16 ธันวาคม 2554 บิ๊ก4ดาวเทียมปะทะพีเอสไอ-งัดมาตรฐานจัดเรียงช่องเลขเดียวกันชิงส่วนแบ่งตลาด
บิ๊ก4ดาวเทียมปะทะพีเอสไอ-งัดมาตรฐานจัดเรียงช่องเลขเดียวกันชิงส่วนแบ่งตลาด
ประเด็นหลัก
สำหรับรูปแบบการจัดเรียงช่อง จะยึดตาหลักเกณฑ์การจัดกลุ่ม ประกอบด้วย ฟรีทีวี, รายการข่าว,รายการเด็ก, รายการเพลง, ภาพยนตร์, ช็อปปิ้ง, วาไรตี้, กีฬา, การศึกษา, ภาครัฐ, ขายตรง, ผู้ใหญ่ และรายการต่างประเทศ ตามลำดับ ซึ่งมีกว่า 201 ช่อง โดยจะยึดตัวเลขช่องนี้ไว้ราว 6 เดือนเป็นอย่างน้อย หรือจนกว่าแผนระเบียบการจัดเรียงช่องทีวีดาวเทียมของทาง กสทช จะออกมา คาดว่าวิธีการจัดเรียงช่องของเรา จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับ กสทช ส่วนช่องใหม่ที่เพิ่มมา เบื้องต้นจะจัดลงตามหมวดนั้นๆที่ยังมีช่องว่าง หากไม่มีจะนำไปลงต่อจากช่อง 201 เป็นลำดับต่อๆกันไป
โดยในแง่เม็ด เงินโฆษณาในอุตสาหกรรมนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ โตขึ้นจากปีก่อน5% คาดว่าใน3ปีจะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นเฉลี่ย 30%ในปีหน้า ขณะที่ปัจจุบันมีการครอบครองจานซีแบนด์ที่ 7 ล้านจาน บิ๊ก4 มีส่วนแบ่ง45% ปีหน้าคาดว่าจะส่วนแบ่งเพิ่มอีก 5% หรือมีส่วนแบ่งเป็น 50% เท่าๆกันกับ พีเอสไอ ที่เป็นเจ้าตลาดในปัจจุบัน
__________________________________________________________
บิ๊ก4ดาวเทียมปะทะพีเอสไอ-งัดมาตรฐานจัดเรียงช่องเลขเดียวกันชิงส่วนแบ่งตลาด
บิ๊ก4 สร้างแกร่ง งัดมาตรฐานการจัดเรียงช่องเลขเดียวกันทั้ง4 จาน หวังมีส่วนแบ่งเท่า พีเอสไอที่50%เท่ากันในปี55 เชื่อเรียงช่องไปในทิศทางเดียวกับแผนของ กสทช. ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ฟันธงทีวีดาวเทียมเฟื่อง ปีหน้าโตร่วม30% จาก 2,500 ล้านบาท อีก3ปีแตะ 5,000 ล้านบาท ช่องรายการเกิดใหม่20 ช่อง ยอดขายจานซีแบนด์พุ่ง 1 ล้านจาน ยอดขายกล่องอีก 1.5 ล้านกล่อง
นายนิรันดร์ ตั้งพิรุฬธรรม ประธานชมรมผู้ผลิตและค้าจานดาวเทียมระบบฟรีทีวี (บิ๊ก4) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟแซท จำกัด เปิดเผยว่า ทางชมรมฯประกอบด้วย จานอินโฟแซท, จานไอเดียแซท, จานไทยแซท และจานลีโอเทค ได้ตกลงร่วมกันในการปรับมาตรฐานการจัดเรียงช่อง หรือOTA (Order to Air) เป็นตัวเลขเดียวกัน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมนี้สู่มาตรฐานในการรับชมสูงขึ้น
สำหรับรูปแบบการจัดเรียงช่อง จะยึดตาหลักเกณฑ์การจัดกลุ่ม ประกอบด้วย ฟรีทีวี, รายการข่าว,รายการเด็ก, รายการเพลง, ภาพยนตร์, ช็อปปิ้ง, วาไรตี้, กีฬา, การศึกษา, ภาครัฐ, ขายตรง, ผู้ใหญ่ และรายการต่างประเทศ ตามลำดับ ซึ่งมีกว่า 201 ช่อง โดยจะยึดตัวเลขช่องนี้ไว้ราว 6 เดือนเป็นอย่างน้อย หรือจนกว่าแผนระเบียบการจัดเรียงช่องทีวีดาวเทียมของทาง กสทช จะออกมา คาดว่าวิธีการจัดเรียงช่องของเรา จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับ กสทช ส่วนช่องใหม่ที่เพิ่มมา เบื้องต้นจะจัดลงตามหมวดนั้นๆที่ยังมีช่องว่าง หากไม่มีจะนำไปลงต่อจากช่อง 201 เป็นลำดับต่อๆกันไป
นายชาติชาย วิทยธรรมโสภณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ลีโอเทคโนโลยีแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของจาน ลีโอเทค กล่าวเสริมว่า การยกระดับการจัดเรียงช่องครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบิ๊ก4 ได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งในกลุ่มจานซีแบนด์ และกล่องรับสัญญาณ รวมถึงเป็นช่องทางสร้างความมั่นใจแก่เอเจนซี่โฆษณาที่จะมาลงโฆษณาต่อไป คาดว่าปีหน้าทางกลุ่มบิ๊ก4 จะมียอดขายกล่องเพิ่มขึ้น 1 ล้านกล่อง จากปัจจุบันที่ขายได้กว่า 5 ล้านกล่องจากความต้องการของตลาดที่ 10-12 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 400-500 บาท ส่วนตัวจานนั้น ปีหน้ามองว้าทัืงตลาดจะมีความต้องการที่ 1 ล้านจาน
อย่างไรก็ตามกล่องของบิ๊ก4 จะใช้การจัดเรียงช่องแตกต่างจากกล่องวันสกาย แต่ทั้งสองกล่องยังคงใช้ร่วมกับจานซีแบนด์ของทางบิ๊ก4ได้ทัั้งหมด โดยรูปแบบช่องที่รับชมจะขึ้นอยู่กับกล่องที่ใช้เป็นหลัก
ด้านนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของทางนีลเส็นพบว่า ในเดือนส.คที่ผ่านมา ตัวเลขรวมของการครอบครองเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมอยู่ที่ 11,008,000 ครัวเรือน คิดเป็น 50% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ คาดฝนอีก 3ปี จะเพิ่มเป็น80% หรือในปีหน้าอยู่ที่60% เพิ่มขึ้น 2 แสนครัวเรือนต่อเดือน
โดยในแง่เม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ โตขึ้นจากปีก่อน5% คาดว่าใน3ปีจะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นเฉลี่ย 30%ในปีหน้า ขณะที่ปัจจุบันมีการครอบครองจานซีแบนด์ที่ 7 ล้านจาน บิ๊ก4 มีส่วนแบ่ง45% ปีหน้าคาดว่าจะส่วนแบ่งเพิ่มอีก 5% หรือมีส่วนแบ่งเป็น 50% เท่าๆกันกับ พีเอสไอ ที่เป็นเจ้าตลาดในปัจจุบัน
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000159950
ประเด็นหลัก
สำหรับรูปแบบการจัดเรียงช่อง จะยึดตาหลักเกณฑ์การจัดกลุ่ม ประกอบด้วย ฟรีทีวี, รายการข่าว,รายการเด็ก, รายการเพลง, ภาพยนตร์, ช็อปปิ้ง, วาไรตี้, กีฬา, การศึกษา, ภาครัฐ, ขายตรง, ผู้ใหญ่ และรายการต่างประเทศ ตามลำดับ ซึ่งมีกว่า 201 ช่อง โดยจะยึดตัวเลขช่องนี้ไว้ราว 6 เดือนเป็นอย่างน้อย หรือจนกว่าแผนระเบียบการจัดเรียงช่องทีวีดาวเทียมของทาง กสทช จะออกมา คาดว่าวิธีการจัดเรียงช่องของเรา จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับ กสทช ส่วนช่องใหม่ที่เพิ่มมา เบื้องต้นจะจัดลงตามหมวดนั้นๆที่ยังมีช่องว่าง หากไม่มีจะนำไปลงต่อจากช่อง 201 เป็นลำดับต่อๆกันไป
โดยในแง่เม็ด เงินโฆษณาในอุตสาหกรรมนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ โตขึ้นจากปีก่อน5% คาดว่าใน3ปีจะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นเฉลี่ย 30%ในปีหน้า ขณะที่ปัจจุบันมีการครอบครองจานซีแบนด์ที่ 7 ล้านจาน บิ๊ก4 มีส่วนแบ่ง45% ปีหน้าคาดว่าจะส่วนแบ่งเพิ่มอีก 5% หรือมีส่วนแบ่งเป็น 50% เท่าๆกันกับ พีเอสไอ ที่เป็นเจ้าตลาดในปัจจุบัน
__________________________________________________________
บิ๊ก4ดาวเทียมปะทะพีเอสไอ-งัดมาตรฐานจัดเรียงช่องเลขเดียวกันชิงส่วนแบ่งตลาด
บิ๊ก4 สร้างแกร่ง งัดมาตรฐานการจัดเรียงช่องเลขเดียวกันทั้ง4 จาน หวังมีส่วนแบ่งเท่า พีเอสไอที่50%เท่ากันในปี55 เชื่อเรียงช่องไปในทิศทางเดียวกับแผนของ กสทช. ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ฟันธงทีวีดาวเทียมเฟื่อง ปีหน้าโตร่วม30% จาก 2,500 ล้านบาท อีก3ปีแตะ 5,000 ล้านบาท ช่องรายการเกิดใหม่20 ช่อง ยอดขายจานซีแบนด์พุ่ง 1 ล้านจาน ยอดขายกล่องอีก 1.5 ล้านกล่อง
นายนิรันดร์ ตั้งพิรุฬธรรม ประธานชมรมผู้ผลิตและค้าจานดาวเทียมระบบฟรีทีวี (บิ๊ก4) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟแซท จำกัด เปิดเผยว่า ทางชมรมฯประกอบด้วย จานอินโฟแซท, จานไอเดียแซท, จานไทยแซท และจานลีโอเทค ได้ตกลงร่วมกันในการปรับมาตรฐานการจัดเรียงช่อง หรือOTA (Order to Air) เป็นตัวเลขเดียวกัน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมนี้สู่มาตรฐานในการรับชมสูงขึ้น
สำหรับรูปแบบการจัดเรียงช่อง จะยึดตาหลักเกณฑ์การจัดกลุ่ม ประกอบด้วย ฟรีทีวี, รายการข่าว,รายการเด็ก, รายการเพลง, ภาพยนตร์, ช็อปปิ้ง, วาไรตี้, กีฬา, การศึกษา, ภาครัฐ, ขายตรง, ผู้ใหญ่ และรายการต่างประเทศ ตามลำดับ ซึ่งมีกว่า 201 ช่อง โดยจะยึดตัวเลขช่องนี้ไว้ราว 6 เดือนเป็นอย่างน้อย หรือจนกว่าแผนระเบียบการจัดเรียงช่องทีวีดาวเทียมของทาง กสทช จะออกมา คาดว่าวิธีการจัดเรียงช่องของเรา จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับ กสทช ส่วนช่องใหม่ที่เพิ่มมา เบื้องต้นจะจัดลงตามหมวดนั้นๆที่ยังมีช่องว่าง หากไม่มีจะนำไปลงต่อจากช่อง 201 เป็นลำดับต่อๆกันไป
นายชาติชาย วิทยธรรมโสภณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ลีโอเทคโนโลยีแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของจาน ลีโอเทค กล่าวเสริมว่า การยกระดับการจัดเรียงช่องครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบิ๊ก4 ได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งในกลุ่มจานซีแบนด์ และกล่องรับสัญญาณ รวมถึงเป็นช่องทางสร้างความมั่นใจแก่เอเจนซี่โฆษณาที่จะมาลงโฆษณาต่อไป คาดว่าปีหน้าทางกลุ่มบิ๊ก4 จะมียอดขายกล่องเพิ่มขึ้น 1 ล้านกล่อง จากปัจจุบันที่ขายได้กว่า 5 ล้านกล่องจากความต้องการของตลาดที่ 10-12 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 400-500 บาท ส่วนตัวจานนั้น ปีหน้ามองว้าทัืงตลาดจะมีความต้องการที่ 1 ล้านจาน
อย่างไรก็ตามกล่องของบิ๊ก4 จะใช้การจัดเรียงช่องแตกต่างจากกล่องวันสกาย แต่ทั้งสองกล่องยังคงใช้ร่วมกับจานซีแบนด์ของทางบิ๊ก4ได้ทัั้งหมด โดยรูปแบบช่องที่รับชมจะขึ้นอยู่กับกล่องที่ใช้เป็นหลัก
ด้านนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของทางนีลเส็นพบว่า ในเดือนส.คที่ผ่านมา ตัวเลขรวมของการครอบครองเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมอยู่ที่ 11,008,000 ครัวเรือน คิดเป็น 50% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ คาดฝนอีก 3ปี จะเพิ่มเป็น80% หรือในปีหน้าอยู่ที่60% เพิ่มขึ้น 2 แสนครัวเรือนต่อเดือน
โดยในแง่เม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ โตขึ้นจากปีก่อน5% คาดว่าใน3ปีจะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นเฉลี่ย 30%ในปีหน้า ขณะที่ปัจจุบันมีการครอบครองจานซีแบนด์ที่ 7 ล้านจาน บิ๊ก4 มีส่วนแบ่ง45% ปีหน้าคาดว่าจะส่วนแบ่งเพิ่มอีก 5% หรือมีส่วนแบ่งเป็น 50% เท่าๆกันกับ พีเอสไอ ที่เป็นเจ้าตลาดในปัจจุบัน
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000159950
ไม่มีความคิดเห็น: