26 มีนาคม 2555 APP FREE สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?
APP FREE สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?
ประเด็นหลัก
นักวิจัยได้ทำการทดสอบกับแอพพลิ เคชั่นชื่อดังอย่างเฟซบุ๊กและได้ยกตัวอย่างกรณีของเกมแองกรี้เบิร์ดซึ่งพบ ว่าพลังงานเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกใช้กับตัวเกม ส่วนที่เหลือราว 45 เปอร์เซ็นต์ถูกใช้ในการค้นหาตำแหน่งของผู้เล่นเกมเพื่อแสดงผลโฆษณาสำหรับ พื้นที่นั้นๆ
นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังทดสอบแอพพลิเคชั่นขณะเชื่อมต่อเครือข่าย 3จี พบว่าหลายๆ แอพพลิเคชั่นคงการเชื่อมต่อนานกว่า 10 วินาที หลังจากมีการดาวน์โหลดข้อมูล ซึ่งช่วงเวลานั้นสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด
_______________________________________________________
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?
ผลวิจัยชี้แอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจะสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่มากกว่าแอพพลิเคชั่นที่ต้องชำระเงิน
ทั้ง นี้ นักวิจัยทำการศึกษาความสิ้นเปลืองพลังงานจากแอพพลิเคชั่นในระบบปฏิบัติการแอ นดรอยด์และวินโดวส์โฟน ตัวอย่างการศึกษาแอพพลิเคชั่นกรณีหนึ่งชี้ว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้สำหรับแอพพลิเคชั่นนั้นถูกใช้ไปกับการแสดงผล โฆษณา ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่นฟรีโดยปกติจะมีการแสดงผลโฆษณาระหว่างการใช้งานเพื่อเป็นช่องทาง สร้างรายได้สำหรับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น
นักวิจัยได้ทำการทดสอบกับแอ พพลิเคชั่นชื่อดังอย่างเฟซบุ๊กและได้ยกตัวอย่างกรณีของเกมแองกรี้เบิร์ดซึ่ง พบว่าพลังงานเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกใช้กับตัวเกม ส่วนที่เหลือราว 45 เปอร์เซ็นต์ถูกใช้ในการค้นหาตำแหน่งของผู้เล่นเกมเพื่อแสดงผลโฆษณาสำหรับ พื้นที่นั้นๆ
นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังทดสอบแอพพลิเคชั่นขณะเชื่อมต่อเครือข่าย 3จี พบว่าหลายๆ แอพพลิเคชั่นคงการเชื่อมต่อนานกว่า 10 วินาที หลังจากมีการดาวน์โหลดข้อมูล ซึ่งช่วงเวลานั้นสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นมากนัก เนื่องจากการโฆษณาจำเป็นที่จะต้องใช้การเชื่อมต่อในการค้นหาตำแหน่งของผู้ ใช้ และเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากต้องการใช้แอพพลิเคชั่นแบบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่นักพัฒนาก็จำเป็นที่จะต้องนึกถึงการสิ้นเปลืองพลังงานสำหรับการพัฒนาแอ พพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่ๆ ด้วย
มติชน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1332748996&grpid=&catid=06&subcatid=
ประเด็นหลัก
นักวิจัยได้ทำการทดสอบกับแอพพลิ เคชั่นชื่อดังอย่างเฟซบุ๊กและได้ยกตัวอย่างกรณีของเกมแองกรี้เบิร์ดซึ่งพบ ว่าพลังงานเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกใช้กับตัวเกม ส่วนที่เหลือราว 45 เปอร์เซ็นต์ถูกใช้ในการค้นหาตำแหน่งของผู้เล่นเกมเพื่อแสดงผลโฆษณาสำหรับ พื้นที่นั้นๆ
นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังทดสอบแอพพลิเคชั่นขณะเชื่อมต่อเครือข่าย 3จี พบว่าหลายๆ แอพพลิเคชั่นคงการเชื่อมต่อนานกว่า 10 วินาที หลังจากมีการดาวน์โหลดข้อมูล ซึ่งช่วงเวลานั้นสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด
_______________________________________________________
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?
ผลวิจัยชี้แอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจะสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่มากกว่าแอพพลิเคชั่นที่ต้องชำระเงิน
ทั้ง นี้ นักวิจัยทำการศึกษาความสิ้นเปลืองพลังงานจากแอพพลิเคชั่นในระบบปฏิบัติการแอ นดรอยด์และวินโดวส์โฟน ตัวอย่างการศึกษาแอพพลิเคชั่นกรณีหนึ่งชี้ว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้สำหรับแอพพลิเคชั่นนั้นถูกใช้ไปกับการแสดงผล โฆษณา ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่นฟรีโดยปกติจะมีการแสดงผลโฆษณาระหว่างการใช้งานเพื่อเป็นช่องทาง สร้างรายได้สำหรับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น
นักวิจัยได้ทำการทดสอบกับแอ พพลิเคชั่นชื่อดังอย่างเฟซบุ๊กและได้ยกตัวอย่างกรณีของเกมแองกรี้เบิร์ดซึ่ง พบว่าพลังงานเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกใช้กับตัวเกม ส่วนที่เหลือราว 45 เปอร์เซ็นต์ถูกใช้ในการค้นหาตำแหน่งของผู้เล่นเกมเพื่อแสดงผลโฆษณาสำหรับ พื้นที่นั้นๆ
นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังทดสอบแอพพลิเคชั่นขณะเชื่อมต่อเครือข่าย 3จี พบว่าหลายๆ แอพพลิเคชั่นคงการเชื่อมต่อนานกว่า 10 วินาที หลังจากมีการดาวน์โหลดข้อมูล ซึ่งช่วงเวลานั้นสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นมากนัก เนื่องจากการโฆษณาจำเป็นที่จะต้องใช้การเชื่อมต่อในการค้นหาตำแหน่งของผู้ ใช้ และเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากต้องการใช้แอพพลิเคชั่นแบบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่นักพัฒนาก็จำเป็นที่จะต้องนึกถึงการสิ้นเปลืองพลังงานสำหรับการพัฒนาแอ พพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่ๆ ด้วย
มติชน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1332748996&grpid=&catid=06&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น: