมการสั่ง ให้เลื่อนการประชุมออกไปนั้น ส่อให้เห็นได้ชัดเจนว่ามีเจตนาที่จะช่วยเหลือบริษัทเอกชนไม่ต้องรับผิด เพราะหากเป็นการพิจารณาเพื่อรักษาประโยชน์ของรัฐก็ไม่มีความจำเป็นต้อง พิจารณายืดเยื้อเช่นนี้ การกระทำของประธานดังกล่าว ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อวงการโทรคมนาคมและผู้ใช้บริการที่เฝ้ารอคอย ผลการพิจารณาว่า เป็นความพยายามในการปกป้องบริษัทเอกชนมิให้ต้องรับผิดซึ่งจะมีโทษถึงขั้น เพิกถอนใบอนุญาตรวมทั้งโทษทางอาญาหรือไม่”
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1415882
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ เมื่ออนุกรรมการเสียงส่วนใหญ่ยังคงยืนยันที่จะให้คงข้อความดังกล่าวเอาไว้ ทางประธานฯจึงเสนอให้เลื่อนการพิจารณาลงมติในเรื่องนี้ออกไปอีก โดยอ้างว่ายังมีกรรมการอีกหลายคนขาดการประชุม ทั้งที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าองค์ประชุมของคณะอนุกรรมการถูกต้องและครบถ้วน ตามระเบียบอยู่แล้ว แต่ที่สุดก็ไม่สามารถทัดทานประธานอนุกรรมการได้ จึงต้องเลื่อนออกไปประชุมสัปดาห์หน้า
__________________________________________
ยื้อลงมติฟันสัญญา3จี”กสท-ทรู”
แหล่ง ข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ กสทช. เพื่อพิจารณาสัญญาธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ (3จี) ระหว่าง กสท กับกลุ่มบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด? (มหาชน) ที่มีนายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถสรุปผลการสอบสวนว่าสัญญาดังกล่าวขัดหรือละเมิดมาตรา 46 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) เพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และกสทช.ชุดใหญ่ได้? เนื่องจากประธานอนุกรรมการอ้างว่า มีกรรมการหลายคนขาดประชุมทำให้หากลงมติไปอาจไม่สมบูรณ์ จึงให้เลื่อนการลงมติออกไปก่อน
แหล่งข่าวเผยว่า ในที่ประชุมครั้งนี้ ประธานอนุกรรมการได้ขอให้นักวิชาการ ซึ่ง กสทช.เชิญมาเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ออกจากห้องประชุม โดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมติและเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องขอ ความเห็นจากนักวิชาการอีก
อย่างไรก็ตาม นายฤกษ์ยังคงมีความพยายามที่จะให้คณะทำงานตัดข้อความที่พาดพิงไปถึงบริษัท บีเอฟเคที ซึ่งเป็นผู้ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายเพื่อให้ กสท เช่าใช้ออกไป เนื่องจากเห็นว่าบริษัทเอกชนไม่มีความผิดหรือเกี่ยวพันใด ๆ กับเรื่องที่อนุกรรมการกำลังตรวจสอบอยู่ ในขณะที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าบีเอฟเคที ประกอบการโดยไม่มีใบอนุญาตจาก กสทช. เข้าข่ายประกอบกิจการโทรคมนาคมและบริหารความถี่โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงให้มีการสอบสวนและดำเนินการพิสูจน์ความจริงต่อไป
ทั้งนี้ เมื่ออนุกรรมการเสียงส่วนใหญ่ยังคงยืนยันที่จะให้คงข้อความดังกล่าวเอาไว้ ทางประธานฯจึงเสนอให้เลื่อนการพิจารณาลงมติในเรื่องนี้ออกไปอีก โดยอ้างว่ายังมีกรรมการอีกหลายคนขาดการประชุม ทั้งที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าองค์ประชุมของคณะอนุกรรมการถูกต้องและครบถ้วน ตามระเบียบอยู่แล้ว แต่ที่สุดก็ไม่สามารถทัดทานประธานอนุกรรมการได้ จึงต้องเลื่อนออกไปประชุมสัปดาห์หน้า
“การที่ประธานอนุกรรมการสั่ง ให้เลื่อนการประชุมออกไปนั้น ส่อให้เห็นได้ชัดเจนว่ามีเจตนาที่จะช่วยเหลือบริษัทเอกชนไม่ต้องรับผิด เพราะหากเป็นการพิจารณาเพื่อรักษาประโยชน์ของรัฐก็ไม่มีความจำเป็นต้อง พิจารณายืดเยื้อเช่นนี้ การกระทำของประธานดังกล่าว ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อวงการโทรคมนาคมและผู้ใช้บริการที่เฝ้ารอคอย ผลการพิจารณาว่า เป็นความพยายามในการปกป้องบริษัทเอกชนมิให้ต้องรับผิดซึ่งจะมีโทษถึงขั้น เพิกถอนใบอนุญาตรวมทั้งโทษทางอาญาหรือไม่”
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1415882
ไม่มีความคิดเห็น: