Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

30 พฤศจิกายน 2555 ศุภชัย ประกาศ พร้อมลงทุนในพม่ารอเพียงพม่าเปิดไลเซ่นส์ // เอาเงินpremierลงทุนรายการเสริมCTHคุยกับใครต้องแข่งขันกัน

ประเด็นหลัก



ส่วนธุรกิจต่างประเทศ นั้นที่ผ่านมากลุ่มทรูฯ ได้ไปทำธุรกิจ ได้แก่ ลาว, มาเลเซีย,กัมพูชา คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะไปเปิดการทำธุรกิจใหม่ในพม่า ซึ่งกลุ่มทรูฯสนใจที่จะไปลงทุนในธุรกิจข่ายสาย และเคเบิลทีวีซึ่งจะต้องรอพม่าเปิดให้ใบอนุญาต (ไลเซ่นส์)ประกอบธุรกิจสายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงก่อน

“พม่าเป็นธุรกิจอะไรที่นักลงทุนไทย สนใจเข้าไปทำ ซึ่งเราก็มองว่าจะเข้าไปเราก็จะสนใจที่จะเข้าไปทำธุรกิจด้านเคเบิลทีวี ข่ายสาย แต่ก็สนใจหลายอย่างแต่เปิดไลเซ่นส์อันไหนก่อนก็เอาอันนั้น”นายทรงธรรม กล่าว

สำหรับ กลุ่มทรูฯ กลุ่ม Enterprise and Business Sector เมื่อต้นปี 2555ที่ผ่านมา ได้ปรับโครงสร้าง โดยการแยกกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มลูกค้ารัฐบาล 2.ด้านการสถาบันศึกษา 3.ลูกค้าด้านอสังหาริมทรัพย์


นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า ว่า  ทรู วิชั่นส์ จะตั้งอยู่บนหลักการหารายการอื่นมาทดแทน  ยังคงยืนยันว่า ทรู วิชั่นส์ จะยังเป็นคิงส์ ออฟสปอร์ต จะพยายามหารายการกีฬาระดับโลกมาเสริม รวมถึงคอนเทนส์ต่าง ๆ  พร้อมการแพร่ภาพแบบไฮเดฟิเนชั่น โดยเน้นความพึงพอใจของลูกค้ามากที่สุด

ส่วนผลกระทบหากสิ้นสุดพรีเมียร์ลีก นายศุภชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้ประเมินผลกระทบเกี่ยวกับสมาชิก แต่มั่นใจว่า การทดแทนเนื้อหารายการต่าง ๆ จะทำให้สมาชิกพอใจ เพระจะเอาเงินจากที่ต้องใช้ในการประมูลพรีเมียร์มาเพิ่มรายการต่าง ๆ ให้กับสมาชิก  ส่วนกรณีที่ซีทีเอชเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาคุยธุรกิจ นายศุภชัย กล่าวว่า ในโลกธุรกิจไม่สามารถทำได้ ต้องแข่งขันกัน.







_______________________________________




"ศุภชัย" โวทำ ทรู วิชั่นส์ เป็น“คิงส์ ออฟ สปอร์ต”


"ศุภชัย" เผย ทรู วิชั่นส์จะกวาดทุกกีฬา แม้จะพลาดพรีเมียร์ลีก เสริมช่องเอชดี คุยเอาเงินที่เคยประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกไปเสริมเนื้อหาอื่น เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด
วันนี้(30พ.ย.) นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า ว่า  ทรู วิชั่นส์ จะตั้งอยู่บนหลักการหารายการอื่นมาทดแทน  ยังคงยืนยันว่า ทรู วิชั่นส์ จะยังเป็นคิงส์ ออฟสปอร์ต จะพยายามหารายการกีฬาระดับโลกมาเสริม รวมถึงคอนเทนส์ต่าง ๆ  พร้อมการแพร่ภาพแบบไฮเดฟิเนชั่น โดยเน้นความพึงพอใจของลูกค้ามากที่สุด

ส่วนผลกระทบหากสิ้นสุดพรีเมียร์ลีก นายศุภชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้ประเมินผลกระทบเกี่ยวกับสมาชิก แต่มั่นใจว่า การทดแทนเนื้อหารายการต่าง ๆ จะทำให้สมาชิกพอใจ เพระจะเอาเงินจากที่ต้องใช้ในการประมูลพรีเมียร์มาเพิ่มรายการต่าง ๆ ให้กับสมาชิก  ส่วนกรณีที่ซีทีเอชเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาคุยธุรกิจ นายศุภชัย กล่าวว่า ในโลกธุรกิจไม่สามารถทำได้ ต้องแข่งขันกัน.

เดลินิวส์
http://www.dailynews.co.th/technology/169926

_______________________________________

ทรูฯประกาศรุกธุรกิจต่างแดนเพิ่ม ลุ้นรัฐบาลพม่าเปิดไลเซ่นส์


นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการบริหาร ด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจ และบริการระหว่างประเทศ (กลุ่ม Enterprise and Business Sector) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในปีหน้า กลุ่มทรูฯ ได้ตั้งเป้าจะมีรายได้สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร (อินเตอร์ไพรซ์)ที่ให้บริการแบบครบวงจรราว 10,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ ณ สิ้นปีนี้ น่าจะมีรายได้ราว 8,500 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าว ยังไม่ได้รวมรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรในภาคธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่มทรูฯทั้งหมด ได้แก่ 1.กลุ่มลูกค้ารัฐบาล 2.ด้านสถาบันการศึกษา 3.ด้านอสังหาริมทรัพย์ฯซึ่งถ้ารวมรายได้ทั้ง 3 กลุ่ม คาดว่ารายได้รวมทั้งสิ้นในปี 2555 จะอยู่ราว 10,000 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการกลุ่มลูกค้าองค์กรในปีนี้ที่ 8,500 ล้านบาท นั้นคาดว่าจะมาจากธุรกิจมือถือของลูกค้าองค์กร ราว 1,500-1,600 ล้านบาท แต่ในปีหน้าคาดว่าน่าจะเติบโตเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันลูกค้าองค์กรของกลุ่มทรูฯมีทั้งสิ้นราว 1 แสนราย แบ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ (คอร์ปอเรท) 3,000 รายและบริษัทขนาดเล็ก และขนาดกลาง (เอสเอ็มอี) โดยปีหน้าจะเน้นการหาตลาดในเขตพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น โดยมองว่าในอนาคตยังมีตลาดของบริษัทอีกเป็นจำนวนมาก โดยทรูฯ มีลูกค้าในต่างจังหวัดอยู่ที่ 10,000 ราย และยังคงมีลูกค้าราว 1 แสนราย ที่ยังสามารถเข้าไปทำตลาดได้

“มองว่าในปีหน้าที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท สำหรับในกลุ่มเอสเอ็มอีถึงแม้จะทำให้เอสเอ็มอี มีต้นทุนที่สูงขึ้นแต่เชื่อว่าคงมีการนำเทคโนโลยีใหม่มาทดแทนทำให้การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่น่าจะมีผลกระทบ ต่อการขยายตลาดของบริษัท และอีกใน 2-3 ปี ข้างหน้า มือถืออัจฉริยะ(สมาร์ทโฟน)ราคาน่าจะปรับลง เพราะจะมีรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดจะทำให้ราคาของสมาร์โฟนปรับลดลง” นายทรงธรรม กล่าว

ขณะเดียวกันการเตรียมพร้อม และสร้างเครือข่ายความร่วมมือภาคอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี โดยเฉพาะในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสื่อสาร มองว่าสิ่งที่ต้องเตรียมตัวรับมือกับ เออีซี คือการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ให้มีต้นทุนที่สามารถ แข่งขันได้ รวมทั้งการปรับปรุงทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับบริษัท ที่จะไปลงทุนออกสู่ตลาดระดับนานาชาติ และยังเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มเอสเอ็มอีมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้กลุ่มทรูฯ มีความพร้อมในการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมทุกประเภท เพื่อส่งเสริมกลุ่มธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบสื่อสารพื้นฐาน (ฟิกซ์ไลน์) ระบบอินเตอร์เนตไร้สาย (ไวไฟ) การเชื่อมต่อของข้อมูลผ่านอินเตอร์เนตความเร็วสูง(บรอดแบนด์) หรือการเช่าโครงข่ายเชื่อมต่อ ข้อมูลภายในองค์กร รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่น สำหรับธุรกิจแบบครบวงจร ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเปิด เออีซี

ส่วนธุรกิจต่างประเทศ นั้นที่ผ่านมากลุ่มทรูฯ ได้ไปทำธุรกิจ ได้แก่ ลาว, มาเลเซีย,กัมพูชา คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะไปเปิดการทำธุรกิจใหม่ในพม่า ซึ่งกลุ่มทรูฯสนใจที่จะไปลงทุนในธุรกิจข่ายสาย และเคเบิลทีวีซึ่งจะต้องรอพม่าเปิดให้ใบอนุญาต (ไลเซ่นส์)ประกอบธุรกิจสายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงก่อน

“พม่าเป็นธุรกิจอะไรที่นักลงทุนไทย สนใจเข้าไปทำ ซึ่งเราก็มองว่าจะเข้าไปเราก็จะสนใจที่จะเข้าไปทำธุรกิจด้านเคเบิลทีวี ข่ายสาย แต่ก็สนใจหลายอย่างแต่เปิดไลเซ่นส์อันไหนก่อนก็เอาอันนั้น”นายทรงธรรม กล่าว

สำหรับ กลุ่มทรูฯ กลุ่ม Enterprise and Business Sector เมื่อต้นปี 2555ที่ผ่านมา ได้ปรับโครงสร้าง โดยการแยกกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มลูกค้ารัฐบาล 2.ด้านการสถาบันศึกษา 3.ลูกค้าด้านอสังหาริมทรัพย์


แนวหน้า
http://www.naewna.com/business/32129

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.