Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

05 มิถุนายน 2555 หวั่นสหรัฐยัดไส้ อู่ตะเภา พัฒนาดาวเทียมสอดแนม หวั่นจีน-รัสเซียเข้าใจผิด ( ควบคุมเครื่องบินไร้คนขับ )

หวั่นสหรัฐยัดไส้ อู่ตะเภา พัฒนาดาวเทียมสอดแนม หวั่นจีน-รัสเซียเข้าใจผิด ( ควบคุมเครื่องบินไร้คนขับ )


ประเด็นหลัก

"การจะใช้พื้นที่สนามบินอู่ ตะเภาในการดำเนินโครงการศึกษาชั้นบรรยากาศนั้น จะต้องดูว่ามีในเอ็มโอยูหรือไม่ หรือเป็นโครงการที่เพิ่มเติมเข้ามา ที่สำคัญต้องดูว่าโครง การนี้เป็นของนาซา ห รือเป็นโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ทำผ่านนาซา หากเป็นของนาซาเองตรงนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากเป็นของกระทรวงกลาโหมสหรัฐปัญหาก็จะเยอะ และเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกำลังกังวลเนื่องจากขณะนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐเองมี โครงการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศ โดยเป็นการพัฒนากิจการดาวเทียมเพื่อควบคุมเครื่องบินไร้คนขับอาจจะทำให้เกิด ปัญหาได้ เพราะประเทศจีนและรัสเซียกำลังประท้วงโครงการนี้อยู่" นายปณิธานกล่าว

นายปณิธานกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไทยเองจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากโครงการดังกล่าวเป็นของกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ทำผ่านนาซาขึ้นมา ไทยอาจถูกชาติที่ต่อต้านสหรัฐอย่างจีนและรัสเซีย ที่ไม่พอใจโครงการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศมองว่าเราเป็นพันธมิตรของสหรัฐได้ เนื่องจากขณะนี้สหรัฐเองกำลังมองหาพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียอยู่ อีกทั้งโครงการดังกล่าวกำลังมี การแข่งขันอย่างเข้มข้น อาจเป็นการพยา ยามดึงเราเข้าไปเป็นพันธมิตรก็ได้



___________________________________________

หวั่นสหรัฐยัดไส้'อู่ตะเภา'พัฒนาดาวเทียมสอดแนม


"ปณิธาน" เตือนเปิดสนามบินอู่ตะเภาให้นาซาวิจัยชั้นบรรยากาศ ระวังเป็นโครงการยัดไส้ของเพนตากอนพัฒนาดาวเทียมสอดแนม แนะนายกฯ ตรวจสอบให้ชัดเจน หวั่นจีน-รัสเซียเข้าใจผิด อดีตเลขาฯ สมช.ชี้ต้องขจัดข้อสงสัยว่าไม่มีอะไรแอบแฝง

มีความเห็นที่น่าสนใจต่อ กรณีองค์การการบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา(นาซา) ของ สหรัฐอเมริกา ขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาของประเทศไทยในการดำเนินการโครงการศึกษาชั้น บรรยากาศ โดยนายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าทางทหาร ไทยมีบันทึกข้อตกลงร่วม (เอ็มโอยู) กับทาง ทหารสหรัฐอเมริกาอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาจะอนุญาต ให้สหรัฐสามารถใช้ฐานทัพอู่ตะเภาได้เป็นระยะๆ โดยทั่วไปไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่ทุกครั้งที่จะใช้จะต้องขออนุญาตก่อน นอกจากนี้มีกระแสข่าวลือว่า สหรัฐเข้ามาใช้เป็นฐานปฏิบัติการทำอะไรบางอย่างบ้าง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันได้



"การจะใช้พื้นที่ สนามบินอู่ตะเภาในการดำเนินโครงการศึกษาชั้นบรรยากาศนั้น จะต้องดูว่ามีในเอ็มโอยูหรือไม่ หรือเป็นโครงการที่เพิ่มเติมเข้ามา ที่สำคัญต้องดูว่าโครง การนี้เป็นของนาซา ห รือเป็นโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ทำผ่านนาซา หากเป็นของนาซาเองตรงนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากเป็นของกระทรวงกลาโหมสหรัฐปัญหาก็จะเยอะ และเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกำลังกังวลเนื่องจากขณะนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐเองมี โครงการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศ โดยเป็นการพัฒนากิจการดาวเทียมเพื่อควบคุมเครื่องบินไร้คนขับอาจจะทำให้เกิด ปัญหาได้ เพราะประเทศจีนและรัสเซียกำลังประท้วงโครงการนี้อยู่" นายปณิธานกล่าว

นายปณิธานกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไทยเองจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากโครงการดังกล่าวเป็นของกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ทำผ่านนาซาขึ้นมา ไทยอาจถูกชาติที่ต่อต้านสหรัฐอย่างจีนและรัสเซีย ที่ไม่พอใจโครงการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศมองว่าเราเป็นพันธมิตรของสหรัฐได้ เนื่องจากขณะนี้สหรัฐเองกำลังมองหาพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียอยู่ อีกทั้งโครงการดังกล่าวกำลังมี การแข่งขันอย่างเข้มข้น อาจเป็นการพยา ยามดึงเราเข้าไปเป็นพันธมิตรก็ได้

ทั้งนี้ ทราบมาว่าในวันที่ 5 มิ.ย. ทางประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐอเมริกาจะเดินทางเข้ามาพบนายกรัฐมนตรี ของไทย จึงอยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่าจะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือหรือไม่โดยอาจจะสอบถามก็ ได้ว่าโครงการดังกล่าวมีรายละเอียดอย่างไร

ด้านนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการ ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า สำหรับนาซาเองถือเป็นองค์กรหนึ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐ จึงแยกกันไม่ออก ขณะที่อู่ตะเภาเองก็เป็นจัดเป็นพื้นที่ที่มีอิทธิพลสูงต่อภาพที่ประเทศ อื่นๆมองเราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนอินเดีย ดังนั้นการที่เราจะอนุญาตให้สหรัฐใช้พื้นที่นั้น จะต้องขจัดข้อสงสัย และภารกิจดังกล่าวจะต้องไม่มีอะไรแอบแฝง

"หากการขอใช้พื้นที่อู่ ตะเภาของนาซาเป็นกิจการเพื่อประโยชน์มนุษยชาติจริงๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร อีกทั้งไทยเองก็ควรสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวัง เพราะหากเป็นกิจการทางทหารที่แอบแฝงเข้ามา เราก็อาจจะถูกตั้งคำถามจากชาติอื่นๆได้" นายถวิลกล่าว

เมื่อวันก่อน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมความมั่นคงภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ที่สิงคโปร์ ระบุว่า สหรัฐสนใจจะจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยและมนุษยธรรมประจำภูมิภาคนี้ที่สนาม บินอู่ตะเภา ซึ่งก็เห็นด้วยกับแนวคิดตั้งศูนย์เพื่อใช้งานด้านมนุษยธรรม แต่การตัดสินใจอนุมัติหรือไม่นั้นขึ้นกับรัฐบาลไทย

ซึ่งการประชุม ความมั่นคงระหว่างประเทศที่สิงคโปร์ ซึ่งปิดฉากไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มิ.ย. ลีออน พาเน็ตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ได้เข้าร่วมการประชุมด้วย โดยเขาได้เปิดเผยรายละเอียดแผนยุทธศาสตร์เอเชียแปซิฟิกของสหรัฐฉบับใหม่ที่ ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้เป็นหลัก.

ไทยรัฐ
http://www.ryt9.com/s/tpd/1417026

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.