Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 มีนาคม 2555 ใจกล้าน่าปล้ำ !!! เอเซอร์ยกเครื่องงานบริการลูกค้าโน้ตบุ๊กเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 2 ปี เดสก์ทอป1 ปี เป็น 3 ปี ลดค่าซ้อม

ใจกล้าน่าปล้ำ !!! เอเซอร์ยกเครื่องงานบริการลูกค้าโน้ตบุ๊กเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 2 ปี เดสก์ทอป1 ปี เป็น 3 ปี ลดค่าซ้อม


ประเด็นหลัก

นอกจากนี้ ในปีนี้เอเซอร์ยังเพิ่มระยะเวลารับประกันสินค้า โดยผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 2 ปี เดสก์ทอปเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 3 ปี และลดค่าแรงสำหรับการซ่อมเครื่องที่หมดประกันจาก 600 บาท เป็น 400 บาท เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการกับศูนย์ของเอเซอร์ แม้จะหมดประกันไปแล้ว

สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรมีบริการแบบออนไซต์ เซอร์วิส, ประกันสินค้า 3 ปี และทำประกันภัยกับกรุงเทพประกันภัยเป็นเวลา 1 ปี เพื่อรองรับการเคลมสินค้ากรณีทำเครื่องตกเสียหาย หรือเครื่องหาย เป็นต้น

นาย โสภณแสดงความคิดเห็นเรื่องบริการหลังการขายในโครงการแจกแท็บเลตเด็ก ป.1 ของรัฐบาลว่า เซอร์วิสเป็นปัจจัยความสำเร็จของโครงการนี้ เนื่องจากต้องมีปัญหาเด็กทำแท็บเลตตก, แอปพลิเคชั่นขัดข้องหรือใช้งานไม่เป็นที่แน่นอน ดังนั้นโรงเรียนต้องตัดสินใจว่าจะซ่อมด้วยตนเอง หรือให้ศูนย์ที่ให้บริการได้รวดเร็ว โดยแต่ละโรงเรียนต้องมีผู้เชี่ยวชาญสำหรับตรวจสภาพเครื่องว่าชำรุดเพราะอะไร ต้องใช้อะไหล่หรือชิ้นส่วนไหนบ้าง

"โดยส่วนตัวคิดว่าภาครัฐอาจใช้ โรงเรียนอาชีวศึกษาเป็นศูนย์ซ่อมแท็บเลต เหมือนการใช้เป็นศูนย์ซ่อมรถยนต์ในต่างจังหวัด เนื่องจากทำให้เซอร์วิสประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับเรื่องเครือข่ายที่มีเป็น หลัก และเครือข่ายของภาครัฐคือโรงเรียนอาชีวศึกษา อย่างไรก็ตามเอเซอร์ไม่มีแผนจะเข้าไปให้บริการหลังการขายแท็บเลตการศึกษา เพราะเน้นให้บริการกับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ตนเองเท่านั้น"

_________________________________________________________


เอเซอร์ยกเครื่องงานบริการลูกค้า อัพเกรดงานหลังบ้าน-เพิ่มเวลารับประกันสินค้า


"เอ เซอร์" ยกเครื่องงานบริการ ย้ายศูนย์บริการขึ้นห้าง เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า ทั้งติดตั้งระบบเก็บข้อมูล-ปรับซัพพลายเชนเอาต์ซอร์ซงานจัดส่งสินค้า ตั้งเป้าเปิดศูนย์บริการผ่านพาร์ตเนอร์อีก 50 แห่ง เป็น 200 แห่งทั่วประเทศ ทั้งใจป้ำเพิ่มระยะเวลารับประกันสินค้าโน้ตบุ๊กจาก 1 เป็น 2 ปี เดสก์ทอปเป็น 3 ปี เตรียมเปิดบริการใหม่อีกในไตรมาส 2 แนะภาครัฐใช้เครือข่ายโรงเรียนอาชีวะรับช่วงบริการซ่อมแท็บเลตในโครงการแจก เด็ก ป.1

นายโสภณ ปานฉิม ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้จะมีการลงทุนด้านการให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 50 ล้านบาท โดยจะพัฒนาใน 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าโดยปรับเปลี่ยนสถานที่ของศูนย์บริการจากตึกแถวไป ไว้บนห้างสรรพสินค้า จากมี 15 แห่งขยับขึ้นห้าง 10 แห่ง อีกส่วนคือการทำระบบซัพพลายเชน โอเปอเรชั่นใหม่ ซึ่งจะให้บริษัทอื่นทำหน้าที่จัดส่งสินค้า รวมถึงติดตั้งและใช้ระบบ CSS (Customer Support System) ในเดือน เม.ย.นี้ ระบบดังกล่าวจะใช้ประมวลผลข้อมูลเพื่อควบคุมคุณภาพการใช้บริการ

"เม.ย.นี้ จะเปิดศูนย์บริการเพิ่มอีก 1 แห่ง จากที่มีในห้าง 6 สาขา ทั้งปีจะเปิด 3 แห่ง ทั้งจะเพิ่มศูนย์บริการเอเซอร์ ออเทอไรซ์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ ซึ่งดำเนินการโดยพาร์ตเนอร์เป็นได้ถึง 200 แห่งทั่วประเทศ จากที่มีอยู่แล้ว 150 แห่ง เนื่องจากปีที่ผ่านมาเอเซอร์จำหน่ายสินค้าให้โปรเจ็กต์ภาคการศึกษาและกลุ่ม ธนาคารเป็นจำนวนมาก"

นอกจากนี้ ในปีนี้เอเซอร์ยังเพิ่มระยะเวลารับประกันสินค้า โดยผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 2 ปี เดสก์ทอปเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 3 ปี และลดค่าแรงสำหรับการซ่อมเครื่องที่หมดประกันจาก 600 บาท เป็น 400 บาท เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการกับศูนย์ของเอเซอร์ แม้จะหมดประกันไปแล้ว

สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรมีบริการแบบออนไซต์ เซอร์วิส, ประกันสินค้า 3 ปี และทำประกันภัยกับกรุงเทพประกันภัยเป็นเวลา 1 ปี เพื่อรองรับการเคลมสินค้ากรณีทำเครื่องตกเสียหาย หรือเครื่องหาย เป็นต้น

นาย โสภณกล่าวว่า รายได้หลักของธุรกิจบริการมาจากการคิดค่าบริการในกลุ่มลูกค้าที่สินค้าหมด เวลาประกัน และให้บริการกับลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการบันเดิลเซอร์วิส โดยให้เอเซอร์ทำหน้าที่บริการหลังการขายในคอมพิวเตอร์ทุกแบรนด์ในองค์กร และในไตรมาส 2 จะออกบริการรูปแบบใหม่เพิ่มเติม

"เอเซอร์น่าจะมี ลูกค้าในไทยที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัททั้งหมด 10 ล้านเครื่อง แต่ละปีจะมีสินค้าในระบบประกัน 2.3 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนจากกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้าองค์กรอย่างละ 50% เราจะมีอะไหล่เก็บสำรองไว้เป็น 5 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่ส่งซ่อมผ่านศูนย์บริการที่เป็นพาร์ตเนอร์ของเอเซอร์จำนวน 150 แห่ง เพราะศูนย์ของเราเองมี 15 แห่งไม่กระจายตัวมากนัก ขณะที่ศูนย์บริการพาร์ตเนอร์จะซ่อมสินค้าให้ลูกค้าได้เองแล้วค่อยขออะไหล่ จากเรา หรืออาจส่งสินค้ามาที่ศูนย์เอเซอร์โดยตรงหากซ่อมมาแล้วหลายครั้ง"

สำหรับ เปอร์เซ็นต์การชำรุดของสินค้าเอเซอร์ในกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคอยู่ที่ 1% ต่อปี กลุ่มลูกค้าองค์กรอยู่ที่ 1.2-1.3% ต่อปี เนื่องจากมีเรื่องซอฟต์แวร์ โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นเรื่องฮาร์ดดิสก์ชำรุด คาดว่านโยบายเพิ่มระยะเวลาประกันสินค้าปีนี้จะทำให้เปอร์เซ็นต์สินค้าชำรุด เพิ่มเป็นเท่าตัว

นายโสภณแสดงความคิดเห็นเรื่องบริการหลังการขายใน โครงการแจกแท็บเลตเด็ก ป.1 ของรัฐบาลว่า เซอร์วิสเป็นปัจจัยความสำเร็จของโครงการนี้ เนื่องจากต้องมีปัญหาเด็กทำแท็บเลตตก, แอปพลิเคชั่นขัดข้องหรือใช้งานไม่เป็นที่แน่นอน ดังนั้นโรงเรียนต้องตัดสินใจว่าจะซ่อมด้วยตนเอง หรือให้ศูนย์ที่ให้บริการได้รวดเร็ว โดยแต่ละโรงเรียนต้องมีผู้เชี่ยวชาญสำหรับตรวจสภาพเครื่องว่าชำรุดเพราะอะไร ต้องใช้อะไหล่หรือชิ้นส่วนไหนบ้าง

"โดยส่วนตัวคิดว่าภาครัฐอาจใช้ โรงเรียนอาชีวศึกษาเป็นศูนย์ซ่อมแท็บเลต เหมือนการใช้เป็นศูนย์ซ่อมรถยนต์ในต่างจังหวัด เนื่องจากทำให้เซอร์วิสประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับเรื่องเครือข่ายที่มีเป็น หลัก และเครือข่ายของภาครัฐคือโรงเรียนอาชีวศึกษา อย่างไรก็ตามเอเซอร์ไม่มีแผนจะเข้าไปให้บริการหลังการขายแท็บเลตการศึกษา เพราะเน้นให้บริการกับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ตนเองเท่านั้น"


ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1332415973&grpid=00&catid=&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.