Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

31 ตุลาคม 2554 แอลจีขาดทุนต่อ แต่คุ้มต้นทุนของบริษัทได้ดีขึ้น // ซัมซุงชูมือถือขายดีแซงแอปเปิล

แอลจีขาดทุนต่อ แต่คุ้มต้นทุนของบริษัทได้ดีขึ้น // ซัมซุงชูมือถือขายดีแซงแอปเปิล


ประเด็นหลัก

***แอลจียอดขายหด

ตัวเลขขาดทุน 4.14 แสนล้านวอนนั้นพลิกหน้ามือเป็นหลังมือจากที่แอลจีเคยกำไร 7.57 หมื่นล้านวอนเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในภาพรวม แอลจีระบุว่ายอดจำหน่ายของบริษัทนั้นลดลงราว 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นมูลค่ารวม 12.9 ล้านล้านวอน

อย่างไรก็ตาม แอลจียังได้รับคำชมว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ไม่ขาดทุนมากกว่านี้ โดยสามารถปรับปรุงตัวเลขผลการขาดทุนจากการดำเนินงานให้ลดลงเพราะการเพิ่ม ประสิทธิภาพกลไกควบคุมต้นทุนของบริษัทได้ดีขึ้น
__________________________________________________________

แอลจีขาดทุนต่อ ซัมซุงชูมือถือขายดีแซงแอปเปิล

แฟ้มภาพแคมเปญเปิดตัวทีวีจอแบนรุ่นหนึ่งของแอลจี ล่าสุด ธุรกิจแฟลตพาแนลคือหนึ่งในธุรกิจที่ทำให้แอลจีขาดทุนในไตรมาสที่ผ่านมา

แอลจี (LG Electronics) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติเกาหลีใต้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา (กรกฎาคม-กันยายน) ว่าขาดทุนสุทธิ 4.14 แสนล้านวอน (ราว 1.09 หมื่นล้านบาท) เหตุเพราะลงทุนหนัก และยอดขายจากธุรกิจผลิตภัณฑ์จอแบนและสมาร์ทโฟนไม่เติบโตอย่างที่ควร

ทั้งหมดนี้สวนทางกับเพื่อนร่วมชาติอย่างซัมซุง ซึ่งรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2011 ว่ามีกำไรสุทธิ 3.44 ล้านล้านวอน (ประมาณ 95,000 ล้านบาท) ลดลง 23% จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนรายได้อยู่ที่ 41.27 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 3%

ที่สำคัญ บริษัทวิจัยเชื่อว่าซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้เพิ่มขึ้นแซงหน้าแชมป์อย่างแอปเปิลแล้วในไตรมาสที่ผ่านมา

***แอลจียอดขายหด

ตัวเลขขาดทุน 4.14 แสนล้านวอนนั้นพลิกหน้ามือเป็นหลังมือจากที่แอลจีเคยกำไร 7.57 หมื่นล้านวอนเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในภาพรวม แอลจีระบุว่ายอดจำหน่ายของบริษัทนั้นลดลงราว 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นมูลค่ารวม 12.9 ล้านล้านวอน

อย่างไรก็ตาม แอลจียังได้รับคำชมว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ไม่ขาดทุนมากกว่านี้ โดยสามารถปรับปรุงตัวเลขผลการขาดทุนจากการดำเนินงานให้ลดลงเพราะการเพิ่ม ประสิทธิภาพกลไกควบคุมต้นทุนของบริษัทได้ดีขึ้น

ทั้งหมดนี้ แอลจีแถลงว่าเพราะปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลกส่งผลกระทบ ต่อยอดจำหน่ายของแอลจีตลอดไตรมาส โดยการขาดทุนเกิดขึ้นจากการลงทุนซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในไตรมาสดังกล่าวมี มูลค่าสูง ไม่ได้เกิดจากการบกพร่องเรื่องการดำเนินงานแต่อย่างใด

แอลจีเปิดเผยว่า เฉพาะหน่วยธุรกิจแฟลตพาแนล (flat panel) หรือผลิตภัณฑ์หน้าจอแบนทั้งทีวีและหน้าจอแอลซีดี แอลจีต้องขาดทุนทั้งที่ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว แอลจียังสามารถทำกำไรได้ 2.24 แสนล้านวอน

นอกจากนี้ สินค้าในธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของแอลจีนั้นมียอดขายตกลง 8% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นยอดขาย 2.76 ล้านล้านวอน

แอลจีนั้นเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 3 ของโลก ปัจจุบันกำลังอยู่ในที่นั่งผู้ท้าชิงตลาดสมาร์ทโฟนที่มีจุดแข็งรองจากเพื่อ ร่วมชาติอย่างซัมซุง (Samsung) และแอปเปิล (Apple) ผลงานล่าสุดของแอลจีคือการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 4G ที่รองรับเครือข่ายข้อมูลไร้สายความเร็วสูง Long-Term Evolution (LTE) ซึ่งคาดว่าจะได้รับความนิยมในตลาดที่เริ่มให้บริการ 4G แล้วในยุโรปและสหรัฐฯ

แอลจีเผยว่า สมาร์ทโฟน 4G, ทีวี 3 มิติรุ่นใหม่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากแอลจีที่ใช้งานง่ายและประหยัดพลังงาน จะเป็นสินค้าที่ผลักดันให้แอลจีเติบโตในตลาดได้ในอนาคต

***ซัมซุงมือถือสดใส

ซัมซุงชูผลประกอบการในธุรกิจโทรศัพท์มือถือว่าสามารถทำยอดขายสถิติสูงสุด ครั้งใหม่ โดยตลอด 3 เดือนซัมซุงสามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเกินมูลค่า 14.9 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 37% จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว

ซัมซุงเผยว่า กำไรในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นมีมูลค่าราว 2.52 ล้านล้านวอน อานิสงส์จากสินค้าตระกูล Galaxy ซึ่งเฉพาะ Galaxy S II ซัมซุงระบุว่าสามารถจำหน่ายได้มากกว่า 10 ล้านเครื่องในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา


ที่น่าสนใจคือ ผลการวิจัยล่าสุดของบริษัท Strategy Analytics พบว่า กำไรกว่า 60% ของซัมซุงในไตรมาสนี้มาจากธุรกิจจำหน่ายสมาร์ทโฟน โดยจากที่ก่อนหน้านี้ ตำแหน่งผู้ผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของโลกนั้นเป็นของโนเกียมา ตลอด แต่ไตรมาส 3 ของปี (กรกฎาคม-กันยายน 54) ที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของซัมซุง สามารถแซงหน้าแอปเปิลขึ้นมาเป็นหมายเลข 1 ได้แล้ว

Strategy Analytics ประเมินว่าซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 27.8 ล้านเครื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มากกว่าแอปเปิลที่ขายได้ราว 17.1 ล้านเครื่อง และโนเกียที่จำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ราว 16.8 ล้านเครื่อง

ตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนซัมซุง 27.8 ล้านเครื่องคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 44% เชื่อว่ายอดขายถล่มทลายทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรให้ซัมซุง ถึง 60% ของกำไรทั้งหมดที่ซัมซุงทำได้ ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีการยืนยันใดๆจากซัมซุงในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจผลิตชิปหรือเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงกลับมีรายได้และกำไรลดลง สาเหตุจากยอดสั่งซื้อที่ลดลงเพราะตลาดพีซีโลกชะลอตัว ซึ่งให้ผลหักล้างกับการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนโลก ผลที่เกิดขึ้นจึงเป็นการทรงตัวของยอดสั่งซื้อชิปซัมซุงตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9540000136730

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.