17 มกราคม 2555 เปิดเวทีสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ จี้กสทช.คุมเนื้อหาก่อนออกอากาศ
เปิดเวทีสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ จี้กสทช.คุมเนื้อหาก่อนออกอากาศ
ประเด็นหลัก
ขณะที่ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่า การดำเนินการหรือการจัดการในประเด็นต่างๆ ของ กสทช.จะสามารถขับเคลื่อนไปได้นั้น ต้องขับเคลื่อนด้วยแผนแม่บทบริหารจัดการคลื่นความถี่ แผนแม่บทโทรคมนาคมและแผนแม่บทกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดการณ์ว่า จะแล้วเสร็จปลายเดือน มี.ค.2555 พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิด เห็นต่อ 3 ร่างดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและประกาศใช้ในการดำเนินการควบคุมดูแลกิจการวิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศต่อไป
_________________________________________________________
เปิดเวทีสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ จี้กสทช.คุมเนื้อหาก่อนออกอากาศ
ผู้ ประกอบวิชาชีพสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ ตบเท้าเรียกร้อง กสทช.คุมเข้มเนื้อหาการนำเสนอผ่านสื่อ หลังพบเนื้อหาไม่เหมาะสมเผยแพร่ หลอกลวง หวั่นเป็นภัยผู้บริโภค...
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทยร่วมกับคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนา X–ray ก้าวแรก กสทช. โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้งคอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญเคเบิลทีวี สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยและมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคเข้าร่วม สัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ ความคาดหวังของผู้ประกอบวิชาชีพต่อ กสทช.
นางสุวรรณา สมบัติรักษาสุข ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่า ต้องการให้ กสทช.มีจริยธรรมที่ชัดเจนในการดำเนินงาน และการควบคุมดูแลกิจการวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมของประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น และนำความคิดเห็นที่ได้จากภาคประชาชนไปปรับปรุงแก้ไขการจัดทำร่างแผนแม่บท ต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของภาคประชาชน
ด้าน นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญเคเบิลทีวี กล่าวว่า กสทช. ควรกำหนดทิศทางและแนวนโยบายในการควบคุมดูแลเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมที่ชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อหาที่นำเสนอเนื่องจากในอนาคตจะมีช่องทีวีดังกล่าว เพิ่มขึ้นจำนวนมาก และผู้บริโภคก็เริ่มมีความนิยมรับข่าวสารจากเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมเพิ่มขึ้นด้วย สอดคล้องกับตัวแทนจากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ที่ต้องการให้ กสทช. ให้ความสำคัญต่อการควบคุมดูแลเนื้อหา และโฆษณาที่มีการนำเสนอผ่านสื่อ โดยเฉพาะวิทยุชุมชนที่พบว่า มีการโฆษณาหลอกลวงมากที่สุด ส่วนเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ก็มีการนำเสนอเนื้อหาที่ค่อนข้างไม่เหมาะสมและโฆษณาแฝงออกอากาศ อีกทั้ง บางโฆษณาที่นำเสนอออกอากาศก็เป็นสินค้าที่อาจจะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้
นาย อดิศักดิ์ ลิมปรุงพัฒนกิจ กรรมการอำนวยการ บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้งคอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สื่อโทรทัศน์ในอนาคตระหว่าง ฟรีทีวีกับ เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ไม่แตกต่างกันมาก ในมุมมองของผู้บริโภค เนื่องจากขณะนี้ความนิยมของเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อ เนื่อง เพราะสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้เท่าเทียมกัน แต่มีความหลากหลายของเนื้อหาที่มากกว่า 200 กว่าสถานีทั่วประเทศ และมองว่าการจัดสรรคลื่นความถี่โดย กสทช.ในอนาคต ก็อาจจะไม่มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจนี้มากนัก เนื่องจากยังมีช่องทางในการประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันได้
ขณะที่ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่า การดำเนินการหรือการจัดการในประเด็นต่างๆ ของ กสทช.จะสามารถขับเคลื่อนไปได้นั้น ต้องขับเคลื่อนด้วยแผนแม่บทบริหารจัดการคลื่นความถี่ แผนแม่บทโทรคมนาคมและแผนแม่บทกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดการณ์ว่า จะแล้วเสร็จปลายเดือน มี.ค.2555 พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิด เห็นต่อ 3 ร่างดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและประกาศใช้ในการดำเนินการควบคุมดูแลกิจการวิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศต่อไป
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/231287
ประเด็นหลัก
ขณะที่ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่า การดำเนินการหรือการจัดการในประเด็นต่างๆ ของ กสทช.จะสามารถขับเคลื่อนไปได้นั้น ต้องขับเคลื่อนด้วยแผนแม่บทบริหารจัดการคลื่นความถี่ แผนแม่บทโทรคมนาคมและแผนแม่บทกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดการณ์ว่า จะแล้วเสร็จปลายเดือน มี.ค.2555 พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิด เห็นต่อ 3 ร่างดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและประกาศใช้ในการดำเนินการควบคุมดูแลกิจการวิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศต่อไป
_________________________________________________________
เปิดเวทีสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ จี้กสทช.คุมเนื้อหาก่อนออกอากาศ
ผู้ ประกอบวิชาชีพสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ ตบเท้าเรียกร้อง กสทช.คุมเข้มเนื้อหาการนำเสนอผ่านสื่อ หลังพบเนื้อหาไม่เหมาะสมเผยแพร่ หลอกลวง หวั่นเป็นภัยผู้บริโภค...
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทยร่วมกับคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนา X–ray ก้าวแรก กสทช. โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้งคอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญเคเบิลทีวี สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยและมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคเข้าร่วม สัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ ความคาดหวังของผู้ประกอบวิชาชีพต่อ กสทช.
นางสุวรรณา สมบัติรักษาสุข ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่า ต้องการให้ กสทช.มีจริยธรรมที่ชัดเจนในการดำเนินงาน และการควบคุมดูแลกิจการวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมของประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น และนำความคิดเห็นที่ได้จากภาคประชาชนไปปรับปรุงแก้ไขการจัดทำร่างแผนแม่บท ต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของภาคประชาชน
ด้าน นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญเคเบิลทีวี กล่าวว่า กสทช. ควรกำหนดทิศทางและแนวนโยบายในการควบคุมดูแลเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมที่ชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อหาที่นำเสนอเนื่องจากในอนาคตจะมีช่องทีวีดังกล่าว เพิ่มขึ้นจำนวนมาก และผู้บริโภคก็เริ่มมีความนิยมรับข่าวสารจากเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมเพิ่มขึ้นด้วย สอดคล้องกับตัวแทนจากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ที่ต้องการให้ กสทช. ให้ความสำคัญต่อการควบคุมดูแลเนื้อหา และโฆษณาที่มีการนำเสนอผ่านสื่อ โดยเฉพาะวิทยุชุมชนที่พบว่า มีการโฆษณาหลอกลวงมากที่สุด ส่วนเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ก็มีการนำเสนอเนื้อหาที่ค่อนข้างไม่เหมาะสมและโฆษณาแฝงออกอากาศ อีกทั้ง บางโฆษณาที่นำเสนอออกอากาศก็เป็นสินค้าที่อาจจะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้
นาย อดิศักดิ์ ลิมปรุงพัฒนกิจ กรรมการอำนวยการ บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้งคอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สื่อโทรทัศน์ในอนาคตระหว่าง ฟรีทีวีกับ เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ไม่แตกต่างกันมาก ในมุมมองของผู้บริโภค เนื่องจากขณะนี้ความนิยมของเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อ เนื่อง เพราะสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้เท่าเทียมกัน แต่มีความหลากหลายของเนื้อหาที่มากกว่า 200 กว่าสถานีทั่วประเทศ และมองว่าการจัดสรรคลื่นความถี่โดย กสทช.ในอนาคต ก็อาจจะไม่มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจนี้มากนัก เนื่องจากยังมีช่องทางในการประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันได้
ขณะที่ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่า การดำเนินการหรือการจัดการในประเด็นต่างๆ ของ กสทช.จะสามารถขับเคลื่อนไปได้นั้น ต้องขับเคลื่อนด้วยแผนแม่บทบริหารจัดการคลื่นความถี่ แผนแม่บทโทรคมนาคมและแผนแม่บทกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดการณ์ว่า จะแล้วเสร็จปลายเดือน มี.ค.2555 พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิด เห็นต่อ 3 ร่างดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและประกาศใช้ในการดำเนินการควบคุมดูแลกิจการวิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศต่อไป
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/231287
ไม่มีความคิดเห็น: