09 ตุลาคม 2555 ข่าวค่ำ!! TECHTVTHAILAND โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 07/10/2555 By So Magawn ( โส มกร )
1.... (เกาะติดการประมูล3G) กสทช.ตัวเงินไม่สำคัญ แม้ราคาจบลงที่ 4,500 ลบ.ก็ตาม // สิ่งที่สำคัญคือดูเพียงพฤติกรรมผู้ประมูล
2.... สมาร์ทโฟนรุกคืบกลืน!!! ตลาดกล้องคอมแพควูบ17%(เจ็บมาก ระลึกในความทรงจำก็หันมาถ่ายรูปเพื่อแชร์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก )
3.... ( DTAC โดน 3G โทรออกหลุดแบบน่าเกลียด )ผลการตรวจสอบคลื่นมือถือกสทช.พบDTAC มีปัญหามากสุดกับ3GและTRUEMOVEมีปัญหามากสุด2G
(เกาะติดการประมูล3G) กสทช.ตัวเงินไม่สำคัญ แม้ราคาจบลงที่ 4,500 ลบ.ก็ตาม // สิ่งที่สำคัญคือดูเพียงพฤติกรรมผู้ประมูล
ทั้ง นี้เนื่องจากทั้ง 3 รายมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดในข้อ 8 และได้ดำเนินการตามข้อ 9 ของประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทร คมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunication -IMT) ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 โดยเฉพาะในประเด็น การไม่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่เป็นบริษัทย่อย ไม่เป็นบริษัทร่วม ไม่มีการถือหุ้นไขว้กับผู้ขอรับใบอนุญาตรายอื่นๆ ไม่เป็นผู้มีอำนาจควบคุมหรือถูกควบคุม เป็นต้น
ขณะที่หากการประมูลจบลงราคาไม่เพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท เราคงต้องมาดูพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 3 รายว่าใช้วิธีการประมูลอย่างไรมีความโปร่งหรือไหม ซึ่งหากมีความไม่โปร่งใสจริงบอร์ดกทค.ก็สามรถตัดสินอีกครั้งว่าจะประกาศผู้ ชนะการประมูลหรือไหม
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000123745
_____________________________
สมาร์ทโฟนรุกคืบกลืน!!! ตลาดกล้องคอมแพควูบ17%(เจ็บมาก ระลึกในความทรงจำก็หันมาถ่ายรูปเพื่อแชร์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก )
ประเด็นหลัก
นาย เคนจิ คุมากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า สมาร์ทโฟนมีผลกระทบต่อตลาดกล้องคอมแพค เนื่องจากการพัฒนาฟังก์ชั่น กล้องถ่ายภาพของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ สามารถทำงานได้ดีและมีความคมชัดมากกว่า 5-8 ล้านพิกเซลเทียบเท่ากล้องดิจิทัลคอมแพค รวมถึงลูกเล่นในการตกแต่งและปรับภาพในรูปแบบต่าง ๆ ที่ดึงดูดใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งในแง่การใช้งานดังกล่าวเชื่อว่าส่งผลต่อลูกค้าบางกลุ่มและใช้สมาร์ทโฟน ทดแทนกล้องคอมแพคในโอกาสต่าง ๆ อาทิ การถ่ายรูปท่องเที่ยว หรือกิจกรรมต่าง ๆ
อย่าง ไรก็ตาม เชื่อว่ากล้องคอมแพคจะยังสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ด้วยการปรับตัวเพื่อให้ สามารถรองรับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการถ่ายรูปที่เปลี่ยนไปของตลาด จากเดิมที่ถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกในความทรงจำ ก็หันมาถ่ายรูปเพื่อแชร์ในโซเชียลเน็ตเวิร์กมากขึ้น
ถล่มสงครามราคา
ทั้ง นี้ การเติบโตที่ลดลงอย่างต่อเนื่องของกล้องคอมแพคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะ เป็นกลุ่มระดับราคากลาง คือเฉลี่ยราคาตั้งแต่ 4,000-10,000 บาท ขณะที่ระดับราคาต่ำกว่า 3,000 บาทยังคงเติบโต เช่นเดียวกับระดับราคาสูงกว่า 1-1.5 หมื่นบาทขึ้นไปนั้นยังมีดีมานด์ของตลาดต่อเนื่อง
นายชินโช อิเคตะ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทิศทางของตลาดกล้องในเมืองไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมาก แม้ว่าการเข้ามาของสมาร์ทโฟน จะส่งผลต่อกล้องคอมแพค แต่ในทางกลับกัน บริษัทมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตให้กล้องมิลเลอร์เลส ซึ่งโอลิมปัสเป็นผู้นำในตลาดนี้อยู่ และรุ่นใหม่ที่เข้ามาได้เพิ่มฟีเจอร์ OI Share หรือการแบ่งปันภาพจากล้องโอลิมปัสผ่านโซเซียลมีเดียด้วยแอร์การ์ดและ Wi-Fi ซึ่งเป้าหมายคือการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กล้องมิลเลอร์เลส ด้วยการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดมิลเลอร์เลส 50% ขณะเดียวกันเชื่อว่าอีก 3-5 ปีจากนี้ตลาดกล้องมิลเลอร์เลสเมืองไทยจะเติบโตได้เท่าเทียมกับตลาดญี่ปุ่น และฮ่องกงที่มีสัดส่วนถึง 50% ของตลาดรวม
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1349760416&grpid=00&catid=00&subcatid=0000
_____________________________
( DTAC โดน 3G โทรออกหลุดแบบน่าเกลียด )ผลการตรวจสอบคลื่นมือถือกสทช.พบDTAC มีปัญหามากสุดกับ3GและTRUEMOVEมีปัญหามากสุด2G
ประเด็นหลัก
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เปิดเผยผลการตรวจสอบคุณภาพสัญญาณของโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างทาง ด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามบินสุวรรณภูมิ บนโครงข่าย 3 จีพบว่า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค สายหลุด 13 ครั้งจากจำนวนโทร 67 ครั้ง จากความแรงสัญญาณ 96.05% บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส สายหลุด 2 ครั้ง จากจำนวนโทร 65 ครั้ง ความแรงสัญญาณ 95.91% ทรูมูฟ สายหลุด 3 ครั้ง จากจำนวนโทร 66 ครั้ง ความแรงสัญญาณ 99.96% ทั้งนี้ กสทช.กำหนดมาตรฐานว่าคุณภาพการโทรต้องไม่ต่ำกว่า 10% จำนวนครั้งที่โทร
สำหรับทดสอบบนโครงข่าย 2 จีพบว่า ทรูมูฟสายหลุด 3 ครั้ง จากจำนวนโทร 75 ครั้ง ความแรงสัญญาณ 99.84% เอไอเอสและดีแทคไม่พบสายหลุดจากจำนวนโทร 75 ครั้ง และมีความแรงสัญญาณอยู่ที่ 96.4% และ 99.48%
นอกจากนี้หลังจากได้สั่งการให้สำนักงาน กสทช. นำรถตรวจสอบคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์มือถือเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับร้องจากประชาชนเกี่ยวกับคุณภาพบริการ ซึ่งผลการตรวจสอบตามเส้นทางไปกลับ สำนักงาน กสทช. ขึ้นทางด่วนไปสนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างเวลา 09.40 - 11.00 น. และ 13.00 - 16.00 น. ปรากฏว่า การโทร.บนโครงข่าย 2G ทั้งหมด 75 ครั้ง ปรากฏว่า เอไอเอส และดีแทค ไม่มีสายหลุด ส่วนทรูมูฟ สายหลุด 3 ครั้ง ขณะที่ความแรงของสัญญาณ เอไอเอส 96.4% ดีแทค 99.48% และทรูมูฟ 99.84%
ขณะเดียวกันการโทร.บนโครงข่าย 3G เอไอเอสโทร.ออก 65 ครั้ง สายหลุด 2 ครั้ง ความแรงสัญญาณ 95.91% ดีแทคโทร.ออกจำนวน 67 ครั้ง สายหลุด 13 ครั้ง ความแรงสัญญาณ 96.05% ทรูมูฟโทร.จำนวน 66 ครั้ง สายหลุด 3 ครั้ง ความแรงสัญญาณ 99.96% ทีโอที โทร.ออก 76 ครั้ง สายหลุด 6 ครั้ง ความแรงสัญญาณ 82.57% ทั้งนี้ผลการทดสอบเมื่อเทียบกับมาตรฐานกลางของ กสทช. ถือว่าทั้งหมดผ่านเกณฑ์ แต่ทางสำนักงานกสทช.จะทำหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบคุณภาพให้ทุกค่ายนำไปปรับ ปรุง เนื่องจากยังพบว่ามีปัญหาคุณภาพบริการอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความแรงของสัญญาณมากแต่ยังมีสายหลุดมากเช่นกัน ซึ่งแสดงว่าคุณภาพของสัญญาณมีปัญหาอยู่บ้าง
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000123504
http://www.naewna.com/business/25260
ไม่มีความคิดเห็น: