28 กรกฎาคม 2555 SAMSUNG อ้าง IPHONE ก็ลอก CONCEPT ของโทรศัพท์ SONY เมื่อปี 2006 // อาจจะขายได้มากกว่า APPLE ถึง 2 เท่า!
ประเด็นหลัก
Samsung นั้นได้บอกว่าโทรศัพท์หน้าจอสัมผัสแบบสี่เหลี่ยมนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว ก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นแรกซะอีก ซึ่งการออกแบบโทรศัพท์หน้าจอสัมผัสแบบสี่เหลี่ยมนี้เป็น Concept ของทาง Sony ตามภาพที่เห็นครับ โดยภาพที่ว่านี้เป็นการออกแบบของนาย Yujin Morisawa ซึ่งมีการให้สัมภาษณ์ผ่าน Bloomberg ไปแล้วด้วยแต่ว่าก็ไม่เชิงเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไรนัก
Samsung ได้ออกมายืนยันว่าภาพ Concept ของทาง Sony ภาพนี้นี่แหละมีถูกเอามาปรับการออกแบบแต่งเติมอีกนิดหน่อยโดย Tony Fadell ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple ในตอนนั้น แล้วส่งให้ Steve Jobs และ Jony Ive ดู และสุดท้ายมันก็ออกมาเป็น iPhone
ถือเป็น ครั้งแรกที่ทาง Apple ขาย iPhone ได้ต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ โดยขายอยู่ที่ 26 ล้านเครื่องหลังจากที่ประมาณไว้ที่ 28 ล้านเครื่องหรือมากกว่า และนี่อาจจะเป็นประตูให้ Samsung แซงแบบว่าน็อกรอบเอาได้ โดยตอนนี้เองทาง Samsung มียอดขาย Smartphone เป็นตัวเลขอยู่ที่ 52 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็น 2 เท่าของยอดขาย iPhone กันเลยทีเดียว
____________________________________________
SAMSUNG อ้าง IPHONE ก็ลอก CONCEPT ของโทรศัพท์ SONY เมื่อปี 2006 มาเหมือนกัน..อ้าว!
ดู เหมือนว่าทาง Samsung พี่แกเค้าจะฮีดเหมือนกันหลังจากที่โดน Apple ฟ้องมาเรื่อยเรียกว่ารุ่นหลักๆนี่โดนกันเรียบ รวมถึงโดนกล่าวหาจาก Apple หลายรอบว่าทาง Samsung นั้นลอกแบบของ iPhone มา ล่าสุดก็เลยออกมากัดการออกแบบเครื่อง iPhone กับ iPad ของ Apple บ้างว่าก็ลอกมาเหมือนกัน
Samsung นั้นได้บอกว่าโทรศัพท์หน้าจอสัมผัสแบบสี่เหลี่ยมนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว ก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นแรกซะอีก ซึ่งการออกแบบโทรศัพท์หน้าจอสัมผัสแบบสี่เหลี่ยมนี้เป็น Concept ของทาง Sony ตามภาพที่เห็นครับ โดยภาพที่ว่านี้เป็นการออกแบบของนาย Yujin Morisawa ซึ่งมีการให้สัมภาษณ์ผ่าน Bloomberg ไปแล้วด้วยแต่ว่าก็ไม่เชิงเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไรนัก
How much did the iPod influence your design?
Morisawa: When I started this project, that was my concern. I looked at the first Walkman [which debuted in 1979]. Then I thought, “How can I give shape to the music?” Music doesn’t have shape; it’s flowing. I was listening to music and waving my hand in the air. I thought there shouldn’t be an end to its lines. So I started drawing a round shape, and I kept moving the line.
My team had shown me their sketch: It was a square with a screen and buttons. Most other players have a screen and buttons. My first mock-up didn’t have buttons. I didn’t want buttons. With any digital-music player, the hard disk drive and chips are similar. I thought, “How can we make the layout different?” I knew what would go inside, so I could start the design from the outside. I knew how big the hard disk drive would be, how many chips there would be.
What challenges did you face in making sure the final product would look like your sketch?
Morisawa: It’s really tough to make something round. You can’t really measure where the components are inside [the device] when using the CAD [computer-aided design] system. I didn’t want the engineers to change the shape or the size. I didn’t want something larger than this; it fits in your hand.
I thought it had to be smooth on the back. The engineers wanted to make the back side flat. But I didn’t want the flatness to bother you when you’re listening to the music. I made two physical mock-ups for engineers so they could feel the difference. That’s how I convinced them to keep working on this. Afterward, the engineers joked that they didn’t want to work with me twice in a row.
Samsung ได้ออกมายืนยันว่าภาพ Concept ของทาง Sony ภาพนี้นี่แหละมีถูกเอามาปรับการออกแบบแต่งเติมอีกนิดหน่อยโดย Tony Fadell ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple ในตอนนั้น แล้วส่งให้ Steve Jobs และ Jony Ive ดู และสุดท้ายมันก็ออกมาเป็น iPhone
Right after this article was circulated internally, Apple industrial designer Shin Nishibori was directed to prepare a “Sony-like” design for an Apple phone and then had CAD drawings and a three-dimensional model prepared. Eliminating any doubt about the origin of the design‘s inspiration, Apple‘s internal CAD drawings had the “Sony” name prominently emblazoned on the phone design, as the below images from Apple‘s internal documents show…Soon afterward, on March 8, 2006, Apple designer Richard Howarth reported that, in contrast to another internal design that was then under consideration, Mr. Nishibori‘s “Sony-style” design enabled “a much smaller-looking product with a much nicer shape to have next to your ear and in your pocket” and had greater “size and shape/comfort benefits.” As Mr. Nishibori has confirmed in deposition testimony, this “Sony-style” design he prepared changed the course of the project that yielded the final iPhone design
ถ้ามาว่ากันตอนนี้ก็ไม่รู้ยังไง Samsung เองอาจจะรู้จริงก็เป็นได้ ? หรือว่าอีกทางนึงคืออาจจะมั่วมาก็เป็นไปได้อีกเหมือนกันครับ ตอบยากแบบนี้ แล้วคุณละคิดว่า Apple ลอก Sony มาจริงๆรึเปล่า ?
ที่มา: phonearena
http://www.mxphone.net/270712-samsung-claims-apple-iphone-was-besed-on-sony-design-concept-floated-in-2006/
_________________________________________________
SAMSUNG อาจจะขาย SMARTPHONE ได้มากกว่า APPLE ถึง 2 เท่า!
ถือ เป็นครั้งแรกที่ทาง Apple ขาย iPhone ได้ต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ โดยขายอยู่ที่ 26 ล้านเครื่องหลังจากที่ประมาณไว้ที่ 28 ล้านเครื่องหรือมากกว่า และนี่อาจจะเป็นประตูให้ Samsung แซงแบบว่าน็อกรอบเอาได้ โดยตอนนี้เองทาง Samsung มียอดขาย Smartphone เป็นตัวเลขอยู่ที่ 52 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็น 2 เท่าของยอดขาย iPhone กันเลยทีเดียว
ในปีที่แล้วทาง Samsung มีเป้าหมายในการล้ม Nokia ให้ได้เพื่อที่จะเป็นผู้ผลิต Smartphone เบอร์ 1 ของโลกซึ่งก็ทำสำเร็จไปแล้ว และตอนนี้เองทาง Samsung อาจจะทำได้ดีเว่อร์ไปกว่านั้นก็คือการมียอดขาย Smartphone มากกว่าทาง Nokia ถึง 5 เท่าด้วยกันเพราะว่าทาง Juniper Research ได้ออกมาประมาณการณ์ว่าทาง Nokia ขาย Smartphone ได้ราวๆ 10.2 ล้านเครื่องเท่านั้นในไตรมาสที่ 2 นี้และส่วน RIM เองขายได้ที่ 7.2 ล้านเครื่อง
ที่เรารู้ตอนนี้ก็คือ ทาง Samsung ทำยอดขาย Samsung Galaxy S III ไปแล้วถึง 10 ล้านเครื่องตั้งแต่เปิดตัวออกมา และรวมถึงมี Galaxy Note ที่เร่งยอดขายให้เติบโตอีกอย่างต่อเนื่อง บวกกับการเปิดตัวกับทาง T-Mobile USA ล่าสุดทำให้ยอดขายพุ่งอีกรอบ แต่อย่างไรก็ตามยอดขายนั่นก็บอกอะไรทั้งหมดไม่ได้เพราะว่าต้องอย่าลืมว่า Samsung เองตัวเลขเป็นแบบนี้ก็มีรวมทั้งรุ่นเล็กๆอย่าง Galaxy Y และ Galaxy Pocket ด้วย ซึ่งมากกว่ายอดขายของ Galaxy S III และ Note ด้วยซ้ำ
ทาง Juniper ได้ให้ความเห็นว่า “อุปกรณ์ Galaxy นั้นถูกปล่อยสู่ตลาดด้วยการเล่นเรื่องของราคาเป็นหลักถือเป็นจุดแข็งแบรนด์ ระดับโลกและส่งผลให้ Android เป็นที่นิยมในทุกช่วงราคา”
ยังมีอีก เรื่องที่น่าสนใจก็คือว่าทางสำนักวิจัยยังได้ยืนยันว่าแบรนด์ Sony นั้นคือ 1 ในแบรนด์ที่กำลังน่าจับตามองในตอนนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งการขายที่ไปได้ทั่วทั้งโลกรวมถึงการออกแบบเครื่องที่โดดเด่น สุดท้ายผมว่ากำไรคือเรื่องที่สำคัญสุดครับและ Apple ทำได้ดีกว่าในเรื่องนี้
ที่มา: phonearena
http://www.mxphone.net/270712-samsung-might-twice-smartphone-sell-as-apple/
ไม่มีความคิดเห็น: