Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

17 กรกฎาคม 2555 ( เอื้อจนรับไม่ได้จริงๆๆ ทั้งสอบ-ฟันช้า ให้เวลา มีต่อเวลาอีก ) กสทช.ต่อลมหายใจ CAT-TRUE อีก 15 วันรวม45วัน

( เอื้อจนรับไม่ได้จริงๆๆ ทั้งสอบ-ฟันช้า ให้เวลา มีต่อเวลาอีก ) กสทช.ต่อลมหายใจ CAT-TRUE อีก 15 วันรวม45วัน


ประเด็นหลัก

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เปิดเผยว่า จากที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค.ได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด ว่าอาจเข้าข่ายการหลีกเลี่ยงการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต หรืออาจกระทำการขัดต่อมาตรา 67 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม 2544 หรือไม่นั้น ทางคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาไปหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยจะขอขยายเวลาการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวออกไปอีก 15 วัน จากเดิมบอร์ด กทค.ให้พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2555 ที่ผ่านมา โดยบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้รับหนังสือแจ้งจาก กทค.อย่างเป็นทางการ เพื่อให้แก้ไขสัญญาการทำธุรกิจรูปแบบใหม่เพื่อให้บริการ 3จี ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“เหตุผลที่อาจ ต้องขอขยายเวลาการพิจารณาข้อเท็จจริงว่าบีเอฟเคทีอาจหลีกเลี่ยงการประกอบ กิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีรายละเอียดมากที่ต้องพิจารณา จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะทันตามกำหนดเวลาที่ กทค.กำหนดไว้อย่างแน่นอน” เลขาธิการ กสทช. กล่าว.





___________________________________________________




'ฐากร' ตั้งคณะทำงานสอบบีเอฟเคทีพร้อมขยายเวลาเป็น 45 วัน



สำนักงานกสทช. ตั้งคณะทำงาน ตรวจสอบ บีเอฟเคที มีความผิดตามม.67 ของพ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคมปี 2544 (ประกอบการโดยไม่มีใบอนุญาต) หรือไม่ โดยขยายเวลาจาก 30 วันเป็น 45 วัน 'ฐากร' ชี้หากบอร์ดกทค.ไม่เห็นด้วยกับผลสอบก็สามารถตั้งคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบอีกครั้งได้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่าเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานกสทช.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่ให้สำนักงานกสทช. ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฏหมายเกี่ยวกับการดำเนินการของ บีเอฟเคที ตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่บนความ ถี่ 800 MHz กับบริษัท กสท โทรคมนาคม เป็นต้นมาว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 67 พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 หรือไม่ (ประกอบการโดยไม่มีใบอนุญาต)

ทั้งนี้คณะทำงานประกอบด้วยนายองอาจ เรืองรุ่งโสม ผู้อำนวยการกลุ่มงาน (บ2) กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 1 เป็นประธาน พร้อมทั้งขอขยายเวลาดำเนินการอีก 15 วันรวมเป็น 45 วันเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช.ติดภารกิจหลายเรื่องจนอาจดำเนินการไม่ทัน โดยคณะทำงานชุดนี้จะต้องเสนอขั้นตอนการดำเนินการทางคดีอาญา หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงให้บอร์ดกทค.พิจารณาต่อไปด้วย

'หากบอร์ดกทค.ไม่เห็นด้วยกับผลสอบของคณะทำงาน ก็สามารถตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอีกครั้งก็ได้'

ส่วนกรณีที่บอร์ดกทค.มีมติเพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จำนวน 280 รุ่น จาก 27 บริษัท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยให้สำนักงาน กสทช.ได้มีการนำประกาศเรื่อง การเพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ จำนวน 280 แบบ/รุ่น ขึ้นบนเว็บไซต์กสทช.ในเบื้องต้นแล้วนั้น สำนักงานกสทช.ได้เปิดโอกาสให้บริษัทเหล่านั้นเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง

โดยสำนักงานกสทช.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งมี นางสุพินญา จำปี ผู้อำนวยการกลุ่มงาน (บ2) กลุ่มงานกฎหมายโทรคมนาคมเป็นประธานคณะทำงาน เพื่อรับเรื่องของ 27 บริษัทที่เข้ามาชี้แจงรายละเอียดว่ามีเจตนาทำเอกสารเท็จหรือไม่ ซึ่งในการยื่นเอกสารชี้แจงของบริษัทเอกชนนั้นกำหนดเวลาภายใน 90 วันตั้งแต่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป

'หลังจากเปิดโอกาสให้ทั้ง 27 บริษัทเข้ามาชี้แจงหมดแล้ว สำนักงานกสทช.จะสรุปผลทั้งหมดเสนอต่อบอร์ดกสทช.ต่อไป เพื่อพิจารณาเป็นรายๆไปว่ายังจะฟ้องร้องบริษัทใดบ้างจากกรณีดังกล่าว'

สำหรับการประชุมบอร์ดกสทช.ในวันที่ 18 ก.ค.นั้น จะมีการพิจารณาเรื่องร่างประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้ บริการเป็นการทั่วไป (Must Carry) ภายหลังเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากบอร์ดกสทช.อนุมัติ ก็จะนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปภายในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ยังมี ร่างประกาศกสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ผลิต นำเข้า จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายหรือรับติดตั้งเครื่องรับ เครื่องมือหรืออุปกรณ์สำหรับใช้รับหรือแปลงสัญญาณในการรับรายการของกิจการ กระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิก และ ร่างประกาศกสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติงานของผู้ประกอบกิจการ กระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในกรณีเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน

รวมถึงร่างประกาศกสทช.ในกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์อีก 3 ร่างที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) แล้วได้แก่ ร่างประกาศกสทช.เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการอนุญาต และการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์, ร่างประกาศกสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการสิ่งอำนวยความ สะดวกด้านกระจาย เสียงหรือโทรทัศน์ และร่างประกาศกสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการโครงข่ายกระจาย เสียงหรือโทรทัศน์

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000087834

________________________________________________



กสทช.ต่อลมหายใจ “ทรู” อีกเฮือก

กสทช. ยืดระยะเวลาการสอบสวนข้อเท็จจริง บีเอฟเคที ออกไปอีก 15 วัน จากเดิมบอร์ด กทค.ให้พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.55 ที่ผ่านมา เหตุรายละเอียดมาก...

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เปิดเผยว่า จากที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค.ได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด ว่าอาจเข้าข่ายการหลีกเลี่ยงการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต หรืออาจกระทำการขัดต่อมาตรา 67 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม 2544 หรือไม่นั้น ทางคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาไปหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยจะขอขยายเวลาการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวออกไปอีก 15 วัน จากเดิมบอร์ด กทค.ให้พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2555 ที่ผ่านมา โดยบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้รับหนังสือแจ้งจาก กทค.อย่างเป็นทางการ เพื่อให้แก้ไขสัญญาการทำธุรกิจรูปแบบใหม่เพื่อให้บริการ 3จี ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“เหตุผลที่อาจ ต้องขอขยายเวลาการพิจารณาข้อเท็จจริงว่าบีเอฟเคทีอาจหลีกเลี่ยงการประกอบ กิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีรายละเอียดมากที่ต้องพิจารณา จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะทันตามกำหนดเวลาที่ กทค.กำหนดไว้อย่างแน่นอน” เลขาธิการ กสทช. กล่าว.


ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/276784

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.