05 พฤศจิกายน 2555 (เกาะติดระมูล3G) วิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมขอพิจารณาให้สอบผู้มีส่วนได้เสีย 3G รอบด้าน
ประเด็นหลัก
นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ สทค. ได้เข้ายื่นคำร้องเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ต่อเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีการฮั้วประมูล ทำให้รัฐได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงนั้น นายวิชัย
นายวิชัย กล่าวว่า สทค. และสมาชิกในฐานะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และอาจได้รับความเสียหายต่อผลการพิจารณา และกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคำร้องดังกล่าว ของผู้ตรวจการฯ จึงเห็นว่า หากกระบวนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ในการประมูลคลื่น 3G ต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าเกินสมควร ก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชน และผลประโยชน์สาธารณะของประเทศเป็นจำนวนมาก จึงขอยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการฯ เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณา และสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้การพิจารณาคำร้องดังกล่าวนั้นยุติที่กระบวนการของผู้ตรวจการฯ เท่านั้น โดยเห็นว่าหากกระบวนการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครอง อาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้า และส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนได้
__________________________________
สทค.ร้องผู้ตรวจการฯ สอบข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนการประมูล 3G
นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ สทค. ได้เข้ายื่นคำร้องเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ต่อเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีการฮั้วประมูล ทำให้รัฐได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงนั้น นายวิชัย กล่าวว่า ในฐานะที่ สทค.เป็นผู้มีส่วนได้เสีย อาจจะได้รับความเสียหายจากผลการพิจารณาในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคำร้องต่างๆ โดยกล่าวอีกว่า หากกระบวนการออกใบอนุญาตการประมูลคลื่นความถี่ต้องหยุดชะงักลง หรือล่าช้าออกไป จะทำให้มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน โดยคาดหวังว่าข้อมูลการพิจารณาต่างๆ นั้น จะทำให้ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล เนื่องจากจะทำให้ทุกอย่างนั้นล่าช้าออกไป
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135308&Keyword=3g
__________________________________
สมาคมโทรคมฯ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินขอพิจารณาผู้มีส่วนได้เสีย 3G รอบด้าน
สมาคมโทรคมนาคม ยื่นเรื่องผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริง จากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน กรณีการประมูล 3G และหวังว่าขั้นตอนทุกอย่างจะจบในระดับผู้ตรวจการฯ เพราะหากเข้าสู่กระบวนการศาลปกครองเกรงจะใช้เวลานานและอาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้า และส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนได้
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (สทค.)ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้คุ้มครองประโยชน์สาธารณะกรณีการประมูลคลื่น 3G หลังจากมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาข้อเท็จจริงกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ดำเนินการประมูลคลื่น 3G โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการฮั้วประมูลกัน, มีรายได้การประมูลต่ำ และส่งผลเสียต่อรัฐอย่างร้ายแรง รวมทั้งขอให้ส่งความเห็นต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
นายวิชัย กล่าวว่า สทค. และสมาชิกในฐานะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และอาจได้รับความเสียหายต่อผลการพิจารณา และกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคำร้องดังกล่าว ของผู้ตรวจการฯ จึงเห็นว่า หากกระบวนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ในการประมูลคลื่น 3G ต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าเกินสมควร ก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชน และผลประโยชน์สาธารณะของประเทศเป็นจำนวนมาก จึงขอยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการฯ เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณา และสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้การพิจารณาคำร้องดังกล่าวนั้นยุติที่กระบวนการของผู้ตรวจการฯ เท่านั้น โดยเห็นว่าหากกระบวนการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครอง อาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้า และส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนได้
ด้านนายเฉลิม กล่าวว่า จะนำข้อมูลดังกล่าวส่งให้คณะทำงานเพื่อพิจารณาและนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง และยืนยันว่างานของผู้ตรวจการฯ ไม่ได้มุ่งจับผิดใคร แต่มีหลักในการพิจารณาโดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ในกระบวนการหากผู้ตรวจการฯเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีปัญหาทางข้อกฎหมาย ผู้ตรวจการฯก็สามารถยุติเรื่องดังกล่าวในชั้นการพิจารณาของผู้ตรวจการฯ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องไปยังศาลปกครองได้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นดุลยพินิจของผู้ตรวจการฯ ที่จะพิจารณา
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135281&Keyword=3g
นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ สทค. ได้เข้ายื่นคำร้องเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ต่อเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีการฮั้วประมูล ทำให้รัฐได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงนั้น นายวิชัย
นายวิชัย กล่าวว่า สทค. และสมาชิกในฐานะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และอาจได้รับความเสียหายต่อผลการพิจารณา และกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคำร้องดังกล่าว ของผู้ตรวจการฯ จึงเห็นว่า หากกระบวนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ในการประมูลคลื่น 3G ต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าเกินสมควร ก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชน และผลประโยชน์สาธารณะของประเทศเป็นจำนวนมาก จึงขอยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการฯ เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณา และสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้การพิจารณาคำร้องดังกล่าวนั้นยุติที่กระบวนการของผู้ตรวจการฯ เท่านั้น โดยเห็นว่าหากกระบวนการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครอง อาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้า และส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนได้
__________________________________
สทค.ร้องผู้ตรวจการฯ สอบข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนการประมูล 3G
นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ สทค. ได้เข้ายื่นคำร้องเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ต่อเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีการฮั้วประมูล ทำให้รัฐได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงนั้น นายวิชัย กล่าวว่า ในฐานะที่ สทค.เป็นผู้มีส่วนได้เสีย อาจจะได้รับความเสียหายจากผลการพิจารณาในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคำร้องต่างๆ โดยกล่าวอีกว่า หากกระบวนการออกใบอนุญาตการประมูลคลื่นความถี่ต้องหยุดชะงักลง หรือล่าช้าออกไป จะทำให้มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน โดยคาดหวังว่าข้อมูลการพิจารณาต่างๆ นั้น จะทำให้ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล เนื่องจากจะทำให้ทุกอย่างนั้นล่าช้าออกไป
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135308&Keyword=3g
__________________________________
สมาคมโทรคมฯ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินขอพิจารณาผู้มีส่วนได้เสีย 3G รอบด้าน
สมาคมโทรคมนาคม ยื่นเรื่องผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริง จากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน กรณีการประมูล 3G และหวังว่าขั้นตอนทุกอย่างจะจบในระดับผู้ตรวจการฯ เพราะหากเข้าสู่กระบวนการศาลปกครองเกรงจะใช้เวลานานและอาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้า และส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนได้
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (สทค.)ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้คุ้มครองประโยชน์สาธารณะกรณีการประมูลคลื่น 3G หลังจากมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาข้อเท็จจริงกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ดำเนินการประมูลคลื่น 3G โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการฮั้วประมูลกัน, มีรายได้การประมูลต่ำ และส่งผลเสียต่อรัฐอย่างร้ายแรง รวมทั้งขอให้ส่งความเห็นต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
นายวิชัย กล่าวว่า สทค. และสมาชิกในฐานะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และอาจได้รับความเสียหายต่อผลการพิจารณา และกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคำร้องดังกล่าว ของผู้ตรวจการฯ จึงเห็นว่า หากกระบวนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ในการประมูลคลื่น 3G ต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าเกินสมควร ก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชน และผลประโยชน์สาธารณะของประเทศเป็นจำนวนมาก จึงขอยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการฯ เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณา และสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้การพิจารณาคำร้องดังกล่าวนั้นยุติที่กระบวนการของผู้ตรวจการฯ เท่านั้น โดยเห็นว่าหากกระบวนการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครอง อาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้า และส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนได้
ด้านนายเฉลิม กล่าวว่า จะนำข้อมูลดังกล่าวส่งให้คณะทำงานเพื่อพิจารณาและนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง และยืนยันว่างานของผู้ตรวจการฯ ไม่ได้มุ่งจับผิดใคร แต่มีหลักในการพิจารณาโดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ในกระบวนการหากผู้ตรวจการฯเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีปัญหาทางข้อกฎหมาย ผู้ตรวจการฯก็สามารถยุติเรื่องดังกล่าวในชั้นการพิจารณาของผู้ตรวจการฯ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องไปยังศาลปกครองได้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นดุลยพินิจของผู้ตรวจการฯ ที่จะพิจารณา
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135281&Keyword=3g
ไม่มีความคิดเห็น: