Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

26 ตุลาคม 2555 ข่าวค่ำ!! cybercityclub ไอที 2 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 26 / 10 / 2555 By So Magawn ( โส มกร )

ข่าวค่ำ!! cybercityclub ไอที 2 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 26 / 10 / 2555 By So Magawn ( โส มกร ) 

1..... iPhone 5 TRUE เปิดอกรายแรกเริ่มต้น 24,550 บาท // 3 เดือนแอปเปิลขาย iPhone 26.9 ล้านเครื่อง 
2..... Windows 8 THAI ลุย 200 ล้าน ขายกล่องเริ่มต้น 2500 ถึง 5690 บาท // เอเซอร์ หวังวินโดว์ส8ปลุกโน้ตบุ๊กคึกเหตุไทยขโลกป่วย 

iPhone 5 TRUE เปิดอกรายแรกเริ่มต้น 24,550 บาท // 3 เดือนแอปเปิลขาย iP
hone 26.9 ล้านเครื่อง
ประเด็นหลัก

หลังจากมีกระแสข่าวลือหนาหูมาก่อนหน้านี้ ถึงวันเปิดรับจอง iPhone 5 เครื่องศูนย์ในประเทศไทย ผ่านโอเปอเรเตอร์รายหลักทั้ง 3 ราย ล่าสุดเอไอเอสได้เปิดหน้าเว็บไซต์ให้ลงทะเบียนยืนยันความสนใจ iPhone 5 แล้ว เมื่อ 00.01 น. 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนเปิดให้จับจองกันในวันที่ 30 ตุลาคม 2555 และจะได้รับเครื่องกันในช่วงวันที่ 2 พ.ย.2555 เวลา 00.01 น.

Updated ล่าสุดทรูเปิดให้จอง iPhone 5 แล้วผ่านเว็บhttp://www3.truecorp.co.th/iphone/index.html ในราคา

16GB – 24,550 บาท
32GB – 28,250 บาท
64GB – 31,950 บาท

แอปเปิลระบุว่าตลอดเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา (คิดเป็นไตรมาส 4 ปีการเงิน 2012 ของแอปเปิล) บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 27% ส่งให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 24% แม้ผลประกอบการเหล่านี้จะดูดีแต่ก็ไม่"เซอร์ไพรส์"หรือทำให้นักลงทุนประหลาดใจ

แอปเปิลระบุว่าสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ราว 26.9 ล้านเครื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และสามารถจำหน่ายไอแพดได้ 14 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่อดทนรอการเปิดตัวไอแพดมินิ (iPad mini) ซึ่งกำลังจะวางตลาดเต็มรูปแบบในเดือนพฤศจิกายนนี้

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดจำหน่ายไอโฟน 26.9 ล้านเครื่องถือว่าน้อยกว่าคู่แข่งอย่างซัมซุง (Samsung) ซึ่งสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 56.3 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้บริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ประเมินว่าซัมซุงครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 31.3% ของตลาดโลก ซึ่งถือว่าสูงกว่าสัดส่วนตลาดของแอปเปิลมากกว่าเท่าตัว

สำหรับไตรมาสปัจจุบัน (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2012) แอปเปิลคาดว่าบริษัทจะทำรายได้ 5.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.5 หมื่นล้านเหรียญ โดยแอปเปิลประเมินว่าอัตรามาร์จิ้นหรือผลกำไรของบริษัทจะอยู่ที่ 36% ซึ่งต่ำกว่านักวิเคราะห์ที่มองไว้ 43%

สำหรับภาพรวมทั้งปี 2012 แอปเปิลระบุว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 45% คิดเป็นรายได้รวม 1.56 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.8 ล้านล้านบาท) ขณะที่ทำกำไรได้มากขึ้น 61% คิดเป็นมูลค่า 4.17 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท) โดยไตรมาสที่เพิ่งผ่านมา แอปเปิลสามารถทำกำไร 8.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2.5 แสนล้านบาท) คิดเป็น 8.67 เหรียญต่อหุ้น บนรายรับรวม 3.59 หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท) ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำกำไร 7.05 เหรียญต่อหุ้น

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000130840
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000131068
________________________________

Windows 8 THAI ลุย 200 ล้าน ขายกล่องเริ่มต้น 2500 ถึง 5690 บาท // เอเซอร์ หวังวินโดว์ส8ปลุกโน้ตบุ๊กคึกเหตุไทยขโลกป่วย
ประเด็นหลัก

โดยในการเปิดตัววินโดวส์ 8 ครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ใช้มีการคาดการณ์งบประมาณในการโปรโมทมากกว่า 200 ล้านบาท และถือเป็นแคมเปญครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งจะมีการออกอากาศโฆษณาบนโทรทัศน์ต่อเนื่อง 22 สัปดาห์ รวมกับการใช้สื่อทั่วไปอย่างวิทยุ ป้ายโฆษณา เพื่อเชิญชวนให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้งานวินโดวส์ 8

"กลุ่มฐานลูกค้าที่สำคัญของไมโครซอฟท์ในครั้งนี้คือกลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์เดิมทั้งในรุ่น เอ็กซ์พี วิสต้า และ 7 ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 90% ของพีซี โน้ตบุ๊ก ออลอินวัน และแท็บเล็ตที่ใช้งานในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น 5-6 ล้านเครื่องต่อปี"

สำหรับการวางจำหน่ายวินโดวส์ 8 ในประเทศไทย จะมีวางจำหน่ายในรูปแบบกล่อง ในราคา 1,990 บาท สำหรับลูกค้าที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เดิมที่ต้องการอัปเกรด และราว 2,500 บาท ในรุ่นปกติ และ 5,690 บาทในรุ่นโปร ซึ่งมีโปรโมชันลดเหลือ 5,290 บาทจนถึงวันที่ 5 พ.ย. ตามร้านค้าปลีกที่ร่วมรายการ ส่วนในรุ่น Windows RT จะมาพร้อมกับแท็บเล็ตในรุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผล ARM

ขณะเดียวกันผู้ที่เพิ่งซื้อพีซี หรือโน้ตบุ๊กหลังวันที่ 2 มิถุนายน 2555 จะได้รับราคาพิเศษในการอัปเกรดขึ้นเป็นวินโดวส์ 8 ในราคา 14,99 เหรียญสหรัฐ (ราว 499 บาท) หรือถ้าไม่ต้องการซื้อรุ่นอัปเกรดสำหรับลูกค้าที่ซื้อก่อนหน้าก็สามารถสั่งซื้อเพื่อดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ได้ในราคา 39.99 เหรียญ (ราว 1,250 บาท)

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2555 คาดว่ายอดขายเอเซอร์จะใกล้เคียงปี 2554 หรือเติบโตเพียง 5% ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกับภาพ รวมของตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไม่เฉพาะในไทย แต่เป็นทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นผลจากการชะลอตัวของยอดขาย

ขณะเดียวกันจากการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้บริษัทได้วางกลยุทธ์การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า โดยปีนี้บริษัทได้ลงทุน 50 ล้านบาท สร้างศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์บริการซ่อมเนื้อที่ 5,000 ตร.ม. บนถนนพระราม 3 สำหรับรองรับบริการรับซ่อมจากศูนย์บริการทั้งในกรุงเทพฯ รวม 6 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 9 แห่ง รวมถึงรับผิดชอบตลาด อินโดจีน 3 ประเทศ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา ภายใต้นโยบายรับ-ส่งสินค้าจากตัวแทนทั่วประเทศ และ ส่งกลับภายใน 2 วันทำการ โดยวางเป้าหมายภายใน 3 ปี รายได้จากศูนย์บริการจะเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 5% ของรายได้รวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5%

http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000131066
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1351218790&grpid&catid=06&subcatid=0600

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.