27 สิงหาคม 2555 ข่าวค่ำ!! TECHTVTHAILAND โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 27 / 08 / 2555 By So Magawn ( โส มกร )
1..... TOT เตรียมของบ3Gรอบ2! 18000 ลบ.เติมตั้งหน่วยงานรัฐลดงบได้แน่นอน // เตรียมดูแลลูกค้า 30 ล้านเบอร์ หลัง AIS หมดสัมทาน
2..... TOT ( เตรียมถังแตก ไร้เงินสดทำ3Gทันที ) โอกาสสูงแพ้คดี โทรศัพท์บ้าน TRUE 9,000 ล้านบาท (รัฐมนตรีสั้งเพียงอุทธรณ์ต่อ)
3..... TRUE lineชัด(ไม่มีวันลดราคาADSLอีกต่อไป)อ้างว่ารับแบกภาระไม่ไหวกับ ภาษีUSO/เร่งให้เปลี่ยนความเร็วจาก599เป็น699ความเร็ว10Mb
TOT เตรียมของบ3Gรอบ2! 18000 ลบ.เติมตั้งหน่วยงานรัฐลดงบได้แน่นอน // เตรียมดูแลลูกค้า 30 ล้านเบอร์ หลัง AIS หมดสัมทาน
ที โอทีจะไม่ไปลงทุนในการติดตั้งสถานีฐาน เนื่องจากการศึกษารายละเอียดโครงการดังกล่าว พบว่าจำนวนเงิน 60% นั้นมาจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและการติดตั้งสถานีฐาน ทั้งนี้ ทีโอที จะใช้วิธีการเจรจากับหน่วยงานของรัฐบาลทั่วประเทศเพื่อขอใช้พื้นที่ในหน่วย งานทั้ง สถานศึกษา โรงพยาบาล ฯลฯ เพื่อลดค่าใช้จ่ายกว่า 60% จากงบเดิม ที่ตั้งไว้กว่า 30,000 ล้านบาทของโครงการด้วย
ทั้งนี้ แนวทางบริหารคลื่นความถี่ดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยให้ทีโอที ได้ทราบว่าจะนำคลื่นที่มีอยู่จุดไหนมาใช้งานให้คุ้มค่าต่อสิ่งที่มีอยู่มา ต่อยอดธุรกิจ โดยสัญญาในการบริหารคลื่นความถี่อย่างคลื่น 900 MHz ของทีโอทีจะไม่เหมือนกับ บมจ.กสท โทรคมนาคม(CAT)ที่ต้องคืนคลื่นหลังหมดสัญญาสัมปทาน โดยการทำสัญญาคลื่นที่ ทีโอที ได้รับเป็นใบอนุญาตตามสัญญาหากสัมปทานหมด ทีโอที ก็ยังมีสิทธิที่จะบริหารคลื่นความถี่เหมือนเดิม
"ตอนนี้เราต้องเขียน แผนการใช้งานคลื่นให้ชัดเจน ซึ่งหากหมดสัญญาสัมปทาน ทีโอทีจะทำอย่างไรกับลูกค้ากว่า 30 ล้านรายของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส(ADVANC)ที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับทีโอที โดยทีโอทีจะไม่ไปแตะเรื่องคลื่นในสัญญาใหม่"นายพันธ์เทพ กล่าว
อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1476379
___________________________________
TOT ( เตรียมถังแตก ไร้เงินสดทำ3Gทันที ) โอกาสสูงแพ้คดี โทรศัพท์บ้าน TRUE 9,000 ล้านบาท (รัฐมนตรีสั้งเพียงอุทธรณ์ต่อ)
ล่า สุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาฝ่ายตุลาการศาลปกครองกลาง ได้เรียกผู้บริหาร ทีโอที กับผู้บริหาร ทรู ไปรับฟังคำแถลงของฝ่ายตุลาการก่อนที่จะมีการตัดสินชี้ขาดคดีในเร็วๆ นี้ ทำให้ ทีโอที มีความกังวลอย่างมากว่าจะแพ้คดีดังกล่าว
สำหรับคดีฟ้อง ร้องระหว่างทีโอทีกับทรู นั้น เริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2546 โดย บริษัท ทรูเรียกร้องขอแบ่งส่วนแบ่งรายได้จากค่าเชื่อมโยงโครงข่ายจากทีโอที ที่ได้รับจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) อีกทอดหนึ่ง ในอัตรา 200 บาทต่อเดือนต่อเลขหมาย โดยทรูฯอ้างว่าการเชื่อมโครงข่ายดังกล่าวมีการใช้โครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน ของทรูรวมอยู่ด้วย ขณะที่ ทีโอทีไม่สามารถจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามข้อเรียกร้องของทรูได้ โดยอ้างสัญญาสัมปทาน พร้อมเห็นว่า รายได้ที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นรายได้ของ ทีโอทีไม่เกี่ยวกับบริษัททรูฯทำให้ต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการ อนุญาโตตุลาการ เป็นผู้ตัดสิน
ต่อมาเมื่อปี 2549 คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินให้ทีโอทีแพ้คดีต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ทรู 9,175 ล้านบาท บวกดอกเบี้ย 7.5% ไปจนถึงสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ขณะที่ ทีโอที คัดค้านไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน จึงยื่นฟ้องต่อ ศาลปกครองกลาง เพื่อต่อสู้คดีต่อไป
แหล่งข่าวจาก ทีโอที กล่าวว่า หาก ทีโอที ต้องจ่ายค่าส่วนแบ่งรายได้ให้กับทรู ในวงเงิน 9,175 ล้านบาท จะส่งผลกระทบต่อฐานการเงินของ ทีโอทีทันที เพราะบริษัทมีกระแสเงินสดที่จะใช้ลงทุนสร้างโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 3 จี ถึง 19,000 ล้านบาท ประกอบกับในปี 2557 ทีโอทีจะไม่มีรายได้จากสัญญาสัมปทานอีกต่อไป เพราะตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) กำหนดให้ทีโอทีนำรายได้จากสัญญาสัมปทานทั้งหมดส่งเป็นรายได้ของรัฐ
แนวหน้า
http://www.naewna.com/business/19829
___________________________________
TRUE lineชัด(ไม่มีวันลดราคาADSLอีกต่อไป)อ้างว่ารับแบกภาระไม่ไหวกับภาษีUSO/เร่งให้เปลี่ยนราคาจาก599เป็น699ความเร็ว10Mb
นาย นนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไป สายงานบริการบรอดแบนด์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกประกาศเรื่องแผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการ เพื่อสังคม (พ.ศ.2555-2559) หรือ USO เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพราะเดิมไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ แต่ปัจจุบันต้องจ่าย 3.75% ของรายได้ ทำให้ต้องวางแผนธุรกิจใหม่ ซึ่งคู่แข่งก็ประสบกับปัญหานี้เช่นกัน รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายใบอนุญาต 2% ของรายได้ทุกปีด้วย ที่อยู่ระหว่างรอประชาพิจารณ์ว่าจะเก็บอัตราใด ถ้าเก็บเพิ่มจะทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจเพิ่ม
จากปัจจัยทั้งหมดทำ ให้ราคาไฮสปีดอินเทอร์เน็ตไม่สามารถปรับลงมาได้อีกแล้ว โดยจะอยู่ที่ 599 บาท/7 Mbps ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภครายใหม่เข้ามาใช้งานน้อยลง แม้ความต้องการของการใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันจะค่อนข้างสูง สังเกตได้จากเด็กทุกบ้านเริ่มใช้อินเทอร์เน็ต ขณะที่การแข่งขันในตลาดคงไม่ได้แข่งเรื่องราคาเหมือนหลายปีก่อน แต่แข่งกันในแง่บริการเพราะราคากดลงมามากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว ทำให้รายเล็กอยู่ลำบากมากขึ้น
"ผู้บริโภคต้องเข้าใจว่าโอกาสที่ ราคาจะต่ำกว่า 599 บาท/7 Mbps คงไม่มีทางได้เห็นอีกแล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็นอินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม พร้อมบริการที่หลากหลายขึ้น แม้ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้จำนวน
จากปัจจัยนี้จึงมีโอกาสที่ลูกค้า จะปรับมาใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้นเป็น 10 Mb ยอมจ่ายเพิ่มเป็น 699 บาท ทำให้ปีต่อไปรายได้ต่อลูกค้าต่อเดือนอาจพุ่งไปที่ 750-800 บาท
ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1346050373&grpid&catid=06&subcatid=0600
ไม่มีความคิดเห็น: