Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 มิถุนายน 2555 SIS เข็น Motorola สู้ศึกสมาร์ทโฟน มั่นใจยังขายได้ // เน้นการทำตลาดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์

SIS เข็น Motorola สู้ศึกสมาร์ทโฟน มั่นใจยังขายได้ // เน้นการทำตลาดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์


ประเด็นหลัก

"แม้ว่าโมโตโรล่าจะหายไปจากตลาด 2 ปี แต่เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากในกลับมา การตั้งราคาขาย 4 รุ่นนี้ก็อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ค่อยยึดติดแบรนด์มากนักเพราะได้รับ ข้อมูลมากขึ้น เชื่อว่าราคา ดีไซน์ และคุณภาพของแบรนด์คือปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเน้นการขยายฐานตลาดของแบรนด์โมโตโรล่ามากขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 3-4 ที่จะเน้นการทำตลาดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์และแบรนด์เป็นที่ ยอมรับของผู้บริโภค ควบคู่ช่องทางขายครอบคลุมทั่วประเทศ"

อย่างไรก็ ตาม ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ถือว่ามีอัตราการเติบโตไม่ดีนัก เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 โดยสมาร์ทโฟนกลุ่มที่ขายดีที่สุดของบริษัทคือกลุ่มโลว์เอนต์ที่มีราคา ตั้งแต่ 4,000-7,000 บาท เนื่องจากมีราคาไม่แพง ทำให้กลุ่มผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนที่ต้องการเปลี่นเป็นสมาร์ทโฟนกล้าซื้อและเลือก สมาร์ทโฟนกลุ่มดังกล่าวเป็นอันดับแรก โดยบริษัทมีสัดส่วนจำหน่ายสมาร์ทโฟนคือ โลเอนต์ 40% มิดเรนจ์ 35% และไฮเอนต์ 25% ซึ่งคาดว่าหากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ไม่เกิดวิกฤต์การณ์น้ำท่วม บริษัทจะสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายในกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฟนได้ประมาณ 10%







_________________________________________________

SIS เข็น 'โมโตโรล่า' สู้ศึกสมาร์ทโฟน มั่นใจยังขายได้

เอส ไอเอส ดิสทริบิวชั่น ตัวแทนขายโมโตโรล่าในไทย การันตีภาพลักษณ์แบรนด์ยังดี-เชื่อถือได้ เตรียมรุกหนักการตลาดช่วงไตรมาส 3-4 หวังยอดขายโต 10% หากไม่เกิดน้ำท่วมซ้ำ...

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นายบวรพันธ์ ไพศาลสิรินกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนจำหน่าย โมโตโรล่า โมบิลิตี้ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ทโฟนในปีนี้ บริษัทจะแบ่งสัดส่วนช่องทางจำหน่ายเป็นกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัด 30% ปัจจุบันยอดจำหน่ายของโมโตโรล่าผ่านช่องทางของบริษัทถือเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มแอนดรอยด์ รองจากอันดับแรกคือซัมซุง



สำหรับการเปิด ตัวสมาร์ทโฟนตระกูล RAZR และ DEFY ของโมโตโรล่า เชื่อว่าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ RAZR เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มไฮเอนต์ RAZR Maxx สำหรับกลุ่มไฮเอนต์ที่ชื่นชอบการใช้งานหลากหลาย ทั้งแชต ดูหนัง ฟังเพลง ด้วยจุดเด่นความทนทานของแบตเตอรี่ที่ช่วยให้ใช้งานได้นานถึง 17.6 ชั่วโมง หรือรุ่น RAZR V สมาร์ทโฟนกลุ่มมิดเรนจ์ที่เน้นความบางในราคาระดับกลาง ขณะที่กลุ่ม DEFY ก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทีมีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการผจญภัย เพราะตัวเครื่องสามารถกันน้ำกันฝุ่น การกระแทกและรอยขีดข่วนได้

"แม้ ว่าโมโตโรล่าจะหายไปจากตลาด 2 ปี แต่เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากในกลับมา การตั้งราคาขาย 4 รุ่นนี้ก็อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ค่อยยึดติดแบรนด์มากนักเพราะได้รับ ข้อมูลมากขึ้น เชื่อว่าราคา ดีไซน์ และคุณภาพของแบรนด์คือปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเน้นการขยายฐานตลาดของแบรนด์โมโตโรล่ามากขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 3-4 ที่จะเน้นการทำตลาดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์และแบรนด์เป็นที่ ยอมรับของผู้บริโภค ควบคู่ช่องทางขายครอบคลุมทั่วประเทศ"

อย่างไรก็ ตาม ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ถือว่ามีอัตราการเติบโตไม่ดีนัก เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 โดยสมาร์ทโฟนกลุ่มที่ขายดีที่สุดของบริษัทคือกลุ่มโลว์เอนต์ที่มีราคา ตั้งแต่ 4,000-7,000 บาท เนื่องจากมีราคาไม่แพง ทำให้กลุ่มผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนที่ต้องการเปลี่นเป็นสมาร์ทโฟนกล้าซื้อและเลือก สมาร์ทโฟนกลุ่มดังกล่าวเป็นอันดับแรก โดยบริษัทมีสัดส่วนจำหน่ายสมาร์ทโฟนคือ โลเอนต์ 40% มิดเรนจ์ 35% และไฮเอนต์ 25% ซึ่งคาดว่าหากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ไม่เกิดวิกฤต์การณ์น้ำท่วม บริษัทจะสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายในกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฟนได้ประมาณ 10%



นาย บวรพันธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทยนั้น มองว่าการเติบโตในภาพรวมยังไม่ดีนัก เนื่องจากถือเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม แม้จะมีผู้นิยมใช้แท็บเล็ตบางแบรนด์แต่ก็เป็นผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม ซึ่งส่วนมากก็ใช้สมาร์ทโฟนของแบรนด์ดังกล่าวอยู่แล้ว ส่วนโครงการแท็บเล็ตของรัฐบาลนั้นจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดแท็บเล็ตได้เป็นอย่าง ดี เนื่องจากทำให้แท็บเล็ตเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ และคาดว่าจะสมารถเห็นการเติบโตในตลาดดังกล่าวได้ภายในช่วงปลายปีนี้.

ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/271635

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.