11 กรกฎาคม 2555 CSC บุกค้าปลีกไอที-มือถือ ผนึก"บลิสเทล"ขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 100 แห่งทั่วประเทศ
CSC บุกค้าปลีกไอที-มือถือ ผนึก"บลิสเทล"ขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 100 แห่งทั่วประเทศ
ประเด็นหลัก
นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมพิวเตอร์ ซีสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (ซีเอสซี) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโฟกัสธุรกิจใหม่โดยเลิกธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีหันมาบุกธุรกิจ ค้าปลีกอย่างจริงจัง ทั้งเริ่มรีแบรนดิ้งภาพลักษณ์ และปรับรูปแบบร้านค้าให้มีความทันสมัยและใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น รวมถึงได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กรให้คล่องตัวขึ้น ปรับปรุงงานบัญชีและการเงินให้เป็นระบบเน้นการดำเนินงานเชิงรุก จากเดิมเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่มีแผนขยายธุรกิจชัดเจน
โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 100 แห่งทั่วประเทศ จากที่มีอยู่เดิม 31 แห่ง เป็น 130 สาขา โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อการตกแต่งร้านและเช่าพื้นที่ ซึ่งการเพิ่มสาขาจะไปในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ขอนแก่น, ภูเก็ต, ลำปาง เป็นต้น และเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือเข้ามาขายในร้านควบคู่ไปกับการขาย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กด้วย
"แต่ละภาคจะมีสาขา 1 แห่งที่เป็นศูนย์กลาง และทำหน้าที่ดูแลธุรกิจทั้งในส่วนของธุรกิจไอทีและโทรศัพท์มือถือ แต่ในภาพรวมจำนวนสาขาในกรุงเทพฯจะมีมากกว่าต่างจังหวัด คิดเป็น 60% ของการขยายในครั้งนี้ โดยแต่ละสาขาจะไปอยู่ตามคอมมิวนิตี้มอลล์เป็นส่วนใหญ่เพื่อจับตลาดได้กว้าง ขึ้น"
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าไปรับผิดชอบด้านการบริหารหน้าร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ "บลิสเทล" ซึ่งมีสาขาอยู่ทั้งหมด 65 สาขา โดยจะรับหน้าที่ดูแลทั้งในแง่การจัดจำหน่าย และการสต๊อกสินค้า ซึ่งแบรนด์หลักที่จำหน่ายจะเป็นซัมซุงสำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟน และโนเกียเน้นฟีเจอร์โฟน รวมถึงอินเตอร์แบรนด์ต่าง ๆ เช่น เอชทีซี และแบล็คเบอร์รี่ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้เร่งเปลี่ยนป้ายหน้าร้านบลิสเทลมาเป็น "ซีเอสซี" แล้วกว่า 23 แห่ง ก่อนทยอยเปลี่ยนให้ครบทั้งหมด
_____________________________________________
CSCบุกค้าปลีกไอที-มือถือ ผนึก"บลิสเทล"ขยายสาขา
เปลี่ยน 360 องศา "ซีเอสซี" ปรับใหญ่เลิกธุรกิจ "ค้าส่ง" เบนเข็มบุกธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที เดินหน้า "รีแบรนดิ้ง-ปรับปรุงรูปแบบร้านให้ทันสมัย" ควักกระเป๋าลงทุนเพิ่ม 100 ล้านบาท เร่ง สปีดขยายสาขาพรึ่บเดียว 100 แห่งทั่วประเทศ ใช้วิธีโตทางลัดปรับหน้าร้าน "บลิสเทล" เป็น "ซีเอสซี" พร้อมเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือ ตั้งเป้ารายได้ปั๊มรายได้เพิ่มเท่าตัวทะลุ 3 พันล้านบาท
นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมพิวเตอร์ ซีสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (ซีเอสซี) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโฟกัสธุรกิจใหม่โดยเลิกธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีหันมาบุกธุรกิจ ค้าปลีกอย่างจริงจัง ทั้งเริ่มรีแบรนดิ้งภาพลักษณ์ และปรับรูปแบบร้านค้าให้มีความทันสมัยและใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น รวมถึงได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กรให้คล่องตัวขึ้น ปรับปรุงงานบัญชีและการเงินให้เป็นระบบเน้นการดำเนินงานเชิงรุก จากเดิมเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่มีแผนขยายธุรกิจชัดเจน
โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 100 แห่งทั่วประเทศ จากที่มีอยู่เดิม 31 แห่ง เป็น 130 สาขา โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อการตกแต่งร้านและเช่าพื้นที่ ซึ่งการเพิ่มสาขาจะไปในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ขอนแก่น, ภูเก็ต, ลำปาง เป็นต้น และเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือเข้ามาขายในร้านควบคู่ไปกับการขาย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กด้วย
"แต่ละภาคจะมีสาขา 1 แห่งที่เป็นศูนย์กลาง และทำหน้าที่ดูแลธุรกิจทั้งในส่วนของธุรกิจไอทีและโทรศัพท์มือถือ แต่ในภาพรวมจำนวนสาขาในกรุงเทพฯจะมีมากกว่าต่างจังหวัด คิดเป็น 60% ของการขยายในครั้งนี้ โดยแต่ละสาขาจะไปอยู่ตามคอมมิวนิตี้มอลล์เป็นส่วนใหญ่เพื่อจับตลาดได้กว้าง ขึ้น"
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าไปรับผิดชอบด้านการบริหารหน้าร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ "บลิสเทล" ซึ่งมีสาขาอยู่ทั้งหมด 65 สาขา โดยจะรับหน้าที่ดูแลทั้งในแง่การจัดจำหน่าย และการสต๊อกสินค้า ซึ่งแบรนด์หลักที่จำหน่ายจะเป็นซัมซุงสำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟน และโนเกียเน้นฟีเจอร์โฟน รวมถึงอินเตอร์แบรนด์
ต่าง ๆ เช่น เอชทีซี และแบล็คเบอร์รี่ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้เร่งเปลี่ยนป้ายหน้าร้านบลิสเทลมาเป็น "ซีเอสซี" แล้วกว่า 23 แห่ง ก่อนทยอยเปลี่ยนให้ครบทั้งหมด
"การเข้ามาบริหารหน้าร้านบลิสเท ลเป็นหนึ่งในแผนที่จะทำให้เราขยายหน้าร้านออกไปสู่ต่างจังหวัดได้เร็ว เพราะบลิสเทลมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งเปิดโอกาสให้เราได้เข้าไปในห้างชั้นนำของกรุงเทพฯง่ายขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องไปแย่งชิงพื้นที่ทำเลทองตามห้างต่าง ๆ ที่มีราคาแพง เพราะหลังจากลงพื้นที่สำรวจลูกค้าพบว่า ส่วนใหญ่เข้าไปซื้อมือถือในร้านมือถือมากกว่ามากซื้อในร้านขายสินค้าไอที จากที่เราเริ่มขายสมาร์ทโฟนมาตั้งแต่ ก.ค.ปีที่แล้วก็เป็นอย่างนั้น เข้ามาบริหารร้านบลิสเทลทำให้การทำตลาดไปได้ดีขึ้น"
นายพิชัยกล่าว ต่อว่า ครึ่งปีแรกมียอดขาย 1,000 ล้านบาท และตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมากว่า 90% ในแง่รายได้ แบ่งเป็นยอดขายสินค้าไอทีราว 2,300 ล้านบาท และแท็บเลตกับโทรศัพท์มือถือ 700 ล้านบาท จากปีที่แล้วมีรายได้ 1,600 ล้านบาทจากการจำหน่ายโน้ตบุ๊กเป็นหลัก
"ความแตกต่างของซีเอสซีเมื่อ เทียบกับร้านอื่น เป็นเรื่องความรู้ด้านไอทีที่น่าจะทำให้ลูกค้าเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ได้ มากกว่า เพราะเดิมเราเป็นคนทำซอฟต์แวร์และติดตั้งระบบให้องค์กร และมีความสนิทกับบริษัทไอทีเพราะเริ่มขายมาตั้งแต่ยุคแรกเมื่อมีสินค้าใหม่ หรือลดราคา เราค่อนข้างได้เปรียบกว่ารายอื่น ๆ"
ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1341898857&grpid=&catid=06&subcatid=0600
ประเด็นหลัก
นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมพิวเตอร์ ซีสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (ซีเอสซี) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโฟกัสธุรกิจใหม่โดยเลิกธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีหันมาบุกธุรกิจ ค้าปลีกอย่างจริงจัง ทั้งเริ่มรีแบรนดิ้งภาพลักษณ์ และปรับรูปแบบร้านค้าให้มีความทันสมัยและใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น รวมถึงได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กรให้คล่องตัวขึ้น ปรับปรุงงานบัญชีและการเงินให้เป็นระบบเน้นการดำเนินงานเชิงรุก จากเดิมเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่มีแผนขยายธุรกิจชัดเจน
โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 100 แห่งทั่วประเทศ จากที่มีอยู่เดิม 31 แห่ง เป็น 130 สาขา โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อการตกแต่งร้านและเช่าพื้นที่ ซึ่งการเพิ่มสาขาจะไปในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ขอนแก่น, ภูเก็ต, ลำปาง เป็นต้น และเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือเข้ามาขายในร้านควบคู่ไปกับการขาย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กด้วย
"แต่ละภาคจะมีสาขา 1 แห่งที่เป็นศูนย์กลาง และทำหน้าที่ดูแลธุรกิจทั้งในส่วนของธุรกิจไอทีและโทรศัพท์มือถือ แต่ในภาพรวมจำนวนสาขาในกรุงเทพฯจะมีมากกว่าต่างจังหวัด คิดเป็น 60% ของการขยายในครั้งนี้ โดยแต่ละสาขาจะไปอยู่ตามคอมมิวนิตี้มอลล์เป็นส่วนใหญ่เพื่อจับตลาดได้กว้าง ขึ้น"
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าไปรับผิดชอบด้านการบริหารหน้าร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ "บลิสเทล" ซึ่งมีสาขาอยู่ทั้งหมด 65 สาขา โดยจะรับหน้าที่ดูแลทั้งในแง่การจัดจำหน่าย และการสต๊อกสินค้า ซึ่งแบรนด์หลักที่จำหน่ายจะเป็นซัมซุงสำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟน และโนเกียเน้นฟีเจอร์โฟน รวมถึงอินเตอร์แบรนด์ต่าง ๆ เช่น เอชทีซี และแบล็คเบอร์รี่ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้เร่งเปลี่ยนป้ายหน้าร้านบลิสเทลมาเป็น "ซีเอสซี" แล้วกว่า 23 แห่ง ก่อนทยอยเปลี่ยนให้ครบทั้งหมด
_____________________________________________
CSCบุกค้าปลีกไอที-มือถือ ผนึก"บลิสเทล"ขยายสาขา
เปลี่ยน 360 องศา "ซีเอสซี" ปรับใหญ่เลิกธุรกิจ "ค้าส่ง" เบนเข็มบุกธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที เดินหน้า "รีแบรนดิ้ง-ปรับปรุงรูปแบบร้านให้ทันสมัย" ควักกระเป๋าลงทุนเพิ่ม 100 ล้านบาท เร่ง สปีดขยายสาขาพรึ่บเดียว 100 แห่งทั่วประเทศ ใช้วิธีโตทางลัดปรับหน้าร้าน "บลิสเทล" เป็น "ซีเอสซี" พร้อมเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือ ตั้งเป้ารายได้ปั๊มรายได้เพิ่มเท่าตัวทะลุ 3 พันล้านบาท
นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมพิวเตอร์ ซีสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (ซีเอสซี) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโฟกัสธุรกิจใหม่โดยเลิกธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีหันมาบุกธุรกิจ ค้าปลีกอย่างจริงจัง ทั้งเริ่มรีแบรนดิ้งภาพลักษณ์ และปรับรูปแบบร้านค้าให้มีความทันสมัยและใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น รวมถึงได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กรให้คล่องตัวขึ้น ปรับปรุงงานบัญชีและการเงินให้เป็นระบบเน้นการดำเนินงานเชิงรุก จากเดิมเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่มีแผนขยายธุรกิจชัดเจน
โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 100 แห่งทั่วประเทศ จากที่มีอยู่เดิม 31 แห่ง เป็น 130 สาขา โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อการตกแต่งร้านและเช่าพื้นที่ ซึ่งการเพิ่มสาขาจะไปในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ขอนแก่น, ภูเก็ต, ลำปาง เป็นต้น และเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือเข้ามาขายในร้านควบคู่ไปกับการขาย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กด้วย
"แต่ละภาคจะมีสาขา 1 แห่งที่เป็นศูนย์กลาง และทำหน้าที่ดูแลธุรกิจทั้งในส่วนของธุรกิจไอทีและโทรศัพท์มือถือ แต่ในภาพรวมจำนวนสาขาในกรุงเทพฯจะมีมากกว่าต่างจังหวัด คิดเป็น 60% ของการขยายในครั้งนี้ โดยแต่ละสาขาจะไปอยู่ตามคอมมิวนิตี้มอลล์เป็นส่วนใหญ่เพื่อจับตลาดได้กว้าง ขึ้น"
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าไปรับผิดชอบด้านการบริหารหน้าร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ "บลิสเทล" ซึ่งมีสาขาอยู่ทั้งหมด 65 สาขา โดยจะรับหน้าที่ดูแลทั้งในแง่การจัดจำหน่าย และการสต๊อกสินค้า ซึ่งแบรนด์หลักที่จำหน่ายจะเป็นซัมซุงสำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟน และโนเกียเน้นฟีเจอร์โฟน รวมถึงอินเตอร์แบรนด์
ต่าง ๆ เช่น เอชทีซี และแบล็คเบอร์รี่ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้เร่งเปลี่ยนป้ายหน้าร้านบลิสเทลมาเป็น "ซีเอสซี" แล้วกว่า 23 แห่ง ก่อนทยอยเปลี่ยนให้ครบทั้งหมด
"การเข้ามาบริหารหน้าร้านบลิสเท ลเป็นหนึ่งในแผนที่จะทำให้เราขยายหน้าร้านออกไปสู่ต่างจังหวัดได้เร็ว เพราะบลิสเทลมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งเปิดโอกาสให้เราได้เข้าไปในห้างชั้นนำของกรุงเทพฯง่ายขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องไปแย่งชิงพื้นที่ทำเลทองตามห้างต่าง ๆ ที่มีราคาแพง เพราะหลังจากลงพื้นที่สำรวจลูกค้าพบว่า ส่วนใหญ่เข้าไปซื้อมือถือในร้านมือถือมากกว่ามากซื้อในร้านขายสินค้าไอที จากที่เราเริ่มขายสมาร์ทโฟนมาตั้งแต่ ก.ค.ปีที่แล้วก็เป็นอย่างนั้น เข้ามาบริหารร้านบลิสเทลทำให้การทำตลาดไปได้ดีขึ้น"
นายพิชัยกล่าว ต่อว่า ครึ่งปีแรกมียอดขาย 1,000 ล้านบาท และตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมากว่า 90% ในแง่รายได้ แบ่งเป็นยอดขายสินค้าไอทีราว 2,300 ล้านบาท และแท็บเลตกับโทรศัพท์มือถือ 700 ล้านบาท จากปีที่แล้วมีรายได้ 1,600 ล้านบาทจากการจำหน่ายโน้ตบุ๊กเป็นหลัก
"ความแตกต่างของซีเอสซีเมื่อ เทียบกับร้านอื่น เป็นเรื่องความรู้ด้านไอทีที่น่าจะทำให้ลูกค้าเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ได้ มากกว่า เพราะเดิมเราเป็นคนทำซอฟต์แวร์และติดตั้งระบบให้องค์กร และมีความสนิทกับบริษัทไอทีเพราะเริ่มขายมาตั้งแต่ยุคแรกเมื่อมีสินค้าใหม่ หรือลดราคา เราค่อนข้างได้เปรียบกว่ารายอื่น ๆ"
ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1341898857&grpid=&catid=06&subcatid=0600
ไม่มีความคิดเห็น: